ADS


Breaking News

โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เผยโฉมภาพสเก็ตช์ของเรธ อีเกิล 8 ในวาระครบรอบ 100 ปี การบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกครั้งแรก

18 มิถุนายน 2562, กู๊ดวูด 

เพื่อเป็นการรำลึกวาระครบรอบ 100 ปีของการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกโดยไม่มีการหยุดพักได้สำเร็จเป็นครั้งแรก โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้เผยโฉมภาพสเก็ตช์การออกแบบเรธ อีเกิล 8 ยนตรกรรมคอลเลกชันล่าสุดของแบรนด์ ซึ่งไม่เคยถูกเปิดเผยที่ไหนมาก่อน โดยยานยนต์จำนวน 50 คันในคอลเลกชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ ได้บอกเล่าเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของเที่ยวบินประวัติศาสตร์ที่ถูกขับเคลื่อนโดยกัปตันจอห์น อัลค็อกและร้อยโทอาร์เธอร์ บราวน์ สองนักบินผู้กล้าที่ท่องไปในน่านฟ้าอันลี้ลับ เหินเวหาข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกด้วยอากาศยานดัดแปลง Vickers Vimy ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ทวิน โรลส์-รอยซ์ อีเกิล 8 เมื่อ 100 ปีที่แล้ว

ภาพสเก็ตช์ที่กลั่นกรองจากวิสัยทัศน์ของทีม Bespoke Collective ของโรลส์-รอยซ์ ได้สะท้อนการทำงานบนเส้นทางแห่งความคิดสร้างสรรค์ของเหล่าดีไซน์เนอร์ของโรลส์-รอยซ์ในขณะที่พวกเขาเฟ้นหารูปแบบและวิธีที่จะสื่อสารถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่กล้าหาญ ภายใต้คอนเซปท์ยนตรกรรมของโรลส์-รอยซ์

มร. ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กล่าวว่า “ฝีมือและความเชี่ยวชาญอันโดดเด่นของทีมออกแบบ Bespoke Collective ของเรา ถ่ายทอดมโนภาพของหนึ่งในเหตุการณ์ที่ควรค่าแก่การจารึกที่สุดในศตวรรษที่ 20 ซึ่งก็คือเรื่องราวของการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกโดยไม่หยุดพักเป็นครั้งแรก ซึ่งถูกบอกเล่าผ่านเรธ ยนตรกรรมที่เป็นตัวแทนของพลัง ความตื่นเต้นเร้าใจและการผจญภัย เรธ อีเกิล 8 คือผลงานชิ้นเอกที่ล้ำสมัย และภาพสเก็ตช์เหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ถ่ายทอดบรรยากาศเบื้องหลังของการสรรสร้างยนตรกรรมคันนี้ได้เป็นอย่างดี”

การออกแบบสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดอันเป็นเอกลักษณ์ของงานฝีมือของโรลส์-รอยซ์ ภาพสเก็ตช์ของเพดานห้องโดยสารที่ตกแต่งสวยงามด้วยแสงดาวและมวลหมู่เมฆ ซึ่งเป็นภาพท้องฟ้าบริเวณจุดครึ่งทางและแสดงเส้นทางการบินครั้งประวัติศาสตร์ของกัปตันอัลค็อกและร้อยโทบราวน์ ภาพสเก็ตช์แบบละเอียดอีกภาพหนึ่งยังแสดงให้เห็นภาพวิวยามค่ำคืนเมื่อมองจากด้านบน ซึ่งถูกนำมาถ่ายทอดอย่างชำนาญลงบนแผงหน้าปัดด้านหน้าของยนตรกรรมเรธ ในรูปแบบของการเลี่ยมทอง เงิน และทองแดง

ภาพสเก็ตช์ของนาฬิการถยนต์ในคอลเลกชันนี้แสดงให้เห็นการใช้เทคนิคออกแบบพื้นผิวให้ดูราวกับเป็นน้ำแข็ง เพื่อสื่อถึงแผงควบคุมเครื่องบินที่แทบกลายเป็นน้ำแข็งระหว่างการผจญภัยเหินเวหาในครั้งนั้น ในขณะเดียวกัน ยังมีแสงสีเขียวซึ่งเรืองรองจากหน้าปัดในเวลาค่ำคืน ที่ทำให้นึกถึงแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวที่นักบินทั้งสองสามารถมองเห็นได้ระหว่างเส้นทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกของพวกเขา 

เรธ อีเกิล 8 ยนตรกรรมคอลเลกชันล่าสุดสำหรับเหล่านักสะสมของโรลส์-รอยซ์ จะถูกรังสรรค์ขึ้น ณ Home of Rolls-Royce ที่เมือง กู๊ดวูด, เวสต์ ซัสเซกซ์ ศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศในการผลิตยนตรกรรมลักซ์ชัวรีระดับโลก

