จับตาแสนสิริขยับ!! ประกาศยอดขายสูงสุดในรอบ 34 ปี ชูเป้าหมาย 45,000 ล้านบาท หลังยอดขายทะลัก ครึ่งปีแรกโกยแล้ว 24,000 ล้านบาท โตกว่า 62% แย้มครึ่งปีหลังเตรียมพบปรากฎการณ์แสนสิริทั่วเมืองรอบกรุงเทพฯ
จับตาแสนสิริขยับธุรกิจ!! เตรียมบันทึกประวัติการณ์ใหม่ ประกาศยอดขายสูงสุดในรอบ 34 ปี หลังยอดขายครึ่งปีแรกทะลัก 24,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 53% ก้าวสู่เป้าหมายยอดขายรวม 45,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายสูงที่สุดนั บจากการก่อตั้งบริษัท มาจากความเป็นที่สุดทั้งคอนโดมิ เนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ขายดีทุกโครงการ ชูคอนโดแสนสิริขายดีทั่วประเทศ ขณะที่บ้านแสนสิริ พัฒนาการ สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ของโครงการแฟล็กชิพบ้านเดี่ ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ไทย ในระดับราคา 65 – 240 ล้านบาท สร้างยอดขายเร็ว เพียง 2 สัปดาห์โกยยอดขายแล้ว 40% พร้อมส่งทาวน์เฮาส์แสนสิริสร้ างปรากฎการณ์ Talk of the town ปั้นแบรนด์สิริ เพลส กวาดยอดขายรวม 2,300 ล้านบาท โต 175% มั่นใจยอดขายตามเป้ าหมายจากแผนการเปิดตั วโครงการใหม่และกลยุทธ์ธุรกิจที่ แข็งแกร่ง แย้มไฮไลท์ครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดตัว “XT” แบรนด์คอนโดมิเนียมล่าสุ ดจากแสนสิริ ที่มีแผนเปิดตัว 3 โครงการ 3 ทำเล มูลค่าสูงสุดแบบที่ไม่เคยมีมาก่ อน #SansiriBestYearEver
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงิ นและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยถึงผลการดำเนินธุรกิ จในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ว่า บริษัทประสบความสำเร็จด้ านยอดขายที่น่าพอใจ โดยสามารถทำยอดขายได้แล้วถึง 24,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 53% จากเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ 45,000 ล้านบาท ความสำเร็จมาจากการที่ลูกค้าให้ การตอบรับที่ดีในทุกโครงการ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ได้รั บการตอบรับที่ดีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงในกลุ่มลูกค้าทั้ งคนไทยและชาวต่างชาติ
“ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิ ดขายโครงการคอนโดมิเนียมที่ สามารถปิดการขายโครงการ หรือสร้างยอดขายในเวลาที่รวดเร็ ว อาทิ โครงการ “เดอะ เบส เซ็นทรัล – ภูเก็ต” และ “ดีคอนโด แคมปัส โดม-รังสิต” มีกระแสตอบรับที่ดีมาก จนสามารถปิดการขายทันทีในวั นแรกที่เปิดพรีเซล โครงการ “ลา กาซิตา” หัวหินซึ่งบริษัทครองความเป็ นเจ้าตลาดในการพัฒนาคอนโดมิเนี ยมตากอากาศมาอย่างยาวนาน มียอดขายถึง 90% ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน โครงการ “เอดจ์ เซ็นทรัล พัทยา” ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากกลุ่ มลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติที่ มีความต้องการคอนโดมิเนียมในพั ทยาทั้งเพื่อพักผ่อนและปล่อยเช่ า จนล่าสุดมียอดขายไปแล้วถึง 95 % จ่อคิวปิดการขายเร็วๆ นี้ ขณะที่ดีคอนโดหาดใหญ่ มียอดขายแล้วกว่า 50%” นายวันจักร์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังประสบความสำเร็จจากการ เปิดตัว “บ้านแสนสิริ พัฒนาการ” ผลงานจากการรังสรรค์อย่างพิถีพิ ถันกว่า 3 ปี งามสง่าเหนือกาลเวลาด้วยแรงบั นดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุครีเจนซี่ (Regency) จากประเทศอังกฤษ มอบประสบการณ์ของการอยู่อาศัยที่ สมบูรณ์แบบพร้อมความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้ วยจำนวนเพียง 36 ยูนิต บนที่ดิน 37 ไร่ ถนนพัฒนาการซอย 30 ทำเลศักยภาพที่หาได้ ยากใจกลางเมือง ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจใจกลางเมือง ทั้งสุขุมวิท ทองหล่อ-เอกมัย เพชรบุรีตัดใหม่ พระราม 9 โรงเรียนนานาชาติ ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ มากมาย ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากกลุ่ มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง (High Net Worth Individual) ในประเทศไทยจนประสบความสำเร็จ สร้างยอดขายแล้วถึง 40% หลังเปิดการขายในช่วงปลายเดื อนมิถุนายนที่ผ่านมา นับว่าเป็นการสร้างยอดขายที่ รวดเร็วมากในบ้านเดี่ยวในระดั บซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ระดับราคา 65 – 240 ล้านบาท นอกจากนี้ โครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ เศรษฐสิริภายใต้แนวคิด “Portrait of Success ภาพของชีวิตที่ภาคภูมิ” ซึ่งมีระดับราคา 10 – 25 ล้านบาท และ บุราสิริ ภายใต้แนวคิด “Find Your Peace of Mind บ้านเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริ ง” ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน อาทิ โครงการเศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ – ประชาชื่น 2 และโครงการเศรษฐสิริ พหล – วัชรพล รวมถึงโครงการบุราสิริ พัฒนาการ เป็นต้น
“ผลจากการรุกทาวน์เฮาส์ ภายใต้แบรนด์ “สิริ เพลส” ทาวน์เฮาส์คุณภาพในระดับ Best in Class ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.69 ลบ. ซึ่งมีแผนเปิดตัวทั้งหมด 8 โครงการในปีนี้ ยังส่งผลให้บริษัทประสบผลสำเร็ จอย่างมาก สามารถสร้างยอดขายจากการเปิดตัว สิริ เพลส 5 โครงการ 5 ทำเล ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ถึง 2,300 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 175% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี ยอดขาย 833 ล้านบาท ความสำเร็จมาจากการพั ฒนาโครงการเพื่อตอบรับเทรนด์ การอยู่อาศัยคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิดเติมเต็มการอยู่ อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ#CompleteYourLivingExperience และความโดดเด่ นของโครงการในคอนเซ็ปต์ ขยายทุกความชอบให้เป็นไปได้ โดยบริษัทเตรียมเปิดตัวทาวน์ เฮาส์แบรนด์ สิริ เพลส อีก 3 โครงการใหม่ กรุงเทพฯ และ ภูเก็ต ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้” นายวันจักร์ กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทยังประสบความสำเร็จ ในการสร้างยอดขายจากตลาดต่ างชาติ โดยสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 6,000 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 50% จากเป้าหมายยอดขายตลาดต่างชาติ ที่ตั้งไว้ในปีนี้ 13,000 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันแสนสิรินับเป็ นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ ครองส่วนแบ่งการตลาดลูกค้าต่ างชาติที่สูงที่สุด จากการเป็นบริษัทอสังหาริมทรั พย์ไทยบริษัทเดียวที่เปิ ดการขายโครงการในต่างประเทศพร้ อมกันในหลายประเทศ (Global Launch)และจัดกิจกรรมหลังการขายกับลู กค้าต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
