ADS


Breaking News

เปิดตัว ALL NEW MG3 เติมเต็มทุกความสนุก “มองโลกให้สนุกทุกเส้นทาง”

  • แฮทช์แบ็คสีสันสดใส ภายใต้นิยาม “WE ARE FUN” “มองโลกให้สนุกทุกเส้นทาง”
  • เปิดตัว ALL NEW MG3 ด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 112 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ 
  • ผสานระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน กับ SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM 8 ระบบ เพื่อความมั่นใจในการขับขี่ให้สนุกในทุกเส้นทาง
กรุงเทพฯ,  21 มิถุนายน 2561 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว ALL NEW MG3  แฮทช์แบ็คหลากสีสันสดใส มิติใหม่ของความสนุกด้วยเอกลักษณ์ของ ALL NEW MG3 ที่มาพร้อมนิยามใหม่ “WE ARE FUN” : มองโลกให้สนุกทุกเส้นทาง” พร้อมปรับโฉมด้วยการออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สีสันโดนใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะที่จะเพิ่มประสบการณ์ขับขี่ของคุณให้สนุกทุกเส้นทาง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคนรุ่นใหม่ ที่มองโลกให้สนุกกับทุกจังหวะของการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง ALL NEW MG3 จึงถูกออกแบบภายใต้แนวคิด บริท ไดนามิค (BRIT DYNAMIC) ทำให้สมรรถนะ การควบคุม การออกแบบ และความปลอดภัย ในการขับขี่สนุกยิ่งขึ้น ด้วยการผสานดีไซน์ เทคโนโลยี สีสัน ความสะดวกสบาย และความคล่องแคล่วเข้าด้วยกัน ทำให้เราออกไปเห็นโลกในมุมมองใหม่ๆ ทุกวัน
ALL NEW MG3 ยังมาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART ที่สามารถรองรับการสั่งการได้ด้วยเสียงภาษาไทย พร้อมกับการอัพเดทฟังก์ชันใหม่บนแผนที่นำทางที่สามารถแนะนำร้านอาหาร และที่พัก เพิ่มความสนุกอีกขั้นกับระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ออนไลน์เพื่อความสนุกทุกจังหวะในการขับขี่ โดยภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางยังเพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชันที่สร้างความสะดวกสบาย และระบบความปลอดภัย SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM 8 ฟังก์ชัน ที่ครบครันยิ่งขึ้น
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยเสียงตอบรับที่ดีของ MG3 ด้วยยอดขายถึง 17,000 คัน การเปิดตัว ALL NEW MG3 โฉมใหม่ในวันนี้ เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ALL NEW MG3 ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรถต้นแบบอย่าง เอ็มจี อี-โมชั่น (E-Motion) รวมถึงการนำนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการเชื่อมต่อทางอินเตอร์เน็ตเข้าไว้ด้วยกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่พร้อมตอบโจทย์กับความสนุกและล้ำสมัยพร้อมเป็นผู้นำเทรนด์ รองรับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ในอนาคตที่ต้องการการขับขี่สนุกและปลอดภัย โดยเราคาดการณ์ว่า ALL NEW MG 3 จะมียอดจำหน่ายที่ 10,000 คัน ในปี 2561
ALL NEW MG3 อัพเกรดความสนุกสไตล์อังกฤษรูปลักษณ์ใหม่ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร ให้สอดคล้องความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความคล่องตัว จึงมาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ที่โดดเด่นขึ้น พร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (Projector Headlamp) เติมความสดใสด้วยสีสันแนว บริท ดูโอ้ คัลเลอร์ สไตลิ่ง (Brit Duo Colour Styling) และช่วยเปิดมุมมองความสนุกให้กว้างขึ้นกับหลังคา ซันรูฟ (Sunroof) แบบปรับไฟฟ้าและเสริมบุคลิกความสนุกให้โดดเด่นด้วยไฟท้ายแบบแอลอีดี ไลท์ไกด์ (LED Light Guide) การออกแบบด้านข้างที่ปราดเปรียวที่มีเส้นสายชัดเจนพาดจากด้านหน้าไปจนถึงซุ้มล้อหลัง และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-Colour ขนาด 16 นิ้ว  ที่โดดเด่นสะดุดตา
