“พริงเกิลส์-เถ้าแก่น้อย” เปิดตัว 3 รสชาติใหม่! บุกตลาดโลก
ตลาดสแน็คสะเทือน! สองยักษ์ใหญ่
“พริงเกิลส์-เถ้าแก่น้อย”
“พริงเกิลส์-เถ้าแก่น้อย”
ผนึกกำลังสร้างโปรดักส์ จากรสชาติสุดฮิต
สู่การเปิดตัว 3 รสชาติใหม่!
สู่การเปิดตัว 3 รสชาติใหม่!
ผสานความเป็นตะวันตกและเอเชียได้อย่างลงตัว
พร้อมบุกตลาดทั่วเอเชีย
เรียกเสียงฮือฮาในตลาดขนมขบเคี้ยว และการจับตาความเคลื่อนไหวของสองค่ายยักษ์ใหญ่เป็นอย่างมาก กับการจับมือร่วมกัน หรือ Co-Branding ครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกระหว่างอันดับ 1 แห่งมันฝรั่งกระป๋องอย่าง “พริงเกิลส์” (Pringles) สแน็คสัญชาติอเมริกัน และ “เถ้าแก่น้อย” เจ้าตลาด สาหร่ายปรุงรส อันดับ 1 ของไทย ที่ผนึกกำลังสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รสชาติ ด้วยคอนเซ็ปต์ East Meets West เพื่อนซี้ความอร่อยที่ลงตัว เตรียมลุยตลาดไทยและทั่วเอเชียพร้อมบุกตลาดทั่วเอเชีย
พริงเกิลส์ และเถ้าแก่น้อย จับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อแชร์ประสบการณ์และสูตรของรสชาติที่ได้รับความนิยม มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดมันฝรั่งกระป๋อง และอันดับ 1 ในตลาดสาหร่ายปรุงรส ด้วยต้องการยกระดับประสบการณ์ผู้บริโภคให้ได้ลองรสชาติที่แปลกใหม่ แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกใจและ ถูกปากกลุ่มลูกค้า จึงทำการคิดค้นพัฒนาสุดยอดผลิตภัณฑ์ ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและเอเชีย ได้อย่างลงตัว ด้วย 3 รสชาติใหม่ โดยดึงรสชาติยอดนิยมของแต่ละแบรนด์ ออกมาเป็น พริงเกิลส์ รสสาหร่ายเถ้าแก่น้อยคลาสสิก (Classic Seaweed), พริงเกิลส์ รสสาหร่ายเถ้าแก่น้อย เผ็ด (Hot & Spicy Seaweed) และ สาหร่ายเถ้าแก่น้อย รสพริงเกิลส์ ซาวครีมและหัวหอม (Sour Cream & Onion)
นายสมิทธิ จีรนันทน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการร่วมงานครั้งแรกกับพริงเกิลส์ ว่า “เถ้าแก่น้อยรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับคำชวนจากทางพริงเกิลส์ ให้มาทำงานร่วมกัน เพราะแบรนด์เถ้าแก่น้อยเองก็เป็นสาหร่ายที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 รสชาติถูกปากคนไทย และมีจำหน่ายในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยมุ่งเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่ชอบความแปลกใหม่ ดังนั้นทางเถ้าแก่น้อยเองก็มีการนำเสนอสิ่งใหม่ให้กับผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ สำหรับการออกสินค้ารสชาติใหม่ เถ้าแก่น้อยรสพริงเกิลส์ ซาวครีมและหัวหอม ภายใต้คอนเซ็ปต์ East Meets West ถือเป็นอะไรที่ตอบโจทย์เรามาก เพราะเราเองก็ต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคอยู่แล้ว การได้สูตร Sour Cream & Onion ที่เป็นรสชาติยอดนิยมของแบรนด์พริงเกิลส์ที่มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 40 ปี ยิ่งทำให้เราตื่นเต้น และหวังว่าความแปลกใหม่นี้น่าจะครองใจแฟนชาวไทยและเอเชียของเถ้าแก่น้อย อีกทั้งเรายังหวังว่าการ Co-Branding ครั้งนี้จะสร้างความสนใจให้เกิดขึ้นกับลูกค้าต่างชาติ อาทิ แถบยุโรป อเมริกา แอฟริกา ที่มาท่องเที่ยวในเอเชีย และยังไม่เคยรู้จักหรือลองแบรนด์เถ้าแก่น้อยอีกด้วย”
สำหรับด้านการทำการตลาดนั้น นายสมิทธิ กล่าวต่อว่า “ในการทำตลาดของสินค้า 3 รสชาติใหม่นี้ ทางพริงเกิลส์และเถ้าแก่น้อยได้มีทำการตลาดร่วมกัน ทั้งในการทำหนังโฆษณาในสื่อดิจิทัล และการทำแจกชิมสินค้านอกสถานที่ และยังมีการโปรโมชั่นในห้างร้านเพื่อสนับสนุนการเปิดตัวของเราอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อโปรโมทการรวมตัวกันครั้งยิ่งใหญ่ของเราครับ เรามั่นใจมากว่าสินค้าใหม่ของเราจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งในและต่างประเทศ”
สำหรับตลาดขนมขบเคี้ยวในปี 2562 คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมกว่า 38,000 ล้านบาท โดยตลาดมันฝรั่งทอดกรอบมีมูลค่าอยู่ที่กว่า 12,499 ล้านบาท เติบโต 14.3% ทั้งนี้พริงเกิลส์ถือครองตลาดมันฝรั่งกระป๋องเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 90% โดยรสชาติที่ขายดีที่สุดคือ รสซาวครีมและหัวหอม ในขณะที่ตลาดสาหร่ายปรุงรสมีมูลค่าตลาดที่ 3,000 ล้านบาท เถ้าแก่น้อยถือครองส่วนแบ่งตลาดที่ 70% เติบโตจากเดิม 5% โดยมีสินค้าเด่นในปี 2562 ได้แก่ สาหร่ายย่าง เถ้าแก่น้อย BigRoll ที่เติบโตมากกว่า 40% และเถ้าแก่น้อยเทมปุระไข่เค็ม ที่เพิ่งฉลองยอดขาย 2 ล้านซองทั่วโลกไปเมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา
#PringlesxTaokaenoi #TaokaenoixPringles #เพื่อนซี้ความอร่อยที่ลงตัว