ค้าปลีกไทยสู่ระดับโลก เซ็นทรัล รีเทล เคลื่อนทัพใหญ่มุ่งสู่ “New Central New Retail” ผนึกค้าปลีก 3 ประเทศ
เซ็นทรัล รีเทล สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ค้าปลีกไทยสู่ระดับโลก
เคลื่อนทัพใหญ่มุ่งสู่ “New Central New Retail”
ผนึกค้าปลีก 3 ประเทศ ต่อยอดความสำเร็จ Customer-Centric Omnichannel
เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัลและการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด
ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร เซ็นทรัล รีเทล เผยว่า “อาณาจักรค้าปลีกของเซ็นทรัล รีเทล เริ่มจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของธุรกิจครอบครัวเมื่อ 72 ปีก่อน ที่เรามุ่งมั่นในการนำเสนอประสบการณ์ช้อปปิ้งใหม่ ๆ ที่สามารถครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีกและเทรนด์เซ็ตเตอร์ โดยเป็นผู้ริเริ่มการทำห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของไทย ไปจนถึงการทำธุรกิจค้าปลีกแบบ Multi-format ผ่านการเปิดร้านค้าเฉพาะทางและธุรกิจค้าปลีกหลายรูปแบบ และปัจจุบันได้ ต่อยอดจากช่องทางออฟไลน์สู่ Omnichannel เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ยัง ประสบความสำเร็จในการขยายสาขาจนมีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก รวม 1,979 แห่ง ครอบคลุม 51 จังหวัดทั่วประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562) พร้อมทั้งต่อยอดความสำเร็จสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งในประเทศอิตาลีและเวียดนาม รวม 134 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562) ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดพัฒนา วันนี้ เซ็นทรัล รีเทล พร้อมแล้วที่จะมุ่งสู่ความสำเร็จอีกระดับ ภายใต้การบริหารจัดการโดยทีมงานมืออาชีพ นับเป็นก้าวใหม่ของเซ็นทรัล รีเทล และวงการค้าปลีกของไทย ที่พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในตลาดค้าปลีกระดับโลก”
ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ เซ็นทรัล รีเทล เผยว่า จากการที่ได้ร่วมทำงานกับกลุ่มเซ็นทรัลอย่างใกล้ชิด ผมเชื่อมั่นว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมและพร้อมที่สุดสำหรับเซ็นทรัล รีเทล ที่จะเดินหน้าสู่ความสำเร็จขั้นต่อไป จากปัจจัยสนับสนุนทางเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องการเติบโตของ GDP พร้อมด้วยกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ขยายตัว รวมถึงการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในประเทศไทยทั้งในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวและการเป็น 1 ใน 20 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก
“นอกจากปัจจัยเกื้อหนุนทางเศรษฐกิจ เซ็นทรัล รีเทล ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการบริหารงานจากธุรกิจครอบครัวสู่การขับเคลื่อนร่วมกับทีมผู้บริหารมืออาชีพทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งมากด้วยความสามารถและประสบการณ์ในการทำธุรกิจค้าปลีก พร้อมไปกับการเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่องของธรรมาภิบาลที่ดี รวมถึงยังห่วงใยและพร้อมเติบโตไปกับทุกสังคมที่เข้าไปดำเนินงาน ผ่านโครงการ ต่าง ๆ ซึ่งช่วยสร้างมูลค่า สร้างงาน สร้างอาชีพให้กับชุมชนพร้อมดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” ดร.ประสาร กล่าว
ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา เราดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ รวมทั้งการขยายธุรกิจรูปแบบใหม่จากการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงไปของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับเซ็นทรัล รีเทลในการเตรียมพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ ฯ ภายใต้วิสัยทัศน์และพันธกิจที่มุ่งหวังความเป็นเลิศในธุรกิจค้าปลีกที่สร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าผ่านช่องทางที่หลากหลายในทุกประเทศที่ดำเนินธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเซ็นทรัล รีเทล มีโมเดลการดำเนินธุรกิจที่มีเอกลักษณ์จากธุรกิจค้าปลีก ซึ่งครอบคลุม 3 กลุ่มหลัก คือ แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ ฟู้ด (Multi-category) ในหลากหลายรูปแบบ (Multi-format) ทั้งในและต่างประเทศ (Multi-market) ซึ่งทั้งหมดนี้เราได้พัฒนา ต่อยอด และเชื่อมทุกประสบการณ์ช้อปปิ้งของลูกค้า ด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เรียกว่า Central Retail Experience”
