เครือ พี.เอ็ม. กรุ๊ป เปิดตัว คอนโดฯใหม่ล่าสุด“เดอะเนสท์ จุฬาฯ – สามย่าน”
ราคาที่คุ้มค่าที่สุดในโซนเริ่มต้นเพียง 3.29 ล้านบาทในงาน Presale 26-27 ต.ค.นี้
“สามย่าน” คือหนึ่งในสุดยอดทำเลที่หลายต่อหลายคนต้องการที่จะมีพร็อพเพอร์ตี้ไว้ครอบครองยมากที่สุดอีกทำเลหนึ่ง ด้วยเพราะ เป็นจุดที่เชื่อมระหว่างย่านเศรษฐกิจเก่า แถวๆเยวราช กับย่านเศรษฐกิจใหม่ย่านสีลม มีแหล่งไลฟ์สไตล์ ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย อีกทั้งยังมีอาคารสำนักงาน สถานการศึกษา และแม่หล็กใหญ่ที่เป็น Landmark ใหม่ของทำเลสามย่านก็คือโครงการสามย่านมิตรทาวน์ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นาน นอกจากนี้ในบริเวณโดยรอบสามย่าน จุฬา และแนวถนนพระราม 4 ยังมี Mega projects มากมายมูลค่าหลายแสนล้านบาทที่กำลังก่อสร้างจากบิ๊กดีเวลลอปเปอร์ ซึ่งคาดกันว่าอีก 5-6 ปี จากนี้ไปเมื่อโครงการ Mega projects ต่างๆสร้างเสร็จจะพลิกโฉมถนนเส้นนี้ ให้กลายเป็นถนนเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด ของประเทศไทยด้วยศักยภาพของทำเลประกอบกับปัจจัยพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว ทำให้ทำเล “สามย่าน” มีความต้องการที่พักอาศัยเป็นจำนวนมาก เป็นสาเหตุให้มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ตบเท้าเข้ามาซื้อที่ดินทยอยพัฒนาโครงการออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (The NEST Property) ผู้ประกอบการอสังหาฯในกลุ่มบริษัทพี.เอ็ม. กรุ๊ป ได้เก็บที่ดินแปลงสวยมาพัฒนาโครงการ เดอะ เนสท์ จุฬาฯ – สามย่าน (THE NEST CHULA-SAMYAN) คอนโดมิเนียมใหม่แบบฟรีโฮลด์โครงการแรกที่อยู่ในซอยจินดาถวิล
นางสาวอุษณา มหากิจศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มบริษัท พี.เอ็ม. กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการที่คอนโดมิเนียม Low Rise ตามแนวใกล้รถไฟฟ้า โครงการที่พัฒนาจะอยู่ในระดับราคาจับต้องได้เริ่มต้น 3-5 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าคนทำงานในเมืองที่มองหาบ้านหลังที่สองและกลุ่มนักลงทุน โดยในไตรมาส 4 ปี 2562 ได้เปิดตัวคอนโดฯใหม่ล่าสุด “เดอะเนสท์ จุฬาฯ – สามย่าน” (THE NEST CHULA-SAMYAN) บนเนื้อที่ 2.4 ไร่ เป็นโครงการคอนโดฯ Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร โดยอาคาร A จำนวน 149 ยูนิต ,อาคาร B จำนวน 183 ยูนิต รวมทั้งสิ้น 332 ยูนิต มูลค่าโครงการ ประมาน 1500 ล้านบาท เริ่มก่อสร้าง ไตรมาส 1 ปี 2563 คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2564
“โครงการ เดอะเนสท์ จุฬาฯ – สามย่าน” เน้นลูกค้าเป้าหมาย คือกลุ่มที่อยู่อาศัยเดิม ซื้อเก็บไว้ให้ลูกหลาน , กลุ่มผู้ปกครอง โรงเรียน และมหาวิทยาลัย ,กลุ่มคนทำงานในโซนสามย่าน ,กลุ่มผู้ประกอบการค้าขายในพื้นที่ พระราม 4 / สี่พระยา / บรรทัดทอง / กลุ่มนักลงทุนทั้งในและนอกพื้นที่ รวมถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติ มีห้องพักอาศัยให้เลือก 2 แบบ คือ ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 21.14-36.91 ตารางเมตร(ตร.ม) และห้องแบบ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 47.35-49.39 ตารางเมตร มีพื้นที่จอดรถ 40 % พิเศษ! เปิดตัวด้วยราคาที่คุ้มค่าที่สุดในโซนเริ่มต้นเพียง 3.29 ล้านบาทหรือราคา 145,000 บาทต่อตารางเมตร ในงาน Presale วันที่ 26-27 ตุลาคม 2562 เปิดให้จองทุกชั้น เพียง 332 ยูนิต เพียงงานเดียวเท่านั้นหมดแล้วหมดเลย! พร้อมรับดีลพิเศษ + ลุ้นสิทธิ์ Lucky Draw ลงทะเบียน รับฟรี! iPhone 11 Pro Max มูลค่ากว่า 40,000.-* *เมื่อจองและทำสัญญาในงานสำหรับท่านที่สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่ สำนักงานขาย โครงการ เดอะเนสท์ จุฬาฯ – สามย่าน หรือ http://www.thenestproperty.co.th
