ADS


Breaking News

CWT ส่ง บ.ย่อย “SakunC” ร่วมทุน สวทช.

เพื่อวิจัย-พัฒนาเทคโนโลยี พร้อมตอบโจทย์แผนยุทธศาสตร์ของภาครัฐ
     “ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป” พร้อมบริษัทย่อย “สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น” จับมือ สวทช. ร่วมทุน เพื่อการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยี ดันอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ของไทยให้ก้าวหน้า ตอบรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และกรอบแผนยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปี
     นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT เปิดเผยว่า บริษัท และบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด (SakunC)ได้เข้าร่วมลงทุนกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 
     สำหรับวัตถุประสงค์ของการเข้าร่วมลงทุนครั้งนี้ เพื่อดำเนินการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมที่มีการใช้วัสดุ ประกอบกับยังมีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการออกแบบ วิจัย พัฒนา และผลิตเป็นยานพาหนะสมัยใหม่ (Modern Transportation) เช่น เรืออลูมิเนียม รถโดยสารอลูมิเนียม และยานยนต์ประเภทอื่นที่มีการใช้เทคโนโลยีอย่างครบวงจร ด้วยทีมงานคนไทย และช่วยผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ของประเทศไทย ให้มีความก้าวหน้า สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0
     “และในปีนี้เราคาดว่ารายได้ของ CWT จะเติบโตประมาณ 50% จากการรับรู้รายได้จากการจ่ายไฟฟ้า ประกอบกับยังมีการรับรู้รายได้ของบริษัท สกุลฏ์ซี อินโนเวชั่น จํากัด เข้าสนับสนุน และการร่วมมือครั้งนี้ยังส่งผลดีต่อกลุ่มบริษัทเราอย่างมาก เพราะว่าจะได้พัฒนางานนวัตกรรมช่วงแรกอย่าง รถไฟฟ้าโดยสาร, เรืออลูมิเนียมที่มีความปลอดภัยสูง และยังมีโครงการที่จะเตรียมจะทำต่ออีกหลายโครงการนายวีระพล กล่าว
     ขณะที่ ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวอีกว่า ในวันนี้ ทาง สวทช. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด  โดยการร่วมมือครั้งนี้จะทำให้เราเป็นพันธมิตรร่วมกันพัฒนายานยนต์สมัยใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า
     รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการขึ้นรูปและลดน้ำหนักโครงสร้าง เพื่อยกระดับขีดความสามารถของประเทศไทยในการสร้างนวัตกรรมด้านยานพาหนะสมัยใหม่ และยานพาหนะสมัยใหม่ดังกล่าวจะเข้าไปช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในการเดินทาง รวมถึงการท่องเที่ยวของคนไทยให้มีความปลอดภัยมากขึ้น และสร้างรายได้ให้กับประเทศต่อไป รวมทั้งยังสอดคล้องกับกรอบแผนยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปี ของประเทศ และเป็นโอกาสดีในการส่งผ่านองค์ความรู้ ตลอดจนงานวิจัย พัฒนานวัตกรรมจากภาครัฐและเอกชน 
     ด้านนายนำชัย สกุลฎ์โชคนำชัย ประธานกลุ่มบริษัท โชคนำชัย และบริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า การร่วมมือกับ สวทช. ในครั้งนี้ จะนำองค์ความรู้ที่สำคัญต่อการพัฒนาของบริษัท ต่อยอดองค์ความรู้ด้านการผลิตเรืออลูมิเนียม โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการคำนวณทางพลศาสตร์ของไหล หรือ CFD ช่วยในการจำลองสภาวะการใช้งานและศึกษาความสัมพันธ์ ตลอดจนผลกระทบจากการไหลของน้ำที่มีต่อโครงสร้างเรือ 
     ขณะเดียวกันการร่วมมือกับ สวทช. ยังช่วยวิจัยเรื่องความแข็งแรงของโครงสร้างรถโดยสารตัวถังอลูมิเนียม ซึ่งผลดังกล่าวสามารถนำมาใช้ลดน้ำหนักของโครงสร้างให้มีน้ำหนักเบายิ่งขึ้น และมีความแข็งแรงตามมาตรฐานสากล ซึ่งความรู้ตัวนี้จะช่วยในการลดน้ำหนักและต้นทุนผลิต  อีกทั้งเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในรถโดยสารไฟฟ้าในอนาคต  สร้างประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมของประเทศได้โดยตรง โดยในปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ผลิตแม่พิมพ์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่มีประสบการณ์กว่า 40 ปีและเป็น Top5 Asia ที่ทำแม่พิมพ์สำหรับผลิตตัวถังรถยนต์ได้ทุกชิ้นส่วน ส่งตรงบริษัทชั้นนำมากมายทั่วโลก