“ด้วยการพัฒนาโครงสร้างองค์กร การสร้างธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะการพัฒนาแพลตฟอร์มสู่ Customer-Centric Omnichannel Platform รวมถึงการพัฒนาธุรกิจหลัก ที่ได้กลายเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของเซ็นทรัล รีเทล สู่ยุค New Central New Retail ที่เราพร้อมเติมเต็มทุกประสบการณ์ของลูกค้ายุคดิจิทัล เพื่อให้เรามั่นใจว่าเซ็นทรัล รีเทล จะเป็นศูนย์กลางสำหรับการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดให้กับทุกคนภายใต้แนวคิด Central of Life ที่เราภาคภูมิใจ”
ธุรกิจค้าปลีกของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุม 51 จังหวัดทั่วประเทศไทยด้วยเครือข่ายห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ รวม 1,979 แห่ง มีห้างสรรพสินค้า 9 แห่งใน 8 เมืองยุทธศาสตร์ของอิตาลี รวมทั้งมีไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายสินค้าเฉพาะทางรวม 125 แห่ง ใน 37 เมืองในเวียดนาม (ข้อมูลจำนวนร้านค้า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562) ความแข็งแกร่งของเครือข่ายห้างร้านของกลุ่มเซ็นทรัลเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่เสริมให้องค์กรเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล กลุ่มเซ็นทรัลเปิดตัวเว็บไซต์ central.co.th อันเป็นจุดเริ่มต้นของการค้าออนไลน์และอีคอมเมิร์ซที่เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคเข้าสู่การค้าปลีกยุคใหม่ จากรากฐานที่มั่นคงของเครือข่ายห้างสรรพสินค้าและร้านค้า ผนวกกับการขยายตัวสู่โลกดิจิทัลในทุกแบรนด์ค้าปลีกที่สำคัญ ที่กลายเป็นส่วนผสมที่ผลักดันให้การดำเนินธุรกิจบน Customer-Centric Omnichannel Platform ของเซ็นทรัล รีเทล ได้เชื่อมต่อและครอบคลุมโลกแห่งการช้อปปิ้งทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อสร้างโอกาสในทางธุรกิจแบบไร้รอยต่อและสร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งให้กับผู้บริโภคแบบไร้ขีดจำกัด ซึ่งสามารถสร้างรายได้รวม (Total Gross Revenue) 240,297 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
“เรามุ่งมั่นจะเป็นบริษัทค้าปลีกที่ได้รับความเชื่อมั่นสูงที่สุดในหมู่ผู้บริโภคในทุกตลาดที่เราดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผมมั่นใจว่าทั้ง Physical Platform และ Digital Platform ของเซ็นทรัล รีเทล ทำให้เกิด Customer-Centric Omnichannel Platform ที่สมบูรณ์แบบ ด้วยความพร้อมจากศักยภาพในการนำเสนอสินค้าและบริการสำหรับเฉพาะบุคคลแบบ Personalization ที่ได้จากการวิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้าที่มีกว่า 27 ล้านรายทั่วโลก ร่วมกับการใช้เทคโนโลยี Machine Learning การพัฒนาบริการใหม่ ๆ อาทิ Chat & Shop, e-ordering, Click & Delivery, Click & Express, e-payment ฯลฯ รวมทั้งระบบการจ่ายเงินออนไลน์ในทุกรูปแบบ อาทิ QR code, E-wallet, Scan and Pay, Pay Now Pay Later ที่เราเชื่อว่าจะเป็นคำตอบสำหรับผู้บริโภคทุกคนที่ทั้งมีตัวเลือกสินค้าที่มากกว่า ถูกใจและตรงใจมากกว่า และสะดวกสบายมากกว่า” ญนน์กล่าวย้ำ
รากฐานอันแข็งแกร่งของ เซ็นทรัล รีเทล นำไปสู่ความพร้อมในการต่อยอดและยกระดับศักยภาพการแข่งขันและเติบโตครั้งใหม่ ที่เรียกว่า Central Retail Economy อันประกอบด้วย 3 หัวใจหลัก ได้แก่ 1. Business Highlights ความโดดเด่นในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีก 2. Thriving Ecosystem ระบบนิเวศที่เชื่อมโยงแต่ละโมเดลทางธุรกิจเข้าไว้ด้วยกันจนนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ 3. Clear Positioning to Win กลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามที่เราตั้งเป้าหมายไว้
ซึ่งทั้งหมดนี้ คือจุดแข็งและกลยุทธ์การเติบโตของ เซ็นทรัล รีเทล ที่เราจะมุ่งไปข้างหน้าสู่ New Central New Retail เพื่อการตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกระดับภูมิภาคและก้าวต่อไปสู่การเป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกระดับโลก ด้วยก้าวย่างก้าวแรกที่สำคัญ กับแผนการเดินหน้าเข้าสู่การเป็นบริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