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะเนสท์ฯ กล่าวด้วยว่า “ โครงการเดอะเนสท์ จุฬาฯ – สามย่าน” พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “A THOUGHTFUL COLLECTION of MEMORIES : ให้ความทรงจำดีดี โอบล้อมชีวิตคุณ” การออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมาจากบริบทของความเป็นสามย่าน ทั้งรูปแบบสถาปัตยกรรม หน้าตาอาคารรวมถึงวิถีชีวิตของชุมชนในย่านนั้น ดังนั้นรูปแบบโครงการจึงเป็นการนำเอารูปแบบอาคารของย่านนั้นมาประยุกต์ใช้ให้ตัวโครงการกลมกลืนเข้ากับบริบทโดยรอบ โดยลดทอน Detail ทำให้ยังมีความ Modern ที่คนเจนนี้สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ลักษณะการวางอาคาร จะเป็นการวางอาคารเป็นรูปตัว U ล้อมสวนส่วนกลางอยู่ด้านใน เพื่อให้มีความรู้สึก Relax ร่มรื่นเป็นส่วนตัว สร้างความ Privacy ให้กับสวนส่วนกลาง ซึ่งภายใน Court กลางจะออกแบบให้อ้างอิงจากรูปแบบของสวนจีน โดยให้มีที่นั่งพักผ่อนตามมุมต่าง เพื่อให้รู้สึกถึงความผ่อนคลายอย่างแท้จริง
“สามย่าน เป็นชุมชนในย่านเก่าของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวความทรงจําดีๆ ของคน ทุกยุคทุกสมัย เรามั่นใจในศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการ คุ้มค่าแก่การซื้อเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุนปล่อยเช่า” นางสาวอุษณา กล่าวพร้อมกับให้ความเห็นถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่ว่ามีความต้องการคอนโดในพื้นที่ ปัจจุบันยังได้รับการตอบรับที่ดี สังเกตจากโครงการที่เกิดขึ้นมาในอดีตและปัจจุบันยังมียอดขายที่ดี และบริษัทก็มั่นใจว่า “โครงการเดอะเนสท์ จุฬาฯ – สามย่าน” จะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดผู้บริโภคเพราะที่ตั้งโครงการโอบล้อมไปด้วยสถานศึกษา สถานที่ท่องเที่ยวพร้อมการเดินทางที่สะดวกสบาย ผลงานการออกแบบและตกแต่งภายในอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยฟังก์ชันพิเศษที่สะดวกสบายมีความเป็นส่วนตัว พร้อม Facilities ที่เหมาะกับการพักผ่อนและใช้งานในทุกมิติ การันตีงานออกแบบ จากThailand Property Awards
ภายใน “โครงการเดอะเนสท์ จุฬาฯ – สามย่าน” ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ลอบบี้, สวนและพื้นที่นั่งเล่นภายนอกอาคาร, สระว่ายน้ำพร้อมด้วยสระเด็ก,ห้องออกกำลังกาย, ห้องประชุม Co-Working Space, สระว่ายน้ำ ชั้นดาดฟ้า ,พื้นที่ซักรีด, Wi-Fi ในพื้นที่ส่วนกลาง, พนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชม.ระบบคีย์การ์ด, CCTV นอกจากนี้ ที่ตั้งโครงการยังแวดล้อมไปด้วยสถานที่ใกล้เคียงสำคัญๆที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย อาทิ สามย่านมิตรทาวน์ ,จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ,รพ.จุฬาลงกรณ์ ,สภากาชาดไทย ,หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ,เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ,สยามพารากอน อีกทั้งการเดินทางก็สะดวกสบาย เพราะโครงการทำเลใกล้ย่าน CBD สำคัญของกรุงเทพฯ เพื่อเชื่อมต่อทุกการเดินทาง ใกล้ศูนย์กลางแหล่งช้อปปิงขนาดใหญ่ และเป็นย่านที่มีความผสมผสานของไลฟ์สไตล์ กับเทรนด์ใหม่ของการใช้ชีวิต ที่สะดวกสบายได้ยิ่งกว่าโดยอยู่ใกล้ MRTสถานีสามย่าน เพียง 600 เมตร การเดินทางถนนพระราม 4 ,รถไฟฟ้าMRT สถานีสามย่าน และ BTS สถานีสยาม
ทั้งนี้ “โครงการเดอะเนสท์ จุฬาฯ – สามย่าน” เป็นโครงการที่ห้า ของบริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการมาอย่างต่อเนื่อง โครงการแรก คือ The Nest เพลินจิต (เดอะเนสท์ เพลินจิต) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 64 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ,โครงการที่สอง คือ The Nest สุขุมวิท 22 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 22) เป็นโครงการ Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 316 ยูนิต มีมูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท,โครงการที่สาม คือ The Nest สุขุมวิท 64 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 64) เป็นโครงการ Low Rise สูง 8 ชั้น มี 3 อาคาร จำนวน 439 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท โครงการที่สี่ คือ The Nest สุขุมวิท 71 (เดอะเนสท์ สุขุมวิท 71) บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ เป็นคอนโดฯ Low Rise สูง 8 ชั้น 5 อาคาร คลับเฮ้าส์ 2 ชั้น 1 อาคาร รวมจำนวน 515 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท