ดีแทค-CAT บรรลุเซ็นสัญญารวมมูลค่า 3 พันล้านบาทต่อปี เดินหน้าธุรกิจร่วมกันหลังหมดสัมปทาน
· ดีแทคขอใช้เสา 8,815 แห่งทั่วไทย พร้อมใช้อุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคมหลังหมดสัมปทาน
· เดินหน้าพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และสานต่อมิตรภาพยาวนานของ 2 องค์กร
14 กันยายน 2561 – บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด เซ็นสัญญาบริการเสาโทรคมนาคมและอุปกรณ์โทรคมนาคมระยะยาว กระชับความเป็นพันธมิตรทางธุรกิจหลังหมดสัมปทาน ชี้ดีกับทุกฝ่าย ลูกค้าดีแทคใช้งานต่อเนื่อง ดีแทคหมดความเสี่ยงต่อการใช้งานเสาและอุปกรณ์โครงข่าย ส่วน CAT ได้ต่อยอดธุรกิจสู่แหล่งรายได้ใหม่
อเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า “การบรรลุข้อตกลงซึ่งนำมาสู่การลงนามสัญญาในครั้งนี้ นับเป็นมิติใหม่ครั้งแรกของวงการโทรคมนาคมไทย และเพื่อลูกค้าดีแทค ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างสูงที่ข้อตกลงทั้ง 2 สัญญา ระหว่างดีแทค และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมลงนามก่อนหมดสัมปทาน ต่อไปนี้ทั้งสองฝ่ายจะเป็นพันธมิตรร่วมกันในเชิงกลยุทธ์เสริมสร้างอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยต่อไป ข้อตกลงทั้ง 2 สัญญายังก่อให้เกิดความชัดเจนในการประกอบธุรกิจของทั้งสองฝ่ายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว หมดความเสี่ยงและทำให้ใช้งานเสาโทรคมนาคมและอุปกรณ์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยทั้ง ดีแทค และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) พร้อมที่จะเป็นผู้นำในการเป็นพันธมิตรดูแลโครงข่ายหรือโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมสู่อนาคต”
การลงนามครั้งประวัติศาสตร์ในวงการโทรคมนาคม 2 สัญญา ระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด มีดังนี้
1. สัญญาระงับข้อพิพาทและให้บริการเกี่ยวกับเสาโทรคมนาคม
2. สัญญาการขอใช้อุปกรณ์โทรคมนาคม
“จากข้อตกลงระงับข้อพิพาทดีแทคจะทำการโอนเสาโทรคมนาคมที่สร้างไว้ระหว่างสัมปทานให้กับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จะให้บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ใช้บริการเสาโทรคมนาคมดังกล่าวจำนวน 8,815 แห่งทั่วประเทศ โดยบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด จะชำระค่าขอใช้เสาโทรคมนาคมล่วงหน้า ณ วันลงนามในสัญญาให้กับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนรวม 3.2 พันล้านบาท และจะชำระค่าบริการทั้ง 2 สัญญามูลค่ารวม 3 พันล้านบาทต่อปี โดยสัญญามีระยะยาวขั้นต้น 8 ปีและสามารถต่ออายุได้” อเล็กซานดราไรซ์ กล่าวต่อไปว่า “ลูกค้าดีแทคสามารถมั่นใจในการใช้งานหลังหมดสัมปทาน ซึ่งมิตรภาพและความร่วมมือดังกล่าวได้ส่งผลประโยชน์ต่อกลุ่มลูกค้าและอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมากที่สุดในช่วงเปลี่ยนผ่านสัมปทาน”
พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT กล่าวว่า “การลงนามในสัญญาในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของผู้ให้สัมปทานและผู้รับสัมปทานคลื่นความถี่ที่ร่วมธุรกิจกันมาอย่างยาวนาน จะได้พลิกสู่บทบาทใหม่ในเชิงกลยุทธ์ต่อเนื่อง ที่ผ่านมา CAT ได้มุ่งสู่การพัฒนาโครงข่ายและโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ให้มีความทันสมัยเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถกระจายไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม ประชาชน และความมั่นคงของประเทศชาติ ที่สำคัญนี่คือการร่วมลงนามกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นครั้งแรกในไทยสู่ความร่วมมือที่เป็นพันธมิตรในเชิงกลยุทธ์"
สัญญาดังกล่าวยังทำให้เสาโทรคมนาคมซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีความสำคัญของประเทศและอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคมภายใต้สัญญาสัมปทานซึ่งถือเป็นทรัพย์สินของประเทศให้สามารถนำมาใช้โดยเกิดประโยชน์ทั้งในการด้านการให้บริการแก่ประชาชนและการสร้างรายได้เพื่อนำมาพัฒนาองค์กรและประเทศในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของชาติ สำหรับข้อตกลงในสัญญาดังกล่าว บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จะให้ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด เป็นผู้ดูแลรักษาเสาโทรคมนาคมทั้งหมด เพราะเป็นผู้ที่ดำเนินการติดตั้งจึงมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการสื่อสาร และยังมีประสบการณ์โดยตรงในการดูแลเสาโทรคมนาคมดังกล่าวมามากกว่า 20 ปี
“ครั้งนี้นับเป็นการต่อยอดภาพรวมของธุรกิจและสร้างรายได้ใหม่ให้กับ CAT ที่ผ่านมาเราเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลและโทรคมนาคมชั้นนำของชาติ ซึ่งประกอบกิจการโทรคมนาคมและให้บริการทางด้านโทรคมนาคมหลากหลายรูปแบบ ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ การให้บริการเสาและอุปกรณ์โทรคมนาคมในครั้งนี้จึงเป็นแนวทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายร่วมกันอย่างลงตัว รวมทั้งประชาชนและประเทศชาติ” พันเอก สรรพชัย กล่าวในที่สุด