ADS


Breaking News

โอท็อปอยุธยา เร่งปรับตัว ขาย ออฟไลน์ ก็ได้ ออนไลน์ ก็ดี ในโครงการ WISDOM GROWN TO ASEAN

     จังหวัดพระนครอยุธยาเดินหน้าผลักดันสินค้าโอท็อปสู่อาเซียน กระตุ้นผู้ผลิต ผู้ประกอบการโอท็อป ปรับตัวรับกระแสโลกเปลี่ยน หันใช้ช่องทางตลาดออนไลน์เป็นกลยุทธ์ค้าขาย แจงปีที่ผ่านมาสินค้าที่ค้าขายผ่านระบบออนไลน์มีมากกว่า 3.3 ล้านล้านรายการ ถึงเวลาที่ต้องปรับตัว พร้อมเปิดโครงการพัฒนาตน สร้าง 30 ต้นแบบโอท็อปขาย ออนไลน์ ออฟไลน์ ในโครงการส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยใช้ภูมิปัญญาและนวัตกรรม ภายใต้ชื่องาน WISDOM GROWN TO ASEAN 
     “ต่อยอด ภูมิปัญญาท้องถิ่น สู่ภูมิปัญญาสากลแห่งอาเซียน” จัดขึ้นในวันที่ 31 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม ที่ เออีซี  เทรด เซ็นเตอร์ บางปะอิน  
     ดร.สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงโครงการส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยใช้ภูมิปัญญาและนวัตกรรม ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ดำเนินโครงการมาต่อเนื่องว่า สินค้าโอท็อป  ผลิตภัณฑ์ชุมชน ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีความหลากหลาย  เพราะจังหวัดมีถึง 16 อำเภอ 200 ตำบล  แนวคิดพัฒนาสินค้าโอท็อปเริ่มมาตั้งแต่ปี 2545 ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาหลายตัว อาทิ มีดอรัญญิก  ช้อนสเตนเลส  การทำผลิตภัณฑ์ปลาตะเพียน  ผลิตภัณฑ์ผ้าผักตบชวา อาหารต่างๆเยอะมาก ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาต่อเนื่อง  ทั้งการพัฒนาโปรดักส์  แพจเกจจิ้ง   การพัฒนาคุณภาพของสินค้า การส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่าย  รวมทั้งการประกวดผลิตภัณฑ์ในจังหวัดตามนโยบายของรัฐบาล  

สำหรับโครงการส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยใช้ภูมิปัญญาและนวัตกรรม ภายใต้ชื่องาน WISDOM GROWN TO ASEAN “ต่อยอด ภูมิปัญญาท้องถิ่น สูู่ภูมิปัญญาสากลแห่งอาเซียน” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม ที่ เออีซี  เทรด เซ็นเตอร์ บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  เพื่อต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้กับ ผูู้ประกอบการ ทั้งดัานสินค้าและการขยายช่องทางการตลาด  สอดรับกระแสโลกการค้า ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  โดยเฉพาะการเข้ามามีบทบาท ของ  Ecommerce  ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเข้ากับสถานการณ์  ตอบสนองทั้งในส่วนของ online  และ  offline  สามารถแข่งขันทางการค้า ให้สินโอท็อปสามารถเชื่อมโยงสู่ตลาดอาเซียนได้
จังหวัดต้องการพัฒนาผู้ค้าให้มีความเข้าใจ  จึงได้จัดงาน WISDOM GROWN TO ASEAN ต่อยอดภูปัญญาท้องถิ่น สู่ภูมิปัญญาสากลแห่งอาเซียน” ในงานมีกิจกรรมจัดอบรมผู้ผลิต ผู้ประกอบการโอท็อป และมีการคัดเลือกผลิตภัณฑ์โอท็อปจำนวน 100 ผลิตภัณฑ์ให้เหลือ 30 ผลิตภัณฑ์ เพื่อนำมาพัฒนาสร้างความเข็มแข็ง  ขึ้นสู่ตลาดออฟไลน์ และออนไลน์  สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ จะได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม มองเห็นความแตกต่าง  การที่เข้าร่วมเป็นกลุ่มกว่า 100 คน 100 สินค้าโอท็อป  ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ได้รับการคัดเลือก หรือไม่ได้คัดเลือก   อย่างน้อยจะได้รู้ความแตกต่าง จากการเปรียบเทียบ  และเอากลับไปวิเคราะห์ศักยภาพสินค้าและพัฒนาต่อได้อย่างมีแนวทาง
     “ งานนี้ผู้ประกอบการยังได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น  ซึ่งมีความสำคัญและจำเป็นมากกว่าการออกงานเพื่อขายสินค้าปกติทั่วไป   เพราะโลกเปลี่ยน  รูปแบบการขายต้องมีหลากหลายช่องทางมาก วันนี้สินค้าออนไลน์ในประเทศกว่า 3.3 ล้านล้านรายการ ที่เกิดขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา เป็นสินค้าที่ผ่านระบบออนไลน์ต่างประเทศถึง 2.2 ล้านล้านรายการ  ดังนั้นรูปแบบการเรียนรู้พัฒนาดังที่โครงการดำเนินการนี้  จะช่วยให้ผู้ประกอบการนำความรู้ไปพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น  กลุ่มที่ได้รับการคัดสรรก็จะได้รับความรู้ โนฮาวมากขึ้น  อนาคตจะมีการพัฒนาให้เกิดความแข็งแรงยิ่งขึ้น ” ดร.สุจินต์ กล่าว

     สำหรับโครงการส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยใช้ภูมิปัญญาและนวัตกรรมนี้ ได้มีการเปิดรับสมัครผลิตภัณฑ์โอท็อป เข้าร่วมโครงการจนถึงวันที่ 26 กรกฏาคม 2562 และไปอบรมกันต่อที่สํานักงาน เออีซี  เทรดเซ็นเตอร์ อาคาร1 ชั้น5  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ในวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2562 โดยงานจะมีกิจกรรม  การพัฒนาความรู้ความเข้าใจ  การวางรากฐานพัฒนาต่างๆ พร้อมคําแนะนํา  ส่งเสริมการขยายตลาดสินค้าสู่ช่องทางแบบออนไลน์ และ สร้างหน้าร้านออนไลน์ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการทั้งในประเทศ และ ตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มจากตลาดอาเซียน ก่อนเพื่อเป็นโครงการนำร่อง   หลังจากคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์การคัดสรร เพื่อเข้าสู่กระบวนการพัฒนา 30 ราย เพื่อเข้าสู่ตลาดออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ และเข้าสู่ตลาดเพื่อขายสินค้าไปสู่ตลาดต่างประเทศต่อไป