ไฮเออร์สอบผ่านครึ่งปีแรกตัวเลขโตกว่า 20% จากปีก่อน รุกตลาดพรีเมียม คาดดันตัวเลขปลายปีโตตามเป้า 48%
ไฮเออร์ ครึ่งปีแรกโตตามเป้ามูลค่า 2,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 20% พร้อมจัดหนักตลาดพรีเมียม ส่งสินค้ารุ่นใหม่ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ลงตลาดเพิ่มเท่าตัว เน้นการตอกย้ำแบรนด์ผ่านทีวีซี และโซเซียลเน็ตเวิร์คนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบสนองไลฟ์สไตล์เฉพาะของผู้บริโภค คาดสิ้นปีตัวเลขตามเป้าโต 48% หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท
มร. จาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ เปิดเผยว่า ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาไฮเออร์มียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 20% หรือประมาณ 300 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยบวกจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลให้สินค้ากลุ่มทำความเย็นมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น อาทิ ตู้เย็นมีรายได้ประมาณ 350 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เครื่องปรับอากาศมีรายได้ประมาณ 1,100 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 19% ตู้แช่มีรายได้ 200 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 10% รวมถึงเครื่องซักผ้ามีรายได้ 240 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 61% และสินค้าชนิดอื่น ๆ มีรายได้กว่า 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเดียวกัน
สำหรับในครึ่งปีหลังไฮเออร์จะบุกหนักที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ซึ่งถือเป็นสินค้าเรือธงของบริษัท โดยจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตู้เย็นรุ่นใหม่กลุ่มพรีเมียมรุ่น NAVICOOLING ครั้งเเรกของโลกในประเทศไทย ด้วยดีไซน์ภายนอก ที่หรูหรา ด้วยดีไซน์มือจับแบบใหม่ที่แตกต่าง จากคู่แข่งในตลาด ทำให้ซีรี่ย์นี้จะโดดเด่นและ ฉีกดีไซน์เดิม ๆ ของตู้เย็น 2 ประตูและฟังก์ชั่นใหม่ Snow Beverage ที่สามารถทำให้ตู้เย็นธรรมดาทำเครื่องดื่มเกล็ดน้ำแข็งได้ หรือหากไม่ใช้ช่องแช่แข็งก็สามารถใช้ฟังก์ชั่น Convertible เปลี่ยนช่องแช่แข็งเป็นช่องแช่เย็นธรรมดาได้ พร้อมฟังก์ชั่น Inverter ตอบโจทย์เรื่องการประหยัดพลังงาน โดยมีให้เลือก 3 สี 3 สไตล์ไม่ว่าจะเป็น กระจกสีดำ แสตนเลส และสีเงิน Classy Silver และสำหรับตู้เย็น 4 ประตู ไฮเออร์ ภูมิใจนำเสนอ HRF-MD620 ที่ประสบความสำเร็จจากทั่วเอเชีย ด้วยฟังก์ชั่น Triple Cooling พัดลม3ตัวทำความเย็นแยกส่วนการทำงานอย่างอิสระ อีกทั้งการันตีด้วยสิทธิบัตร (HCS) แยกช่องแช่ผัก & ช่องแช่ของแห้งอิสระ เอกสิทธิ์เฉพาะ Haier และเพรียบพร้อมทุกด้านทั้งดีไซน์ที่สวย ไฮเอนด์ อีกทั้งสเปคการใช้งานที่ครบเครื่อง ระบบแอนตี้แบคทีเรีย จอ LED ถนอมสายตา และฟังก์ชั่นล้ำสมัยอื่น ๆ อีกมากมาย
ผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าจะเปิดตัวรุ่นใหม่ 10 รุ่น ในครึ่งปีหลัง แบ่งเป็นฝาหน้า 6 รุ่น และฝาบนอีก 4 รุ่น นำโดย Front Load 525 series เครื่องซักผ้าฝาหน้าระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ล่าสุดกับนวัตกรรมดีไซน์ฝาประตูขนาดใหญ่ที่สุด กว้าง 525 มม. พร้อมช่องใส่ผ้าขนาดใหญ่ กว้าง 360 มม. สามารถใส่ผ้าชิ้นใหญ่ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น ชุดเครื่องนอนขนาดใหญ่ และยังใส่ผ้าจำนวนมาก ๆ ได้ในครั้งเดียว ช่วยประหยัดเวลาในการซักผ้า ให้คุณมีความสุขทุกครั้งที่ได้ซักผ้ากับไฮเออร์ 525 series พร้อมเทคโนโลยี Power of Gravity ช่วยให้ซักสะอาดกว่ารุ่นทั่วไปถึง 25% ด้วยดีไซน์ถังซักแบบใหม่ที่กว้างขึ้น ทำให้ผ้าสามารถเคลื่อนไหวได้ถึง 360 องศา แล้วจึงตกลงมากระทบน้ำด้านล่าง ทำให้ผ้าสะอาดหมดจดมากกว่าการซักแบบทั่วไปนอกจากนี้ 525 series ยังให้ความจุเพิ่มขึ้น 50% เทียบกับรุ่นที่มีขนาดตัวเครื่องเท่ากัน เช่น 525 series 12 กก. มีขนาดตัวเครื่องเท่ากับเครื่องซักผ้าทั่วไป 8 กก. และยังประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้ถึง 20% เมื่อเทียบกับรุ่นที่มีความจุเท่า ๆ กัน ขับเคลื่อนด้วย FPA Inverter Direct Drive เทคโนโลยีมอเตอร์ต่อตรงกับตัวถังซัก ไร้สายพาน ให้การทำงานเงียบสนิท เพียง 67 เดซิเบลแม้ในขั้นตอนปั่นหมาด ประหยัดพลังงาน และประสิทธิภาพที่สูงสุด ถือเป็นผู้นำในด้านมอเตอร์ในตลาด ไร้เสียงรบกวนขณะที่เครื่องทำงานไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ในช่วงเวลาพักผ่อนของคุณ ให้ผ้าสะอาด หอม เหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา รวมถึงรุ่น Front Load ระดับ Entry และ Top Load DD-Inverter ไซส์ใหม่เอาใจครอบครัวใหญ่ เพื่อตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน
สำหรับในปีนี้ไฮเออร์ทุ่มงบเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 40% เพื่อทำตลาดแบบครบวงจร ทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทั้งในแบบของทีวีซี โซเซียลเน็ตเวิร์ค การทำกิจกรรมโรดโชว์ตามต่างจังหวัด และการจัดดิสเพลย์ โปรโมชั่น เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าซึ่งคาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ ให้เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 40% มียอดขายรวมประมาณ 4,000 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท
โดยเป้าหมายในปีนี้ของไฮเออร์ จะมียอดขายรวมอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายเติบโตได้ตามเป้า โดยเฉพาะกลุ่มตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ ที่ตลาดยังมีแนวโน้มขยายตัวอีกมาก มร.จาง เจิ้งฮุ้ย กล่าว
เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทไฮเออร์
ไฮเออร์ เป็นผู้นำของโลกในด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี โดยมีพันธกิจในการสร้างสรรค์เครื่องใช้ภายในบ้านเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของผู้บริโภคกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ไฮเออร์มีรายได้ 30.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีผลกำไร 2.89 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี พ.ศ.2558 ดังนั้น จึงเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ภายในบ้านรายใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อพิจารณาจากส่วนแบ่งทางการตลาด ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุด ในการวิจัยด้านกลยุทธ์สำหรับตลาดผู้บริโภคได้ยกให้ไฮเออร์เป็นแบรนด์เครื่องใช้ภายในบ้านอันดับหนึ่งของโลกในด้านส่วนแบ่งทางการตลาดติดต่อกันเป็นระยะเวลา 9 ปีมาแล้ว ในปีพ.ศ. 2555 บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป ได้จัดอันดับให้ไฮเออร์เป็น 1 ใน 10 บริษัทที่มีนวัตกรรมล้ำหน้ามากที่สุดในโลก ในปี 2558 และมร.จาง รุ่ยหมิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทไฮเออร์ ได้รับยกย่องจาก Best Practice Institute (BPI) ให้เป็นหนึ่งในสุดยอดซีอีโอของโลก ล่าสุดแบรนด์ไฮเออร์ยังเป็น 1 ใน 50 แบรนด์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ปี 2560 จัดอันดับโดย World Brand Lab อีกด้วย
บริษัท ไฮเออร์ อิเล็กทรอนิกส์ กรุ๊ป จำกัด ในเครือกลุ่มบริษัทไฮเออร์ เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HK: 1169) ส่วนบริษัท Qingdao Haier ในเครือกลุ่มบริษัทไฮเออร์ เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (SHA: 600690)
กลุ่มบริษัทไฮเออร์ เข้ามาศึกษาตลาดในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2545 ต่อมาปี พ.ศ. 2550 ไฮเออร์ได้ซื้อกิจการ โรงงานของบริษัท ซันโย ยูนิเวอร์แซล ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) พร้อมตั้งบริษัทขายของตัวเอง คือ บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่งผลให้ไฮเออร์มีฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฐานการผลิต และบริษัทขายเป็นของตัวเองในประเทศไทยตามกลยุทธ์ 3 in 1 Localization
กลุ่มบริษัทไฮเออร์ ประเทศไทย ได้เปิดศูนย์ฝึกอบรมด้านเทคนิคสำหรับเครื่องปรับอากาศระดับภูมิภาค ภายในบริเวณโรงงานเครื่องปรับอากาศ โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ไฮเออร์วางจำหน่ายในไทย อาทิ ตู้เย็น ตู้แช่ เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ และเครื่องทำน้ำอุ่น