แสนสิริยังมุ่งมั่นในการต่ อยอดด้าน Digital Transformation ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ในการมุ่งพัฒนาเทคโนโลยี และมองหานวัตกรรมที่นำมาต่ อยอดได้สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม อาทิ การจับมือสองยักษ์ด้านดิจิทัล “ไมโครซอฟท์” และ “เอไอเอส” เปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมเชื่ อมโลกจริงและเสมือนจริง ‘Mixed Reality (MR)’ มาใช้ในอสังหาฯ เป็นครั้งแรกของไทย โดยชูไฮไลท์ “MR Sales Gallery” ห้องตัวอย่างเสมือนจริงครั้ งแรกในโลก ยกระดับประสบการณ์การซื้อที่อยู่ อาศัยไปอีกขั้นผ่ านการจำลองสภาพแวดล้อมให้ลูกค้ าได้สัมผัสบรรยากาศของโครงการที่ พักอาศัยแบบอินเทอร์แอ็คทีฟ ด้วยฟังก์ชันในการออกแบบและปรั บเปลี่ยนห้องตัวอย่างได้ในทุกมุ มมอง โดยเตรียมนำร่องใช้งานกั บโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริ ในปีนี้ นอกจากนี้ล่าสุด ยังนับเป็นครั้งแรกของแสนสิริ และแอลจีสู่การนำนวัตกรรมสุดล้ำ เพื่อเปิดตัว “สมาร์ทโฮม โซลูชัน ลูกบ้านแสนสิริสามารถเชื่อมต่ อระบบสั่งงานของ Smart ThinQ™ ผ่าน Home Service Application ของแสนสิริ เพื่อให้ครอบคลุมในทุกมิติ ของการใช้ชีวิตภายในแอพพลิเคชั่ นเดียว นอกจากนี้บริษัทยั งประสบความสำเร็จจากการจับมือกั บพาร์ทเนอร์ พันธมิตรธุรกิจที่หลากหลายธุรกิ จ เพื่อผนึกความแข็งแกร่งระหว่ างสองธุรกิจในการนำเทคโนโลยีเข้ ามาตอบรับลูกค้า ตามแนวคิด Complete Your Living Experience #CompleteYourLivingExperience อีกด้วย
ขณะที่ สิริ เวนเจอร์ส ประสบความสำเร็จในความร่วมมื อผลักดันสร้างระบบนิเวศสำหรั บสตาร์ทอัพ ร่วมกับเครือข่ายนวัตกรรมระดั บโลก อาทิ SOSA และ Plug and Play รวมถึงล่าสุดกับการนำนวัตกรรม “Wind Turbine” จาก Semtive สตาร์ทอัพชั้นนำผู้พัฒนากังหั นลมสำหรับที่พักอาศัยจากสหรั ฐอเมริกาที่สิริ เวนเจอร์สได้เข้าไปร่วมลงทุน มาจัดแสดงเป็นครั้ งแรกในประเทศไทยในงานTechSauce Global Summit 2018 เพื่อเป็นการแนะนำให้คนไทยได้สั มผัสกับนวัตกรรมสุดล้ำและสร้ างโอกาสในการเติบโตในตลาดไทยไปพ ร้อมกัน รวมถึงการนำแนวคิดระดับโลก “Agile” (เอจาวล์) พลิกโฉมองค์กรในบทใหม่ รับยุคมิลเลนเนียล ฉีกกฏการทำงานแบบเดิมให้คล่องตั วและมีประสิทธิภาพขึ้น เพื่อให้การทำงานมีความคล่องตั วและก้าวทันยุคดิจิทัล เพิ่มประสิทธิ ภาพการทำงานภายในองค์กร โดยการนำระบบ Salesforce เข้ามาใช้ เพื่อพัฒนาระบบการทำการตลาด รวมถึงระบบการบริการลูกค้าให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำระบบ Primavera ที่ช่วยควบคุมขั้นตอนการก่อสร้ าง มาใช้ในองค์กรเป็นครั้งแรก
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่ วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทจะรุกพัฒนาโครงการใหม่อย่ างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ หัวหิน และศรีราชา ชลบุรี โดยมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ อีก 15 โครงการ มูลค่ารวม 36,900 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 6 โครงการ บ้านเดี่ยว 4 โครงการ และทาวน์เฮาส์ 6 โครงการ โดยในเดือนสิงหาคมนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัว “XT”แบรนด์คอนโดมิเนียมล่าสุ ดจากแสนสิริ #SansiriXT ที่จะฉีกกฎการพัฒนาคอนโดมิเนี ยมรูปแบบเดิม โดยวางแผนเปิดตัวในปีนี้ 3 โครงการ บน 3 ทำเลศักยภาพ คือ เอกมัย พญาไท และ ห้วยขวาง ในมูลค่ารวมโครงการที่สูงที่สุ ดที่ไม่เคยมีมาก่อน
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเปิดตัว คอนโดมิเนียมแบรนด์ เดอะ เบส ภายใต้แบรนด์คอนเซ็ปต์ใหม่MARK MY BASE จำนวน 3 โครงการ 3 ทำเล ในกรุงเทพฯ และภูเก็ต มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ในปี 2561 โดยจ่อคิวเปิดตัว เดอะ เบส สุขุมวิท 50 และ เดอะ เบส สะพานใหม่ ในเดือนสิงหาคมนี้ หลัง เดอะ เบส เซ็นทรัล ภูเก็ต ซึ่งเปิดตัวเป็ นโครงการแรกประสบความสำเร็จปิ ดการขายอย่างรวดเร็วทันทีในวั นพรีเซลล์
