ADS


Breaking News

ซีอีโอของหัวเว่ยต้องการแบ่งปันเทคโนโลยี 5G ให้แก่บริษัททั่วโลก

กรุงเทพฯ/ 17 กันยายน 2562 – หัวเว่ยต้องการแชร์เทคโนโลยี 5G กับโลกตะวันตก จากบทสัมภาษณ์กับนิตยสาร ดิอีโคโนมิสต์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ มร. เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท กล่าวว่า หัวเว่ยหวังที่จะช่วยโลกให้พัฒนา 5G ได้รวดเร็วขึ้นด้วยการขายสิทธิ์การเข้าถึงเทคโนโลยีและเทคนิคการผลิต 5G ของบริษัท 
“5G เป็นเทคโนโลยีเพื่อการเชื่อมต่อที่ให้ความเร็วสูง แบนด์วิดท์สูง และความหน่วงเวลา (Latency) ต่ำ เทคโนโลยี 5G เป็นตัวบ่งบอกถึงความเร็วของสังคมที่ขับเคลื่อนโดยข้อมูล  ประเทศที่มีความเร็วจะก้าวไปข้างหน้าได้เร็วกว่า” เขากล่าว “เราอยากช่วยเพิ่มความเร็วในการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศตะวันตก ดังนั้นเรากำลังคิดที่จะขายใบอนุญาตในการเข้าถึงเทคโนโลยี 5G ของเราทั้งหมดเพื่อช่วยให้กระบวนการพัฒนานี้ทำได้ง่ายขึ้น” 

ด้วยการจ่ายค่าใบอนุญาตเพียงครั้งเดียว ผู้ซื้อจะสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมด อันได้แก่ สิทธิบัตร ใบอนุญาต โค้ด และบลูปรินท์ทางเทคนิคของ 5G ของบริษัท  โดยบริษัทที่ซื้อ 5G ของหัวเว่ยไปสามารถแก้ไขโค้ดเอง รวมถึงพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ของตัวเองได้โดยอาศัยเทคนิคการผลิตเทคโนโลยีที่ได้รับใบอนุญาตไป

“ความปรารถนาของเรา คือการให้บริการแก่มวลมนุษยชาติและไปให้ถึงจุดสุดยอดทางด้านวิทยาศาสตร์ การทำงานร่วมกันเป็นค่านิยมที่เรายึดมั่นมาตลอด เราจึงยินดีที่จะขายใบอนุญาตสำหรับอุปกรณ์ของเราให้แก่ประเทศตะวันตก” มร. เหริน กล่าว

อย่างไรก็ตาม มร.เหริน ยืนยันว่าข้อเสนอที่จะขายเทคโนโลยีให้แก่ผู้อื่นนั้นไม่ได้หมายความว่าหัวเว่ยจะหยุดพัฒนา 5G ของตนเอง “การส่งต่อเทคโนโลยี 5G ให้บริษัทอื่นไม่ได้แปลว่าเราจะหยุดพัฒนาเทคโนโลยีของเรา แต่หมายความว่าเงินก้อนที่เราได้จากการขายเทคโนโลยีจะช่วยให้เราก้าวไปข้างหน้าได้ไกลขึ้น”  มร. เหรินกล่าว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าก้าวต่อไปของบริษัทที่ มร. เหริน กล่าวถึงนั้น คือการพัฒนาเทคโนโลยี 6G ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของเราก้าวไปข้างหน้าได้รวดเร็วกว่าเคย และ มร. เหริน ก็มั่นใจในประสิทธิภาพของเทคโนโลยีขั้นกว่าอย่าง 6G ที่หัวเว่ยกำลังพัฒนาอยู่ “ผมคิดว่าหัวเว่ยจะเป็นผู้นำในการวิจัย 6G แต่เราคิดว่าการใช้งาน 6G ในเชิงพาณิชย์จะต้องใช้เวลาพัฒนาอีกอย่างน้อย 10 ปี” มร. เหริน กล่าว

ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยกล่าวว่าเทคโนโลยี 5G ไม่ควรถูกนำไปโยงกับการเมืองหรือถูกมองว่าเป็นสิ่งที่อันตราย ประเทศต่าง ๆ ควรทำการตัดสินใจเกี่ยวกับ 5G โดยคำนึงถึงการพัฒนา มากกว่าวาระทางการเมือง

“หากเราส่งต่อเทคโนโลยีของเราให้แก่สหรัฐฯ พวกเขาก็สามารถแก้ไขโค้ดเองได้ ไม่ว่าหัวเว่ยหรือใครก็ตามจะไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ได้อีกต่อไป สหรัฐฯ จะได้มี 5G ที่เป็นอิสระ ความปลอดภัยจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปตราบเท่าที่สหรัฐฯ สามารถจัดการบริษัทของตนเองได้อย่างไร้ข้อบกพร่อง เช่นนั้นแล้ว มันก็จะไม่ใช่เรื่องเราขาย 5G ในสหรัฐฯ อีกต่อไป แต่สหรัฐฯ จะได้ขาย 5G ในประเทศของตนเอง”

นอกจากการมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแล้ว ตำแหน่งผู้นำของหัวเว่ยในแวดวง 5G นั้นยังมาจากราคาที่ย่อมเยาของอุปกรณ์ และความสามารถของบริษัทในการวิจัย พัฒนา และให้บริการผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูงภายในเวลาอันรวดเร็วจนยากที่จะหาใครมาเทียบได้ มร. เหริน กล่าวว่า เคล็ดลับความสำเร็จของหัวเว่ย คือการลงทุนอย่างต่อเนื่องไปกับการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการให้เกียรติบริษัทคู่ค้าและลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลกที่ใช้บริการของเรา นับตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มดำเนินธุรกิจ

“สำหรับหัวเว่ย ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์และการปกป้องความเป็นส่วนตัวเป็นสองสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด หัวเว่ยมุ่งมั่นปฏิบัติตามข้อบังคับของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (General Data Protection Regulation: GDPR) ในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ เรากำลังทุ่มงบมหาศาลไปกับการอัปเกรดเครือข่ายที่มีอยู่ พร้อม ๆ ไปกับสร้างเครือข่ายใหม่” มร. เหริน กล่าว “ตลอดเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ให้บริการเครือข่ายครอบคลุมกว่า 170 ประเทศ รองรับผู้ใช้งานกว่า 3 พันล้านคนทั่วโลก เรามีสถิติด้านความปลอดภัยที่พิสูจน์ได้ และจริง ๆ แล้ว เราไม่เคยมีเหตุขัดข้องด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่เลยแม้แต่ครั้งเดียว ผมคิดว่าผลงานที่ปรากฏอยู่จะเป็นตัวพิสูจน์เอง” 

—จบ—

เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยโซลูชั่นที่ผสมผสานในสี่กลุ่มหลัก คือ เครือข่ายโทรคมนาคม, ไอที, สมาร์ทดีไวซ์ และบริการคลาวด์ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ยเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการแข่งขันและเชื่อถือได้ จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศแบบเปิด หัวเว่ยสามารถสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมสมรรถนะของผู้คน ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรทุกรูปแบบและทุกขนาด นวัตกรรมของหัวเว่ยเน้นตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในด้านการวิจัย เน้นค้นหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้า เรามีพนักงานกว่า 180,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด  

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย ได้ที่ www.huawei.com 
ติดตามเราได้ที่