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบที่มีสไตล์ดูหรูหราสปอร์ตพรีเมียมขึ้น กว้างขวางนั่งสบายทั้งที่นั่งแถวหน้า และแถวหลัง ผสานเส้นสายกับสีสันของเบาะโดยสารลายโมเดิร์นกราฟิก เบาะที่นั่งหลังสามารถปรับพับแยกส่วนในการเก็บสัมภาระแบบ 60:40 สร้างความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว สนุกมากขึ้นกับจอระบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว ที่ให้เทคโนโลยีเติมความสนุกในทุกเส้นทาง ด้วยฟังก์ชันที่ใช้งานได้หลากหลายทั้งฟังเพลง ดูหนัง ค้นหาโรงแรมและร้านอาหาร พร้อมกล้องมองหลังขณะถอย และสัญญาณเตือนระยะถอยหลังที่ช่วยเติมเต็มความสนุกของเราได้เสมอ
ALL NEW MG3 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ DOHC VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร ให้พละกำลัง 112 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดย เอ็มจี ยังตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดของระบบความปลอดภัยใน ALL NEW MG3 เช่นเดียวกับรถยนต์ เอ็มจี รุ่นอื่นๆ ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย USD (Ultimate Stiffness Design) พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า และมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยแบบ SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM รวม 8 ฟังก์ชัน ที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS(Anti-Lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) เข้าโค้งอย่างมั่นใจด้วยระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง  CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) และระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR (Motor Control Slide Retainer)
นอกจากนี้ระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART มาพร้อมกับการอัพเดทฟังก์ชันใหม่บนแผนที่นำทางที่สามารถแนะนำร้านอาหาร และที่พัก เพิ่มความสนุกอีกขั้นกับเสียงเพลงจากศิลปินค่ายต่างๆผ่านระบบออนไลน์ ที่รองรับการแสดงผลผ่านหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อยูเอสบี (USB)  และยังสามารถรวบรวมข้อมูลที่มีความสำคัญและแจ้งต่อผู้ขับได้ตลอดเวลา เช่น ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สภาพการทำงานของแบตเตอรี่ ถุงลมนิรภัย และสถานะประตู ผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมกับช่วยบอกตำแหน่งรถยนต์และแจ้งเตือนการสตาร์ทเครื่องที่ผิดปกติซึ่งอาจเกิดจากการโจรกรรม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกระดับ สำหรับลูกค้า NEW MG ZS สามารถอัพเดทฟังก์ชันใหม่ในระบบ i-SMART ได้ฟรีเช่นกันที่โชว์รูมตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน เป็นต้นไป
ใน ALL NEW MG3  ยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ครบครันที่สุดรุ่นหนึ่งในรถระดับเดียวกัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แผงคอนโซลโมเดิร์นกราฟิก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วาง สายโทรศัพท์ด้วยปลายนิ้วสัมผัส มาพร้อมกับกุญแจรีโมท
ทั้งนี้ ALL NEW MG3 มีสีให้เลือก ทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเหลืองทิวดอร์ เยลโล่ (Tudor Yellow)  สีแดง รูบี เรด (Ruby Red) สีฟ้ามารีนา บลู (Marina Blue) สีขาวอาร์กติกไวท์ (Arctic White) และสีดำแบล็คไนท์ (Black Knight)  พร้อมกันนี้ ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ ALL NEW MG3 จะได้รับแพ็คเกจใช้งานระบบอัจฉริยะ i-SMART ฟรี เป็นระยะเวลา 5 ปี และได้รับความอุ่นใจกับการบริการแพสชั่น เซอร์วิส (Passion Service) ด้วยการรับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) และการให้คำแนะนำผ่านศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 1267 (MG Call Centre 1267) รวมไปถึงบริการเช็คระยะนอกสถานที่ (Mobile Services) ผู้สนใจสามารถสัมผัส ALL NEW MG3 ได้ที่ผู้แทนจำหน่าย เอ็มจี ทั่วประเทศ หรือพบกัน ที่บูธ A02 ในงาน ฟาสต์ ออโต้โชว์ 2018 (FAST AUTOSHOW 2018) ในวันที่ 27 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคมนี้    ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา สามารถรับชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mgcars.com