บริษัทยังมีแผนการสานต่อกลยุทธ์ การเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้ วยการเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้ นนำทั้งไทยและต่างประเทศอย่างต่ อเนื่อง โดยกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัย จะมีการพัฒนาโครงการใหม่ จากการลงทุนร่วมกับบีที เอสและโตคิว กรุ๊ป ส่วนกลุ่มธุรกิจใหม่ จัสท์โค (JustCo) ได้เตรียมเปิด โคเวิร์คกิ้งสเปซ เป็นแห่งที่ 2 ที่อาคาร All Seasons Place หลังปักธงเปิดสาขาแรกใหญ่ที่สุ ดในประเทศไทย ที่อาคาร AIA Sathorn ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเล็งมอบสิทธิพิเศษให้ลูกบ้ านแสนสิริเข้าใช้บริการ นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลัง Hostmaker (โฮสต์เมกเกอร์) บริษัทผู้ให้บริการ บริหารการเช่าที่พักอาศัยและผู้ บริหารการจองที่พักอันดับหนึ่ งของ Airbnb ที่ได้รับรางวัลการันตีคุ ณภาพมาแล้วจะเข้ามาช่วยบริหารจั ดการอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ลูกบ้ านและสร้างเพิ่ มความสามารถในการแข่งขั นในตลาดต่างประเทศอีกด้วย
ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตใน โรงงานพรีคาสท์ของแสนสิริ ให้สอดคล้องกับการเติ บโตและรองรับการพัฒนาโครงการบ้ านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ของแสนสิริ ที่ได้รับการตอบรับที่ดี มากตามแผนการดำเนินงาน เพื่อลดระยะเวลาการก่อสร้าง ลดก ารใช้แรงงาน และปรับเปลี่ยนรู ปแบบการผลิตให้มีความคล่องตัวสู ง รวมถึงการเดินหน้าวิสัยทัศน์ขั บเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน (Sustainability) ภายในองค์กรผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่ 1. Environment - อาทิ ลดการใช้กระดาษ (Paperless) ลดคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ผ่านการลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่ จำเป็น เป็นต้น 2. Social Change โดยที่ผ่านมาแสนสิริได้ร่วมกั บยูนิเซฟในการพัฒนาสิทธิเด็ กในประเทศไทยมายาวนานกว่า 7 ปี ในความรับผิดชอบต่อสังคมมุ่งเน้ นการช่วยเหลือ ส่งเสริม พัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืน รวมถึงการรณรงค์การยุติการใช้ แรงงานเด็กในทุกรูปแบบที่ธุรกิ จมีส่วนเกี่ยวข้อง ในโครงการ 'พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก' ในสถานที่ก่อสร้าง หรือ The Good Space #SansiriGoodSpace เพื่อให้เด็กในไซต์ก่อสร้างไม่ ว่าสัญชาติใด ได้ร่วมทำกิจกรรมที่จัดให้อย่ างปลอดภัย นอกจากนี้แสนสิริยังเน้ นการออกแบบโครงการต่างๆ ให้ทุกคนสามารถใช้งานได้เท่าเที ยมกัน หรือที่เรียกว่า Universal Design รวมถึงข้อ 3.Good Governance ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนิ นงานอย่างโปร่งใสถูกต้อง
“ผลการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่ งปีแรกของบริษัทที่มียอดขายเติ บโตขึ้นถึง 62% เทียบกับปีที่ผ่านมา คิดเป็นเกินกว่า 53% จากเป้าหมายยอดขายรวมที่วางไว้ ผนึกกับความแข็งแกร่งของแผนธุ รกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 นี้ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้ างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ วางไว้ในปีนี้ 45,000 ล้านบาท อย่างแน่นอน ซึ่งจะนับเป็นการสร้างประวัติ การณ์ยอดขายใหม่ที่สูงที่สุดเป็ นประวัติการณ์ในรอบ 34 ปีของแสนสิรินับแต่มีการก่อตั้ งบริษัทและเป็นปีที่ดีที่สุ ดของแสนสิริ #SansiriBestYearEver” ” นายวันจักร์ กล่าว