ADS


Breaking News

หัวเว่ยเผย 10 เมกะเทรนด์ในปี 2568

     เซิ่นเจิ้น, ประเทศจีน/ 13 สิงหาคม 2562 – หัวเว่ยเผยแพร่รายงานวิสัยทัศน์อุตสาหกรรมทั่วโลก (Global Industry Vision - GIV) คาดการณ์การพัฒนาด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมต่อเนื่องถึงปี 2568

     จากการรวบรวมข้อมูลในเชิงปริมาณของหัวเว่ยและกรณีการใช้งานจริงของเทคโนโลยีอัจฉริยะในอุตสาหกรรมทุกประเภท  รายงาน GIV ของปีนี้ชี้ให้เห็น 10 เมกะเทรนด์ที่ขณะนี้ได้ส่งผลต่อรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานของเราแล้ว รายงานฉบับนี้ยังได้คาดการณ์ถึงเทรนด์ด้านเทคโนโลยีจนถึงปี 2568 ซึ่งรวมถึงอัตราของการครอบคลุมของ 5G, การใช้งาน AI (ปัญญาประดิษฐ์), การใช้งานหุ่นยนต์ในบ้าน ตลอดจนการใช้ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ (Smart Assistant)

     10 เทรนด์และตัวอย่างการคาดการณ์ในรายงานวิสัยทัศน์อุตสาหกรรมทั่วโลก (GIV) ปี 2568 มีดังนี้ 
1. ใช้ชีวิตกับหุ่นยนต์ (Living with Bots): ความก้าวหน้าทางด้านวัสดุศาสตร์ การเรียนรู้ของเอไอ และเทคโนโลยีเครือข่ายต่างๆ ส่งเสริมให้มีการใช้งานหุ่นยนต์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการเป็นผู้ช่วยในบ้านและผู้ช่วยส่วนตัว รายงาน GIV คาดการณ์ว่าทั่วโลกจะมีอัตราการใช้งานหุ่นยนต์ตามบ้านร้อยละ 14  
2. ซูเปอร์ไซต์ (Super Sight): การผนวกรวม 5G, VR/AR, แมชชีนเลิร์นนิ่ง และเทคโนโลยีใหม่อื่นๆ จะช่วยให้เรามองข้ามระยะทาง ความผิดสัดส่วน พื้นผิว และก้าวไปไกลกว่าที่เคย เปิดมุมมองการมองเห็นของผู้คน ธุรกิจ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย รายงาน GIV คาดการณ์ว่าจำนวนบริษัทที่ใช้ AR/VR จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10   
3. ซีโรเสิร์ช (Zero Search): เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ดีไวซ์ที่ขับเคลื่อนด้วยดาต้าและมีเซนเซอร์ เริ่มมีความสามารถในการคาดการณ์สิ่งที่เราต้องการ คำตอบจะปรากฏให้เห็นในแบบที่คุณไม่ต้องถามเลยด้วยซ้ำ   การค้นหาในอนาคตจะไม่มีปุ่มกด เครือข่ายสังคมส่วนบุคคลจะสร้างขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย และอุตสาหกรรมก็จะได้ประโยชน์จาก “การบำรุงรักษาที่ไม่ต้องค้นหา หรือที่เรียกว่า Zero-Search โดยรายงาน GIV ได้คาดว่าเจ้าของสมาร์ทดีไวซ์ร้อยละ 90 จะใช้ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ
4. ถนนเฉพาะ (Tailored Streets): ระบบการเดินทางอัจฉริยะต่างๆ จะเชื่อมโยงผู้คน ยานพาหนะ และสาธารณูปโภค ทำให้การจราจรไม่แออัด สนองตอบต่อเหตุฉุกเฉินได้รวดเร็ว พร้อมฟังก์ชันอื่น ๆ ที่จะทำให้ชีวิตราบรื่นยิ่งขึ้น โดย GIV คาดการณ์ว่ายานพาหนะร้อยละ 15 จะมีเทคโนโลยี Cellular Vehicle-to-Everything
5. ทำงานกับหุ่นยนต์ (Working with Bots): หลังจากที่ได้พลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมจำนวนมากไปแล้ว ระบบ Smart Automation จะเข้ามาช่วยงานที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูง การทำงานซ้ำ ๆ และอันตรายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการผลิต รายงาน GIV ได้คาดการณ์ว่าในอุตสาหกรรมจะมีหุ่นยนต์ 103 ตัวต่อพนักงานทุก ๆ 10,000 คน
6. ความคิดสร้างสรรค์แต่งเสริม (Augmented Creativity): เอไอคลาวด์จะช่วยลดต้นทุนและอุปสรรคในการเข้าถึงการทดลองทางวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และศิลปะ เปิดขุมทองแห่งโอกาสการสร้างสรรค์สำหรับทุกคน รายงาน GIV ฉบับนี้ได้คาดการณ์ว่าร้อยละ 97 ของบริษัทขนาดใหญ่จะมีการใช้งานเอไอ
7. การสื่อสารแบบต่อเนื่อง (Frictionless Communication): เอไอและระบบการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าจะสร้างการสื่อสารที่ไร้รอยต่อระหว่างบริษัทและลูกค้า รวมถึงทลายกำแพงทางภาษา ความเที่ยงตรง ความเข้าใจ และความเชื่อใจ จะกลายเป็นรากฐานของการสื่อสารในอนาคต โดย GIV คาดการณ์ว่าร้อยละ 86 ขององค์กรจะใช้ประโยชน์จากดาต้าของตัวเองอย่างเต็มที่
8. เศรษฐกิจการอยู่ร่วมกัน (Symbiotic Economy): บริษัททั่วโลกกำลังนำเทคโนโลยีดิจิทัลและแอปพลิเคชันอัจฉริยะบนแพลตฟอร์มการเข้าถึงแบบเดียวกันมาปรับใช้ การใช้ระบบเดียวกันนี้จะทำให้เกิดความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น การแบ่งปันทรัพยากร อีโคซิสเต็มระดับโลกที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และผลิตผลที่สูงขึ้น รายงาน GIV คาดการณ์ว่า บริษัททุกหนแห่งจะใช้เทคโนโลยีคลาวด์ และแอปพลิเคชันทางธุรกิจร้อยละ 85 จะอยู่บนคลาวด์
9. การติดตั้งใช้งาน 5G อย่างรวดเร็ว: 5G มาแล้ว และเริ่มมีการติดตั้งใช้งานรวดเร็วกว่าเทคโนโลยีไร้สายยุคก่อน ๆ มาก นำมาซึ่งโอกาสอันยิ่งใหญ่ทั้งสำหรับบุคคล ธุรกิจ และสังคม รายงาน GIV ได้คาดการณ์ว่า ร้อยละ 58 ของประชากรทั่วโลกจะสามารถเข้าถึง 5G ได้
10. การกำกับดูแลด้านดิจิทัลทั่วโลก: ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลต้องมีการถ่วงดุลด้วยมาตรฐานการจัดการข้อมูลที่ใช้ร่วมกันและหลักการใช้งานดาต้า GIV คาดการณ์ว่าปริมาณดาต้าทั่วโลกในหนึ่งปีจะสูงถึง 180 ZB (1 ZB เท่ากับ 1 ล้านล้านกิกะไบต์)

