ทุนสิงคโปร์ ร่วมลงทุน Fulcrum Ventures มั่นใจ อสังหาฯไทย เริ่มบ้านเดี่ยว “พานารา เทพารักษ์” 5,000 ล้านบาท
ทุนสิงคโปร์ ร่วมลงทุน Fulcrum Ventures สวนอสังหาฯ ไทยขาลง
Greenfield Advisory ทุนรายใหญ่จากสิงคโปร์จับมือกลุ่มทุนโรงแรม ร่วมลงทุน Fulcrum Ventures “Life Is An Opportunity” สวนกระแสอสังหาฯ ขาลง แย้มแผนลงทุนถึงกลางปีหน้ามูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ปักหมุดในไทยด้วย “พานารา เทพารักษ์” โครงการบ้านเดี่ยวทำเลศักยภาพติดถนนใหญ่ New CBD กรุงเทพฯ ตะวันออก วางแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 5 ปี
ผู้บริหาร กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้
มร.ดีภัค มิชรา ผู้ก่อตั้ง บริษัท กรีนฟิลด์ แอดไวซอรี่ จำกัด (Greenfield Advisory Pte Ltd Singapore) เปิดเผยว่า กลุ่มกรีนฟิลด์ซึ่งมีที่ตั้งบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีประสบการณ์ลงทุน ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วทุกทวีปในโลก มาต่อเนื่องยาวนาน ทั้งในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป ได้เริ่มเข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2553 โดยในช่วง 5 ปีแรกเข้าลงทุนธุรกิจบริการประเภทโรงแรม, เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ต่อมาทำการศึกษาวิจัยหลายธุรกิจ แล้วจึงได้ขยายภาคการลงทุนสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แม้ในช่วงปีที่ผ่านมาธุรกิจนี้จะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่เชื่อว่ายังเป็นธุรกิจที่มีโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และเติบโตได้ในอนาคต นอกจากนั้นที่สำคัญยังเชื่อมั่นในศักยภาพ และเสถียรภาพของเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่มีความมั่นคงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ในภูมิภาคเอเชีย โดยได้วางแผนงานพัฒนาโครงการไว้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
“กรีนฟิลด์ แอดไวซอรี่ เป็นกลุ่มทุนที่มีธุรกิจในเครือมากมาย เราได้เรียนรู้ตลาดในประเทศไทย รู้จักวัฒนธรรมของคนไทยมากขึ้น จึงได้ขยายธุรกิจสู่โครงการประเภทแนวราบ หรือ “บ้านเดี่ยว” เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมาทั่วโลก มีผลการศึกษาความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ ทำให้รู้ความต้องการของลูกค้า แม้ว่าจะแตกต่างวัฒนธรรมไปในแต่ละประเทศ แต่การเรียนรู้ปัญหาของลูกค้า ทำให้สามารถที่จะรังสรรค์สิ่งต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี สมกับชื่อบริษัทและแทคไลน์ Fulcrum Ventures “Life Is An Opportunity” – “ชีวิตคือโอกาส ” มร.ดีภัค กล่าว
นายสมศักดิ์ ศรีคุรุวาฬ ผู้อำนวยการ บริษัท ฟัลครัม เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงความเป็นมาของการจับมือเป็นพันธมิตรธุรกิจกับกลุ่มกรีนฟิลด์ฯ เพื่อก่อตั้งบริษัท ฟัลครัม เวนเจอร์สฯ ว่าเริ่มจากการชักชวนโดยเข้ามาซื้อกิจการโรงแรมและคอนโดมิเนียมแอสพีร่าที่สมุยเป็นแห่งแรก จากนั้นซื้อที่ดินเปล่า ที่ป่าตอง ภูเก็ต และตามมาด้วยโรงแรม แกรนด์ สวิส สุขุมวิท 11 เป็นต้น จนถึงปัจจุบันฟัลครัม เวนเจอร์สฯ มีสินทรัพย์ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม, เซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ และที่ดินเปล่าหลายแห่ง ตั้งเป้าหมายที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 2 โครงการ ซึ่งจากนี้ไปจนถึงกลางปีหน้ามีแผนพัฒนาโครงการคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยยังคงเน้นโครงการประเภทแนวราบหรือบ้านเดี่ยวเป็นหลัก และมีแผนที่จะเข้าระดมทุนตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 5 ปีอีกด้วย
“หัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์“ฟัลครัม เวนเจอร์ส” คือ การส่งมอบสินค้าคุณภาพให้ถึงมือลูกค้า ซึ่งกว่าจะเกิดโครงการแรกของเรา ต้องผ่านการศึกษาวิเคราะห์วิจัยตัวแทนกลุ่มเป้าหมายหลายร้อยตัวอย่างและใช้เวลานานหลายปี จนมั่นใจว่าเป็นโครงการที่สมบูรณ์แบบ” นายสมศักดิ์ กล่าว
มร.อัมฤทธิ์ทานชู รอย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท กรีนฟิลด์ แอดไวซอรี่ จำกัด กล่าวว่า จากประสบการณ์การทำธุรกิจทั่วทุกทวีป ทั่วโลก ทำให้รู้ถึงปัญหาและความต้องการของลูกค้าหรือผู้บริโภค (Customer experience ) ข้อมูลที่ได้สามารถนำมาพัฒนาให้เป็นประโยชน์ การใส่ใจในทุกรายละเอียดก็เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าผู้อยู่อาศัยในโครงการ และผลการศึกษาวิจัยที่ได้รับจากหลายประเทศหลากหลายวัฒนธรรม ทำให้ออกแบบโครงการโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการใช้ประโยชน์ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพ ไปจนถึงทำเลที่ดินติดถนนใหญ่ จึงมีความพร้อมและมั่นใจอย่างเต็มที่ในการเปิดตัวโครงการ “พานารา เทพารักษ์” ว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว ถือเป็นจุดแข็งของการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ฟัลครัม เวนเจอร์ส
นางเมลดา คุณานุวัฒน์ รองประธานกรรมการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ฟัลครัม เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่าโครงการพานารา เทพารักษ์ (Panara Thepharak - Exclusive Space, Privileged Life.) เป็นโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพบนทำเลทองประมาณ 30 ไร่ติดถนนใหญ่ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี สมุทรปราการ โดยเป็นบ้านเดี่ยว Premium Luxury 2 และ 3 ชั้น บนที่ดิน 50-60 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 182-367 ตร.ม. มีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ คือ ขนาดเล็กสุด 50 ตร.วา เป็นรูปแบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถ 2 คัน สำหรับครอบครัวเริ่มต้น, บ้านขนาดกลาง 60 ตร.วา เป็นรูปแบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถ 2 คัน รองรับสำหรับการขยายขนาดครอบครัวและขนาดใหญ่สุด 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถ 3 คัน สำหรับบ้านขนาดใหญ่สุดนั้นมีพื้นที่ใช้สอยถึง 367 ตร.ม. ที่มาพร้อมลิฟต์โดยสาร 1 ตัว และห้องแม่บ้านที่มีห้องน้ำในตัวแบบแยกทางเข้า-ออกจากทางหลักของบ้าน ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 7-15 ล้านบาท โดยมีทั้งหมด 129 หลัง มูลค่าโครงการประมาณ 1,250 ล้านบาท
