บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ผนึกพันธมิตร ผุดโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาด 420 เมกะวัตต์ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
บมจ. บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เดินหน้าขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ ายไฟฟ้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่ อง ล่าสุดมีความคืบหน้ าของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและในอาเซี ยนขนาด 420 เมกะวัตต์ ร่วมกับบริษัท Xuan Cau Co., Ltd. โดยจะสรุปลงนามสัญญาร่วมทุ นภายในปลายเดือนเมษายนนี้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการพิจารณาคั ดเลือกผู้รับเหมาและหารือร่วมกั บสถาบันการเงินทั้งในและต่ างประเทศ โครงการดังกล่าวจะเริ่มเปิ ดดำเนินการเชิงพาณิชย์และรับรู้ รายได้ภายในเดือนมิถุนายน 2562 มั่นใจดันสัดส่วนพลั งงานทดแทนและการลงทุนในต่ างประเทศตามเป้า 30% ใน 5 ปี
นาง ปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยเพิ่มเติมกรณี รมว.พลังงานส่งสัญญาณไม่รับซื้ อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในช่วง 5 ปี ไม่ได้มีผลต่อบริษัทเนื่ องจากโครงสร้างรายได้หลักมาจาก โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ประเภท SPP กว่า 2,200 เมกะวัตต์ จากโครงการทั้งหมดที่มีสัญญาแล้ วทั้งสิ้น 2,518 เมกะวัตต์ และบริษัทมีโอกาสในการขยายธุรกิ จไปต่างประเทศ เช่นโครงการพลังงานน้ำในสปป. ลาว โครงการสายส่งในกัมพูชาและเวี ยดนาม และโครงการพลังงานทดแทนในฟิลิ ปปินส์ และเวียดนาม โดยย้ำชัดหากบริษัทจะลงทุ นโครงการพลังงานทดแทนในประเทศต้ องเป็นโครงการที่มีผลตอบแทนที่ เหมาะสม เช่นโครงการโซลาร์ราชการ 31 เมกะวัตต์ที่จะเปิดดำเนิ นการในปีนี้ โครงการขยะอุตสาหกรรม 5 เมกะวัตต์ที่จะเปิดดำเนิ นการในปี 2562 หรือโครงการโซลาร์รูฟท็อป ในประเทศจำนวนประมาณ 40-70 เมกะวัตต์ ในรูปแบบการร่วมทุนกับผู้ให้บริ การซึ่งดูแลกลุ่มลูกค้าในนิคมอุ ตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ และทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกลุ่ มลูกค้าเหล่านี้ที่ระยะเวลา 15-20 ปี นอกจากนี้เพื่อให้โครงการโซลาร์ รูฟท็อป ดำเนินการอย่างมีประสิทธิ ภาพและเพิ่มความมั่ นคงของกระแสไฟฟ้า BGRIM ได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการกั กเก็บพลังงาน Energy Storage และระบบ Smart Grid
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของทิ ศทางการเติบโตของ BGRIM ที่เราสื่อสารมาตลอดว่าการเติ บโตต้องเป็นการเติบโตที่มีคุ ณภาพ โดยหากรัฐบาลยังไม่พร้อมที่ จะเปิดรับซื้อพลังงานทดแทน BGRIM ยังสามารถเติบโตได้ในต่ างประเทศที่ยังมีความต้ องการไฟฟ้าอีกมาก และต้องการความเชี่ยวชาญจากผู้ พัฒนาตัวจริงอย่าง BGRIM เข้าไปมีส่วนร่วม
ขณะเดียวกันโครงการ SPP ที่บริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากั บ กฟผ. และมีสัญญาซื้อขายกับภาคอุ ตสาหกรรมในประเทศ ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจาก SPP สามารถขายตรงให้กับลูกค้าที่อยู่ ในพื้นที่โดยรอบในรูปแบบของ Distributed Generation Unit ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายของรั ฐบาลที่จะเปิดให้มีการรับซื้ อไฟฟ้าส่วนเกินในรูปแบบของ SPP Power Pool เพื่อรองรับการลงทุ นโครงการขนาดใหญ่ในโครงการระเบี ยงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก( EEC) ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้ าที่มีคุณภาพและมีเสถียรภาพด้วย ปัจจุบันลูกค้าของบริษัทตั้ งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น อมตะนคร อมตะซิตี้ระยอง บางกะดีและเหมราช
ในส่วนแผนงานของบริษัทในปี 2561 บี.กริม เพาเวอร์ มีโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้ างและมีแผนเปิดดำเนินงานเชิ งพาณิชย์ 11 โครงการ รวมกำลังผลิต 445 เมกะวัตต์ คิดเป็นการเติบโตกว่า 27% โดยโครงการ SPP ที่นิคมอมตะ ซิตี้ได้ประเดิมเปิดดำเนิ นการเป็นโครงการแรกไปแล้วเมื่อ 1 ก.พ. 2561 และโครงการอื่นๆก็ยังเป็ นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้ นางปรียนาถกล่าวเสริม