###
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือเซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย และเป็นบริษัทเรือธงด้านค้าปลีกซึ่งเป็นรากฐานของกลุ่มเซ็นทรัล มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกที่สำคัญจำนวน 2, 120 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562) โดยนำเสนอสินค้าหลากหลายประเภท (Multi-Category) ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format) อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ในรูปแบบ Omnichannel โดยครอบคลุมกลุ่มแฟชั่น ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ซูเปอร์สปอร์ต Central Marketing Group (CMG) และ รีนาเชนเต (Rinascente) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ได้แก่ ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ เพาเวอร์บาย เหงียนคิม และกลุ่มฟู้ด ได้แก่ ท็อปส์ มาร์เก็ต ท็อปส์ เดลี่ ท็อปส์ พลาซ่า เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี และลานชี มาร์ท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 เซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมในหลากหลายประเทศ ได้แก่ ประเทศไทยที่มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้า รวมกัน 1,979 แห่ง ใน 51 จังหวัด พร้อมทั้งยังดำเนินธุรกิจค้าปลีกในประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม รวมกัน 134 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562)
เกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของ Robinson โดย Central Retail
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) (“ROBINS”) ได้รับหนังสือแจ้งจากบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“Central Retail”) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ROBINS เรื่องการปรับโครงสร้างธุรกิจภายใต้กลุ่ม Central Retail เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับ Central Retail ในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกและการนำหุ้นของ Central Retail เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (“การทำ IPO”)
Central Retail มีความประสงค์ที่จะรวมธุรกิจค้าปลีกต่าง ๆ ของ Central Retail ในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และประเทศอิตาลี ให้เข้ามาอยู่ภายใต้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพียงบริษัทเดียว เพื่อให้เป็นผู้นำ ในการดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and multi-category) เพื่อให้ผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยการขยายธุรกิจห้างสรรพสินค้าภายใต้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพียงบริษัทเดียว และเพื่อสร้างบริษัทที่เป็นแกนนำในการดำเนินธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัลที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และเป็นช่องทางที่จะทำให้ธุรกิจของกลุ่ม เซ็นทรัลสามารถขยายไปยังตลาดอื่น ๆ ผ่านการค้าปลีกหลากหลายรูปแบบที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ Central Retail มีแผนที่จะระดมทุนผ่านการทำ IPO ซึ่งจะเกิดขึ้นพร้อมกับการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ ROBINS ที่ถือโดยผู้ถือหุ้นรายอื่น (“การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์”) โดยแลกกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ Central Retail (Share Swap) โดยอัตราแลกหุ้นของ ROBINS กับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ Central Retail จะคำนวณจากราคาหุ้นของ ROBINS ที่ราคาเสนอซื้อที่ 66.50 บาทต่อหุ้น หารด้วยราคาหุ้น IPO สุดท้ายของ Central Retail และจะไม่มีการชําระค่าตอบแทนในรูปของตัวเงิน (No Cash Alternative) ทั้งนี้ เพื่อให้ Central Retail เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพียงบริษัทเดียว Central Retail จึงได้เสนอให้เพิกถอนหุ้นของ ROBINS ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อการทำ IPO และการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เสร็จสมบูรณ์ โดย Central Retail จะเป็นผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ภายใต้กระบวนการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นของ ROBINS ที่ตอบรับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จะกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นของ Central Retail และจะยังคงเป็นเจ้าของ ROBINS โดยทางอ้อมผ่านการถือหุ้นใน Central Retail