– จบ –

ข้อมูล

โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส (Rolls-Royce Motor Cars) เป็นบริษัทในเครือของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป (BMW Group) มีสำนักงานใหญ่และฐานการผลิตอยู่ที่กู้ดวูด เวสต์ซัสเซก ซึ่งเป็นเพียงที่เดียวในโลกที่ยานยนต์ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรีของบริษัททุกคันผ่านการประกอบด้วยมืออย่างปราณีตโดยพนักงานมากความชำนาญทั้งชายและหญิงกว่า 2,000 คน ทั้งนี้ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เป็นคนละบริษัท และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับ บมจ. โรลส์-รอยซ์ ผู้ผลิตระบบขับดันและเครื่องยนต์อากาศยาน

การบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกโดยไม่หยุดพักเป็นครั้งแรก
กัปตันจอห์น อัลค็อก (Captain John Alcock) และร้อยโทอาร์เธอร์ บราวน์ (Lieutenant Arthur Brown) ปฏิบัติภารกิจเหินเวหาบนน่านฟ้าที่ยังไม่เคยมีใครได้สำรวจมาก่อน คือการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกแบบไม่หยุดพักได้สำเร็จเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2462 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับเซอร์เฮนรี รอยซ์ กัปตันอัลค็อกและร้อยโทบราวน์บินต่อเนื่องจากเซนต์จอห์นส์ นิวฟาวด์แลนด์ ไปถึงคลิฟเดน ไอร์แลนด์ ด้วยอากาศยานดัดแปลงจาก Vickers Vimy ซึ่งถูกใช้ทิ้งระเบิดระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เครื่องบินปีกคู่ถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ อีเกิล 8 ทวิน 20.3 ลิตร 350 bhp ซึ่งยานยนต์ในคอลเลกชันล่าสุดได้ถูกตั้งชื่อตามชื่อของเครื่องยนต์อันทรงพลังนี้เอง โรลส์-รอยซ์เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปีแห่งเกียรติภูมินี้ ด้วยคอลเลกชันอันร่วมสมัยที่สามารถเข้าถึงนักผจญภัยในยุคปัจจุบัน โดยในขณะเดียวกันก็แสดงออกถึงการให้เกียรติและรำลึกถึงเหล่าบุคคลผู้เปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ 

“ผมบอกไม่ถูกเลยว่าประทับใจอะไรมากที่สุด – ระหว่างความมุทะลุ ความมุ่งมั่น ทักษะ ความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ เครื่องบิน เครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ หรือโชคของพวกเขา” เซอร์วินสตัน เชอร์ชิลได้กล่าวไว้ หลังการเดินทางอันห้าวหาญที่นำความก้าวหน้าเกินหยั่งถึงมาสู่ยุคศตวรรษที่ 20

กัปตันอัลค็อกและร้อยโทบราวน์ได้สร้างตำนานและกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่พิเศษที่สุดในโลกเทียบเคียงโดนัลด์ แคมป์เบล, ซีบีอี (Donald Campbell, CBE) บุคคลเหล่านี้เป็นผู้ก้าวข้ามขีดจำกัดความพยายามของมนุษย์เดิมๆ เพื่อสร้างสถิติใหม่ๆ ที่แทบเป็นไปไม่ได้ทั้งบนบก ในน้ำ และในอากาศ โดยสิ่งหนึ่งที่พวกเขามีร่วมกันก็คือพลังแห่งโรลส์-รอยซ์

นักบินทั้งสองต้องฝ่าฟันทุกความท้าทายเท่าที่นักบินคนหนึ่งจะพบเจอได้ โดยเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ อีเกิล 8 เป็นส่วนประกอบเพียงหนึ่งเดียวที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง เครื่องยนต์นี้เป็นดังขุมกำลังในการเดินทางทางอากาศด้วยความเร็วที่เหนือคาดโดยเฉลี่ย 115 ไมล์ต่อชั่วโมง อุปสรรคและอันตรายที่พวกเขาพบเจอนั้นก็เกินที่จะประเมินได้ วิทยุและเครื่องมือนำทางของพวกเขาขัดข้องและใช้งานไม่ได้ในแทบจะทันที ทำให้ทั้งสองต้องบินยามค่ำคืนโดยปราศจากความช่วยเหลือผ่านหมู่เมฆทึบและหมอกอันหนาวเย็นยาวนานหลายชั่วโมง ในบางครั้งก็ต้องบินกลับหัว จนในท้ายที่สุดพวกเขาก็หลุดพ้นจากกลุ่มเมฆ และอาศัยความเชี่ยวชาญด้านทิศทางอันเป็นเลิศของร้อยโทบราวน์ บินผ่านหมู่ดาวไปสู่ชายฝั่งของไอร์แลนด์ได้สำเร็จ