# # #
เกี่ยวกับเอ็มจี
     เอ็มจี ก่อตั้งขึ้นในปี 1924 โดยชื่อ MG นั้นย่อมาจาก Morris Garages เอ็มจีนับว่าเป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นตลอดระยะเวลา 90 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันแบรนด์ เอ็มจี อยู่ภายใต้การดูแลของ เอสเอไอซี โดย เอ็มจี มีศูนย์กลางทางด้านการออกแบบ ฟังก์ชันการใช้งาน และการออกแบบด้านเทคนิคที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เอ็มจี เป็นแบรนด์รถยนต์อังกฤษที่ใช้เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมตามแบบฉบับยุโรป โดยได้รับการสนับสนุนจาก เอสเอไอซี ทั้งในเรื่องการจัดหาวัสดุจากทั่วโลก รวมถึงการจัดการด้านซัพพลายเชนเกี่ยวกับส่วนประกอบของรถยนต์ ตลอดจนการจัดการด้านการควบคุมคุณภาพ รวมถึงบริการด้านอื่นๆ เอ็มจี เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากรถยนต์ 2 ที่นั่งรุ่น MGB Roadster ที่เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 1962 ในวันนี้ เอ็มจีผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเพื่อการจัดจำหน่ายไปทั่วโลก

เกี่ยวกับเอ็มจี ประเทศไทย
     บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 เพื่อกำกับดูแลงานด้านการขาย การตลาด และบริการหลังการขายของแบรนด์รถยนต์ เอ็มจี ในประเทศไทย และกำกับดูแลเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายของ เอ็มจี ทั้งที่เป็นบริษัทร่วมทุน และที่เป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และเอสเอไอซี ทั้งนี้ บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น (เอสเอไอซี) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมและมีขนาดใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งของประเทศไทย ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ขึ้นเพื่อผลิตรถยนต์ เอ็มจี และจำหน่ายภายในประเทศไทย รวมทั้งการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยโรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช จังหวัดชลบุรี


ข้อมูลทางเทคนิค ALL NEW MG3
ALL NEW MG3  แฮทช์แบ็คสีสันสดใส รุ่นล่าสุด จาก เอ็มจี ภายใต้นิยาม “WE ARE FUN” มองโลกให้สนุกทุกเส้นทาง  ที่สร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด บริท ไดนามิค (BRIT DYNAMIC) ทำให้สมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDLING) การออกแบบ (DESIGN)  และความปลอดภัย (SAFETY) สนุกยิ่งขึ้นด้วยการผสานดีไซน์ เทคโนโลยี สีสัน ความสะดวกสบาย ความคล่องแคล่ว และความสนุกในการขับขี่เข้าด้วยกัน ทำให้เราออกไปเห็นโลกในมุมมองใหม่ ๆ ทุกวัน พร้อมการก้าวสู่เทคโนโลยียนตรกรรมที่เหนือกว่าด้วยระบบอัจฉริยะ i-SMART สามารถรองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ภายในห้องโดยสารยังเพียบพร้อมความสะดวกสบาย กว้างขวาง และพรีเมียม พร้อมระบบความปลอดภัย SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM 8 ระบบ ที่ครบครันยิ่งกว่า  