ข้อมูลเกี่ยวกับ กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“เซ็นทรัล รีเทล”) เป็นบริษัทภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งมี ความเป็นมายาวนานตั้งแต่ พ.ศ. 2490 โดยเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย ที่นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภทภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์ มาร์เก็ต พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ รวมทั้งมีเครือข่ายร้านค้าปลีกที่กว้างขวาง และยังได้ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม
แบรนด์ค้าปลีกแต่ละแบรนด์ในกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล มีคุณลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น เครือข่ายร้านค้า รูปแบบร้านค้า สินค้าที่เสนอขาย กลยุทธ์ในการสื่อสารแบรนด์ (Branding) และจุดยืนทางการตลาด ทั้งนี้ แม้แบรนด์ค้าปลีกหลักหลายแบรนด์ของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล เปิดดำเนินงานมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แต่กลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ยังคงมุ่งนำเสนอแบรนด์ค้าปลีกใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง และอาจปรับหรือเปลี่ยนแบรนด์ที่มีอยู่บางแบรนด์เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาดค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ประเภทธุรกิจ
กลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ประกอบธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแฟชั่น กลุ่มฮาร์ดไลน์ และ กลุ่มฟู้ด
กลุ่มธุรกิจ
กลุ่มแฟชั่น
กลุ่มฮาร์ดไลน์
กลุ่มฟู้ด
ลักษณะธุรกิจ
จำหน่ายสินค้าแฟชั่นเครื่องสำอางและของใช้ในบ้านทั้งแบรนด์จากต่างประเทศและแบรนด์ทั่วไป อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ และ สินค้าอื่น ๆ ที่มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค
จำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าตกแต่งบ้าน วัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้านแบบดีไอวาย (DIY)
จำหน่ายอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค ของสดของแห้ง สินค้าออร์แกนิคที่มีคุณภาพ ทั้งที่นำเข้าจากต่างประเทศและจัดซื้อจากในพื้นที่
แบรนด์หลัก
ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน
โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์
ซูเปอร์สปอร์ต
Central Marketing Group (CMG)
รีนาเชนเต
ไทวัสดุ
บ้าน แอนด์ บียอนด์
เพาเวอร์บาย
เหงียนคิม
ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่ และท็อปส์ พลาซ่า
เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์
แฟมิลี่มาร์ท
บิ๊กซี
ลานชี มาร์ท
ประเทศที่ดำเนินธุรกิจ
ประเทศไทย ประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม
ประเทศไทยและประเทศเวียดนาม
ประเทศไทยและประเทศเวียดนาม
จำนวนร้านและสาขา (ณ 31 มีนาคม 2562)
ห้างสรรพสินค้า 81 สาขา (ไม่รวมห้างสรรพสินค้าโรบินส์ 2 สาขาในประเทศเวียดนาม)
ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง 93 ร้านค้า
ร้านค้า Brandshop 390 ร้านค้า
ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง 222 ร้านค้า
ซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ต 326 สาขา
ร้านสะดวกซื้อ 1,008 สาขา
แบรนด์หลัก
กลุ่มแฟชั่น
ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เป็นแบรนด์ค้าปลีกหลักของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ที่นำเสนอสินค้านานาประเภทให้แก่กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายร่วมกับการให้บริการที่มีคุณภาพแก่ลูกค้า ปัจจุบันมีสาขา 23 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 ทั้งนี้ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลได้รับการจัดอันดับให้เป็นห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่งในประเทศไทยทั้งในด้านส่วนแบ่งตลาดและจำนวนพื้นที่ขาย โดยมี ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 35.0 ในปี 2560 และร้อยละ 37.0 ในปี 2561 จากรายงานของ Euromonitor International
ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ได้รับการจัดอันดับเป็นห้างสรรพสินค้าอันดับสองในประเทศไทยโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 17.0 และได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับหนึ่งเมื่อพิจารณาจากจำนวนร้านค้าและพื้นที่ขายสุทธิในปี 2561 และมีสาขา 49 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 จากรายงานของ Euromonitor International
โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ เป็นพลาซ่าที่เน้นกลุ่มลูกค้าในเมืองรองโดยมีแบรนด์ค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทลและร้านค้าของบุคคลภายนอกเป็นผู้จำหน่ายสินค้าต่าง ๆ เช่น สินค้าแฟชั่น ของตกแต่งบ้าน และไลฟ์สไตล์
ซูเปอร์สปอร์ต เป็นเครือร้านขายสินค้าเฉพาะทางขนาดกลางถึงใหญ่ซึ่งจำหน่ายชุดกีฬาและอุปกรณ์กีฬาที่มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับหนึ่งใน ประเทศไทยในปี 2561 ในหมวดร้านขายสินค้ากีฬา โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 39.2 ในปี 2560 และร้อยละ 35.8 ในปี 2561 จากรายงานของ Euromonitor International และมีสาขา 192 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
Central Marketing Group (CMG) เป็นธุรกิจผู้แทนจำหน่ายสินค้าแฟชั่นและผลิตภัณฑ์เสริม ความงามจากต่างประเทศผ่านเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้าที่สำคัญ และช่องทาง ค้าปลีกอื่น ๆ เช่น Brandshop ที่เป็นร้านเดี่ยว (Standalone) และการขายส่ง โดยมีแบรนด์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิหรือเป็นผู้แทนจำหน่าย รวมกว่า 40 แบรนด์ เช่น Guess, Topshop, Polo Ralph Lauren, Clarins, Aesop, Lee และ Wrangler เป็นต้น
รีนาเชนเต (Rinascente) เป็นห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ซึ่งนำเสนอสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ของใช้ในครัวเรือน สินค้าออกแบบ และสินค้าอาหารภายใต้แบรนด์จากประเทศอิตาลีและแบรนด์ระดับสากล โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 44.7 ในปี 2560 และร้อยละ 48.1 ในปี 2561 จากรายงานของ Euromonitor International และมีสาขา 9 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
กลุ่มฮาร์ดไลน์
ไทวัสดุ ผู้จำหน่ายวัสดุก่อสร้างซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับสามในประเทศไทยในหมวดผู้ค้าปลีกสินค้าเฉพาะทางเกี่ยวกับบ้านและสวน (ร้อยละ 3.5 ในปี 2561) และได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับสองในหมวดผู้ค้าปลีกสินค้าเฉพาะทางเกี่ยวกับบ้านและสวนในด้านจำนวนพื้นที่ขายจากรายงานของ Euromonitor International และ บ้าน แอนด์ บียอนด์ เป็นแบรนด์ค้าปลีกหลัก ซึ่งจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล โดยไทวัสดุและบ้าน แอนด์ บียอนด์ มีสาขารวม 53 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
เพาเวอร์บาย เป็นแบรนด์ค้าปลีกหลักซึ่งจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคและเครื่องใช้ไฟฟ้าของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทยในหมวดผู้ค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเฉพาะทาง (ร้อยละ 6.4 ในปี 2560 และร้อยละ 6.8 ในปี 2561) และเป็นอันดับสองในด้านจำนวนร้านค้าและจำนวนพื้นที่ขายจากรายงานของ Euromonitor International และมีสาขา 105 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
เหงียนคิม เป็นร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะทางที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประเทศเวียดนาม โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 2.6 ในปี 2560 และร้อยละ 2.5 ในปี 2561 จากรายงานของ Euromonitor International และมีสาขา 64 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
กลุ่มฟู้ด
ท็อปส์ เป็นผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคหลักของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล มีร้านค้าหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ ท็อปส์ มาร์เก็ต ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตในเขตเมือง ท็อปส์ เดลี่ ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต ขนาดย่อม และ ท็อปส์ พลาซ่า ซึ่งเป็นพลาซ่า ทั้งนี้ ท็อปส์ มาร์เก็ต มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งในหมวดซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทยโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 15.2 ในปี 2561 จากรายงานของ Euromonitor International และมีสาขา 265 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตซึ่งมีพื้นที่ให้นั่งรับประทานภายในบริเวณร้านที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเน้นประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้า และการจำหน่ายสินค้าอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคคุณภาพ
แฟมิลี่มาร์ท เป็นเครือร้านสะดวกซื้อเพื่อตอบสนองต่อความต้องการสินค้าอาหารและสินค้าอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันของลูกค้า ทั้งนี้ แฟมิลี่มาร์ทได้รับการจัดอันดับให้เป็นร้านสะดวกซื้ออันดับสามในประเทศไทยเมื่อพิจารณาจากส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 4.8 ในปี 2560 และร้อยละ 4.8 ในปี 2561 จากรายงานของ Euromonitor International และมีสาขา 1,008 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
บิ๊กซี เป็นเครือไฮเปอร์มาร์เก็ตและพลาซ่าหลักของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทลในประเทศเวียดนาม ซึ่งจำหน่ายสินค้าอาหารคุณภาพชั้นนำและสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ทั้งนี้ บิ๊กซีเป็นไฮเปอร์ มาร์เก็ตอันดับหนึ่งในประเทศเวียดนามในด้านส่วนแบ่งทางการตลาด จำนวนสาขา และพื้นที่ขาย และเป็นผู้ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคอันดับสองในด้านส่วนแบ่งตลาดและพื้นที่ขายในปี 2561 จากรายงานของ Euromonitor International นอกจากนี้ กลุ่มเซ็นทรัล รีเทล กำลังปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ บิ๊กซี เป็นแบรนด์ “GO!” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ในประเทศเวียดนาม ปัจจุบัน บิ๊กซี มีสาขา 36 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
ลานชี มาร์ท เป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กถึงกลางในพื้นที่ชานเมืองและชนบทของประเทศเวียดนามตอนเหนือ ซึ่งแสดงถึงความตั้งใจของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ในการนำเสนอสินค้าที่ตอบสนองต่อรสนิยมของลูกค้าโดยมุ่งเน้นการจัดหาสินค้าอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคคุณภาพชั้นนำจากในพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่จำหน่ายผ่านซูเปอร์มาร์เก็ต ปัจจุบันมีสาขา 25 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
ช่องทางการจำหน่ายสินค้าแบบ Omnichannel
Omnichannel คือ การผสานช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลายของลูกค้าสำหรับการค้าปลีกสมัยใหม่ ซึ่งรวมถึงการซื้อสินค้าในร้านค้า ทางออนไลน์ ทางโทรศัพท์มือถือ และทางสื่อสังคม (Social Media) ทั้งนี้ เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้ามีแนวโน้มที่จะแสวงหาประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าที่ผสานช่องทางการจำหน่ายสินค้าทั้งทางออนไลน์และในร้านค้าไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ กลุ่มเซ็นทรัล รีเทล จึงใช้แพลตฟอร์ม Omnichannel เป็นเครื่องมือในการสร้างประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าที่แปลกใหม่และได้รับความนิยมมากขึ้นให้แก่ลูกค้า
รูปแบบ
ช่องทางการจำหน่ายสินค้า
สถานที่จำหน่าย
สถานที่รับสินค้า
Click & Delivery
เว็บไซต์และแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ
คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารของลูกค้า
จัดส่งตามที่อยู่
Click & Collect
เว็บไซต์และแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ
คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารของลูกค้า
ร้านค้า
Reserve & Collect
เว็บไซต์และแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ
ร้านค้า (จองผ่านเว็บไซต์และแอพพลิเคชัน)
ร้านค้า
Chat & Shop
โซเชียลมีเดีย
อุปกรณ์สื่อสารของลูกค้า(ระบบแชท)
จัดส่งตามที่อยู่/ร้านค้า
e-ordering
พนักงานขาย ณ ร้านค้า
ร้านค้า
จัดส่งตามที่อยู่/ร้านค้า
รางวัลและการยอมรับต่างๆ
พ.ศ. 2553 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล “ห้างสรรพสินค้าที่ดีที่สุดในโลก” เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งจัดโดย Intercontinental Group of Department Stores (IGD) ในงาน Global Department Store Summit
พ.ศ. 2554 ห้างสรรพสินค้าโรบินสันได้รับเลือกจากนิตยสาร Forbes Asia ให้เป็นหนึ่งใน “Asia’s 200 Best Under a Billion US$”
พ.ศ. 2559 รีนาเชนเตสาขามิลาน ได้รับรางวัล “Best Department Store in the World” จากงาน Global Department Store Summit
พ.ศ. 2559-2561 ท็อปส์ มาร์เก็ต ได้รับการลงคะแนนเสียงให้เป็น “Brand of The Year” ประเภทซูเปอร์มาร์เก็ตจาก World Branding Awards – London เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน