โคเรียน แอร์ ยกเครื่อง ย้ายระบบทั้งหมดมาไว้บน AWS
ผู้ให้บริการสายการบินชั้นนำของโลกเร่งปฏิวัติสู่ดิจิทัล ด้วยการย้ายไปสู่ AWS เพื่อเพิ่มความคล่องตัวมากขึ้น และเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานที่น่าเชื่อถือที่สุด อีกทั้งให้ฟังก์ชันการทำงานที่ครอบคลุมอย่างไม่มีใครเทียบได้
บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส จำกัด (Amazon Web Services Inc.: AWS) บริษัทในเครือ Amazon.com (NASDAQ: AMZN) ได้ประกาศว่า บริษัท โคเรียน แอร์ไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสายการบินชั้นนำของโลกกำลังย้ายระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีทั้งหมดไปไว้บน AWS ผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำของโลก พร้อมเลือก AWS เป็นมาตรฐานเพื่อรองรับการใช้งานแมชชีน เลิร์นนิ่ง (machine learning) โดยโคเรียน แอร์ วางแผนที่จะใช้บริการ Amazon Simple Storage Services (Amazon S3) รวมถึงคลังข้อมูล (data warehousing) และบริการวิเคราะห์ข้อมูล (Analytics) เช่น Amazon Redshift และ Amazon Athena สำหรับการจัดการดาต้าเลค (data lake) ของสายการบินเอง เพื่อปรับปรุงอัจฉริยภาพทางธุรกิจและเพื่อให้มีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันจากการมีมุมมองเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ส่วนหนึ่งของการย้ายระบบทั้งหมดของโคเรียน แอร์ไปไว้บน AWS คือ ทางสายการบินจะเริ่มจากการย้ายเวิร์กโหลดที่เป็นงาน production รวมถึงเว็บไซต์ โปรแกรมรอยัลตี้ และงานส่วนปฎิบัติการสำคัญอื่นๆของสายการบินฯ ไปไว้บน AWS อีกทั้งยังวางแผนที่จะปิดดาต้าเซ็นเตอร์ของตนภายใน 3 ปีข้างหน้า
โคเรียน แอร์จะใช้เทคโนโลยีด้านระบบฐานข้อมูล (database) คอนเทนเนอร์ (containers) และเทคโนโลยีที่ไม่ต้องรันบนเซิร์ฟเวอร์ (serverless technologies) เพื่อสร้างสถาปัตยกรรมไมโครเซอร์วิสบน AWS การเปลี่ยนแปลงทางสถาปัตยกรรมนี้ จะช่วยปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยของโคเรียน แอร์ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้แอพพลิเคชันและให้ความน่าเชื่อถือสูงสุด อีกทั้งยังช่วยให้สายการบินสามารถปรับขยายเพื่อรองรับเวิร์กโหลดบนคลาวด์ ทั้งในเรื่องขนาดและความซับซ้อนได้อย่างอิสระ โดยทั้งนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และวิศวกรของโคเรียน แอร์จะใช้ Amazon SageMaker ซึ่งเป็นบริการด้านการบริหารจัดการแมชชีน เลิร์นนิ่งอย่างเต็มรูปแบบของเพื่อปรับปรุงระบบซ่อมบำรุงรักษาอากาศยานที่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ พร้อมดำเนินการซ่อมแซมโดยอัตโนมัติเพื่อให้เครื่องบินของสายการบินพร้อมสำหรับการเดินทางเสมอ นอกจากนี้ โคเรียน แอร์ยังตั้งใจที่จะนำ Amazon Sumerian ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือสำหรับสร้างประสบการณ์เสมือนจริง (virtual reality) คุณภาพสูงมาใช้บนเว็บไซต์ เพื่อสร้างโปรแกรมการฝึกอบรมให้กับพนักงาน พร้อมจำลองการทำงานเสมือนจริง ช่วยสร้างประสบการณ์ระหว่างการบินที่ดีขึ้น และช่วยให้มั่นใจว่าผู้โดยสารจะได้รับความปลอดภัยสูงสุด
เคนนี ชาง ซีอีโอของโคเรียน แอร์ กล่าวว่า “โคเรียน แอร์ รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เริ่มต้นสัมพันธภาพอันยาวนานกับ AWS ถึง 10 ปี โดยใช้การทำงานที่ครอบคลุมมากที่สุดอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้เพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ บนคลาวด์ และการสนับสนุนจาก AWS โดยทีมงานที่มุ่งมั่นและเข้าใจถึงความท้าทายที่เราเผชิญอยู่ โดยเรากำลังปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีใหม่ทั้งหมด ภายในสามปีข้างหน้า ด้วยการย้ายเว็บไซต์ ระบบบริหารจัดการสินค้าบรรทุก ระบบควบคุมการบิน และระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร รวมถึงระบบอื่น ๆ ไปไว้บน AWS ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถนำเสนอบริการใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง การดำเนินงานบนแพลตฟอร์มของ AWS จะช่วยให้โคเรียน แอร์ สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและยืดหยุ่น ในแบบที่ไม่สามารถทำได้บนระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบ on-premise”