การออกแบบภายนอก

  • ดีไซน์ภายนอกได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรถต้นแบบอย่าง เอ็มจี อี-โมชั่น (E-Motion)
  • กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ มีความหรูหรา ทันสมัยยิ่งขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็น เอ็มจี 
  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์
  • ไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวันหรือเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ (Daytime Running Lights) (ยกเว้นรุ่น C)
  • ไฟท้ายแอลอีดี ไลท์ไกด์ (LED Light guide)
  • หลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น X และ V) 
  • ไฟเบรกดวงที่สาม 
  • ไฟตัดหมอกหลัง 
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
  • สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต (เฉพาะรุ่น V)
  • ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น V)
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าและหลัง
  • ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว (เฉพาะ รุ่น X และ V)
  • สเกิร์ตข้างสีทูโทน (เฉพาะรุ่น V) 
  • สีตัวถังมีทั้งหมด 5 สี คือ สีเหลืองหลังคาดำ Tudor Yellow - Blacktop สีแดงหลังคาดำ Ruby Red - Black Top สีฟ้าหลังคาขาว Marina Blue - White Top สีขาว Arctic White และ สีดำ Black Knight (รุ่น C จะมีเฉพาะสีขาว Arctic White และสีดำ Black Knight)

มิติตัวถัง
  • ความยาว 4,055 มม.
  • ความกว้าง 1,729 มม.
  • ความสูง 1,516 มม.
  • ระยะช่วงล้อ 2,520 มม.
  • ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า 1,496 มม.
  • ระยะห่างระหว่างล้อคู่หลัง 1,483 มม.

การออกแบบภายใน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
  • ตกแต่งด้วยดีไซน์พรีเมียม สะท้อนความสปอร์ตที่ผสานเส้นสายสีสันลายโมเดิร์นกราฟิก 
  • เบาะนั่งด้านหลังพับแยกส่วนได้ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ
  • พวงมาลัยหุ้มหนัง (เฉพาะรุ่น X และ V)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control (เฉพาะรุ่น V) 
  • เบาะคนขับปรับ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง (ยกเว้น รุ่น C)
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Multi-Function Display
  • กระจกไฟฟ้าวันทัชดาวน์ ด้านคนขับ และกระจกมองหลังตัดแสง 
  • ระบบปรับอากาศแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ยกเว้นรุ่น C)
  • ช่องแอร์ออกแบบสไตล์เจ็ท เทอร์ไบน์
  • ช่องจ่ายไฟสำรอง 12 โวลต์ และไฟส่องแผนที่
  • กุญแจรีโมท
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์ (เฉพาะรุ่น X และ V)
  • ลำโพง 6 ตัว (รุ่น X และ V) และลำโพง 4 ตัว (รุ่น D)
  • หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว (เฉพาะรุ่น X และ V)
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ และช่องเชื่อมต่อยูเอสบี 
  • แผงบังแดดด้านหน้า 
  • ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย 

เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร

  • เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH
  • ระบบจ่ายน้ำมัน หัวฉีดมัลติพอยท์
  • ความจุกระบอกสูบ 1,498 ซีซี 
  • พละกำลังสูงสุด 112 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที 
  • แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที 
  • เส้นผ่านศูนย์กลางกระบอกสูบ x ระยะชัก (มม.) 75 x 84.8
  • อัตราส่วนกำลังอัด 11.5:1


ระบบพวงมาลัย ระบบกันสะเทือนและระบบเบรก

  • ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฮดรอลิก 
  • รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.425 เมตร
  • ช่วงล่างด้านหน้า แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ช่วงล่างด้านหลัง ทอร์ชันบีม
  • ระบบเบรกหน้า ดิสก์เบรก พร้อมช่องระบายความร้อน 
  • ระบบเบรกหลัง ดรัมเบรก

ระบบส่งกำลัง

  • อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode
  • อัตราทดเกียร์ 1 2.875
  • อัตราทดเกียร์ 2 1.568
  • อัตราทดเกียร์ 3 1.000
  • อัตราทดเกียร์ 4 0.697
  • อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 2.300
  • อัตราทดเฟืองท้าย 4.375


โครงสร้างตัวถังนิรภัย USD (Ultimate Stiffness Design) พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า และมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยแบบ SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM รวม 8 ฟังก์ชั่น ที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว
  1. ABS (ANTI-LOCK BRAKING SYSTEM) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน 
  2. EBA (ELECTRONIC BRAKE ASSIST) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 
  3. EBD (ELECTRONIC BRAKE FORCE DISTRIBUTION) ระบบช่วยกระจายแรงเบรก 
  4. SCS (STABILITY CONTROL SYSTEM) ระบบควบคุมการทรงตัว 
  5. CBC (CURVE BRAKE CONTROL) ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง 
  6. TCS (TRACTION CONTROL SYSTEM) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ควบคุมการลื่นไถล 
  7. HAS (HILL START ASSIST SYSTEM) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน 
  8. MSR (MOTOR CONTROL SLIDE RETAINER) ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน 
  9. FOLLOW ME HOME LIGHTไฟส่องสว่างนำทางหลังจากเครื่องยนต์ 
  10. ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) 
  11. จุดยึดเบาะที่นั่งเด็ก ISOFIX 
  12. เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง 
  13. เข็ดขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง 
  14. กล้องมองหลัง (เฉพาะรุ่น X และ V) 
  15. สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง (ยกเว้น รุ่น C) 
  16. ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer 
  17. ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน 


ระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART - THE  INTELLIGENT SYSTEM FOR SMART LIFE
ระบบรองรับการสั่งการภาษาไทย ก้าวสู่เทคโนโลยีโลกยนตรกรรมที่เหนือกว่าด้วย i-SMART นวัตกรรมอัจฉริยะ ที่คิดค้นเพื่อการใช้ชีวิตให้สนุก และสะดวกสบายยิ่งขึ้นกับโลกวันนี้ นวัตกรรมเอกสิทธิ์เฉพาะรถยนต์ MG ที่ช่วยให้คุณกับรถสื่อสารกันได้เสมอ ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เรียนรู้จากคำสั่งและการใช้งานของคุณ ด้วยการตรวจสอบข้อมูลจากรถและการใช้งาน

มุ่งหน้าสู่ความเป็นผู้นำการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์อัจฉริยะหรือสมาร์ทคาร์ เพื่อยกระดับความสะดวกสบายและความปลอดภัย พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุค Internet of Things

ผู้ใช้สามารถควบคุมระบบการสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) เพียงแค่พูด “ฮัลโหล เอ็มจี” (Hello MG) เพื่อเริ่มต้นใช้งานซึ่งสามารถสั่งการฟังก์ชันต่างๆในตัวรถ รวมถึงระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และระบบช่วยนำทางทำให้ผู้ขับขี่สะดวกสบายในการใช้งานและไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมสั่งการผ่านหน้าจอภายในรถ และการสั่งการผ่านโมบายแอปพลิเคชั่นในอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

ทั้งนี้ระบบ i-SMART ใน ALL NEW MG3 (เฉพาะรุ่น V) มีฟังก์ชั่นเด่นที่ช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งให้ข้อมูลรถยนต์ผ่านช่องทางการสั่งการ 3 ทาง ได้แก่

1. ระบบสั่งการด้วยเสียง (Thai Voice Command) ผู้ขับขี่สามารถสั่งการ ระบบเครื่องเสียง / ระบบปรับอากาศ / โทรออก / ระบบนำทาง

2. ระบบสั่งการผ่านหน้าจอทัชสกรีน ( i-SMART on  Touchscreen) รองรับการใช้งานระบบนำทางเนวิเกชัน  พร้อมระบบตรวจสอบการจราจรแบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังมีระบบที่สามารถแนะนำร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง และสนุกกับเสียงเพลงจากศิลปินค่ายต่างๆ และ i-Call ระบบโทรออก-รับสายในกรณีฉุกเฉิน

3. ระบบสั่งการด้วยมือถือ (i-SMART Mobile Application) ผู้ใช้งานสามารถสั่งการหลายฟังก์ชันภายในรถยนต์ผ่านโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกสบาย ได้แก่ ระบบล็อก และปลดล็อกประตู ระบบวางแผนการเดินทาง ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ และระบบค้นหารถ Find my car รวมถึงระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์ และเตือนความผิดปกติของรถยนต์