     มร. เควิน จาง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ด้านโครงสร้างสาธารณูปโภค ICT ของหัวเว่ย กล่าวไว้ว่า “การสำรวจของมนุษย์จะไม่มีวันสิ้นสุด เราควรจะตั้งเป้าหมายให้ไกลกว่าสิ่งที่เรามองเห็นในตอนนี้และมองไปยังอนาคต เปลี่ยนจากนวัตกรรมไปสู่การประดิษฐ์สิ่งใหม่ ๆ ในขณะที่ทุก ๆ อุตสาหกรรมเริ่มมีการปรับใช้ปัญญาประดิษฐ์, 5G, คลาวด์คอมพิวติ้ง และเทคโนโลยีใหม่อื่น ๆ เราก็มองเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่มีผลต่อชีวิต การทำงาน และสังคม  หัวเว่ยมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัล ประสบการณ์การใช้งาน และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการเชื่อมต่อในทุกหนแห่งสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ พันธกิจของเราคือการนำอนาคตอัจฉริยะและประโยชน์แห่งโอกาสในการเจริญก้าวหน้ามาสู่คนทุกคน บ้านทุกหลัง และองค์กรทุกแห่ง”

     รายงาน GIV @2025 ฉบับแรกได้มีการเผยแพร่ในปี 2561 เพื่อวิเคราะห์เทรนด์การพัฒนาอุตสาหกรรมและใช้เป็นแนวทางแนะนำเชิงยุทธศาสตร์สำหรับการใช้งาน ICT 

     หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงาน GIV @2025 โปรดไปที่ www.huawei.com/minisite/giv/en

—จบ—

เกี่ยวกับหัวเว่ย

     หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยโซลูชั่นที่ผสมผสานในสี่กลุ่มหลัก คือ เครือข่ายโทรคมนาคม, ไอที, สมาร์ทดีไวซ์ และบริการคลาวด์ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ยเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการแข่งขันและเชื่อถือได้ จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศแบบเปิด หัวเว่ยสามารถสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมสมรรถนะของผู้คน ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรทุกรูปแบบและทุกขนาด นวัตกรรมของหัวเว่ยเน้นตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในด้านการวิจัย เน้นค้นหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้า เรามีพนักงานกว่า 180,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด  

     อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย ได้ที่ www.huawei.com 
ติดตามเราได้ที่
http://www.linkedin.com/company/Huawei 
http://www.twitter.com/Huawei 
http://www.facebook.com/HuaweiTechTH 
http://www.google.com/+Huawei 
http://www.youtube.com/Huawei