ไมค์ เคลย์วิลล์ รองประธานฝ่าย Worldwide Commercial Sales ของ AWS กล่าวว่า การตัดสินใจย้ายระบบทั้งหมดมาไว้บน AWS นับเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปสู่ดิจิทัลของโคเรียน แอร์ ซึ่งทำให้โคเรียน แอร์เป็นกลุ่มบริษัทธุรกิจรายแรกของเกาหลีและสายการบินแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ทำการย้ายระบบครั้งยิ่งใหญ่มาไว้บนคลาวด์ การใช้ AWS จะช่วยให้โคเรียน แอร์ สามารถใช้บริการคลาวด์ของ AWS ในเชิงลึก ได้อย่างครอบคลุม รวมถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ให้ประสิทธิภาพสูง ให้ความน่าเชื่อถือมากที่สุด ซึ่งจะช่วยพัฒนาธุรกิจให้ก้าวหน้า โดยบรรดานักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และวิศวกร ก็จะใช้เทคโนโลยี AWS ที่ล้ำหน้าที่สุดในการวิเคราะห์ข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร สร้างเสริมประสบการณ์ที่ดีในการจองเที่ยวบิน อีกทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการคาดการณ์เพื่อปรับเส้นทางได้อย่างปลอดภัย ช่วยประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงอีกทั้งบำรุงรักษาเครื่องบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
###
เกี่ยวกับ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส
เป็นเวลากว่า 12 ปีแล้ว ที่ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิส ถือเป็นแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์และมีการใช้งานแพร่หลายมากที่สุดในโลก เนื่องจาก AWS มอบบริการที่ให้คุณลักษณะการทำงานที่สมบูรณ์ที่สุด สำหรับการประมวลผล สตอเรจ ฐานข้อมูล การเชื่อมต่อเครือข่าย การวิเคราะห์ แมนชชีน เลิร์นนิ่ง และปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) โมบาย การรักษาความปลอดภัย ระบบไฮบริด เทคโนโลยี VR (virtual) และ AR (augmented reality) มีเดีย และการพัฒนาแอปพลิเคชัน โดยมีการนำมาใช้งาน และบริหารจัดการ จาก 55 Availability Zones (AZs) ใน 8 ภูมิภาค (geographic regions) และ 1 Local Region ทั่วโลก ครอบคลุมสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน อินเดีย ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ บริการของ AWS ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกในการนำไปใช้งานอย่างจริงจังนับหลายล้านรายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบรรดาองค์กรสตาร์ทอัพ องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และหน่วยงานรัฐบาลชั้นนำ เพื่อเพิ่มขุมพลังให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐาน ให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น และช่วยลดค่าใช้จ่าย รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่https://aws.amazon.com
เกี่ยวกับอะเมซอน
อะเมซอน ยึดหลักการสำคัญ 4 ประการในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ ใส่ใจในลูกค้ามากกว่ามุ่งเน้นที่คู่แข่ง หลงใหลในเรื่องของการสร้างนวัตกรรม มุ่งมั่นในความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน และคิดยาวไกล โดยลูกค้าให้การรีวิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การช้อปปิ้งได้ภายใน 1 คลิก, ให้คำแนะนำที่ตรงต่อความต้องการส่วนตัว, Prime, Fulfillment by Amazon, AWS, Kindle Direct Publishing, Kindle, แท็ปเล็ต Fire, Fire TV, Amazon Echo และ Alexa เหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์และการบริการที่คิดค้นโดย Amazon รายละเอียดเพิ่มเติม ดูเพิ่มเติมได้ที่www.amazon.com/about และติดตามได้ที่ @AmazonNews