“การออกแบบบ้านและบรรยากาศภายในโครงการ ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกเราคิดไว้ให้อย่างครบถ้วน สำหรับการอยู่อาศัยในแบบฉบับเอกสิทธิพิเศษเฉพาะผู้อยู่โครงการพานารา เทพารักษ์ เท่านั้น อาทิ คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนส ห้อง Meeting พร้อม Wifi สวนสาธารณะภายในโครงการที่เน้นพื้นที่สีเขียว ยกระดับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าโครงการเข้ามา มีการแยกประตูทางเข้า-ออกของลูกบ้าน กับ Visitor ชัดเจน พร้อมกล้องวงจรปิดทั้งโครงการ ภายในตัวบ้านเราติดตั้งระบบ Home Automation ทุกหลัง การออกแบบพานาราเราไม่เพียงแต่คำนึงถึงหน้าตาบ้าน หรือแค่นำ Technology เข้ามาเพื่อความสะดวกสบายเท่านั้น แต่เราเน้น ให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ สำหรับความสบายใจในการอยู่อาศัย เพราะอยากให้บ้านเป็นที่ที่คุณรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยมากที่สุด ในยุคสังคมเมืองซึ่งเป็นวิถีของมนุษย์ทำงาน การออกแบบทั้งตัวบ้านและโครงการของเรา เน้นถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวเป็นหลัก อยากให้บ้านไม่ใช่เป็นเพียง ที่อยู่อาศัย แต่บ้านจะเป็นที่พักพิงของทุกคนในครอบครัว ที่มีหลายเจนเนอเรชั่น ด้วยความเอาใจใส่ของโครงการ เหมือนประโยคที่ว่า “Home is where the heart is” นางเมลดา กล่าว
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย โดยพบอัตราการเพิ่มขึ้นของสถานพยาบาลผู้สูงอายุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งโครงการคำนึง ถึงหัวใจของผู้สูงอายุที่ต้องการอยู่ท่ามกลางการดูแลของลูกหลาน จึงออกแบบบ้านเดี่ยวสามชั้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวใหญ่ โดยภายในตัวบ้านจะมีลิฟต์โดยสาร ที่ผู้สูงวัยสามารถขึ้น-ลงได้อย่างสะดวกสบาย เป็นการดูแลตนเองได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนั้นยังมี Elder Care System เป็นระบบความปลอดภัยในตัวบ้านเพิ่มขึ้นสำหรับบ้านทุกแบบในโครงการ หากเกิดอุบัติเหตุกับผู้สูงอายุจะ มีการแจ้งเตือนไปยังลูกหลาน เพื่อความสุขสบายใจของผู้อยู่อาศัยในโครงการพานารา
โครงการพานารา เทพรักษ์ ยังตอบโจทย์เทรนด์การอยู่อาศัยในอนาคตควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญกับการนำ Technology เข้ามามีส่วนช่วยลดมลพิษ มีการติดตั้ง EV charger สำหรับบ้านเดี่ยว 3 ชั้นทุกหลัง และยังได้ติดตั้งในพื้นที่ส่วนกลางสำหรับลูกบ้านภายในโครงการ เป็นการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด เข้ามาทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนั้นยังมีระบบ Home Ventilation ระบบระบายอากาศเพื่อลดอุณหภูมิภายในบ้านอีกด้วย
ทั้งนี้ย่านเทพารักษ์ จัดเป็นส่วนพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ที่มีการเติบโตของกรุงเทพ ฝั่งตะวันออก หรือ New CBD การเดินทางสะดวกด้วยโครงข่ายถนนและทางด่วน ใกล้ถนนกาญจนาภิเษกฯ ทางด่วนบูรพาวิถี มีระบบสาธารณูปโภคสาธารณูปการ สถานที่บริการและธุรกิจสำคัญของทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น ใกล้สนามบินแห่งชาติสุวรรณภูมิ, MEGA บางนา, IKEA บางนา, ตลาดนัดเรือบิน, โรงพยาบาลบางพลี, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 5, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3, โรงพยาบาลเซ็นทรัลปาร์ค, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ – บางนา (ABAC Bangna), มหาวิทยาลัยหัวเฉียว, โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว, โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสุวรรณภูมิ, โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ (SISB), The American School of Bangkok (Bangna) เป็นต้น