ADS


Breaking News

"วิสทร้า" ปรับกลยุทธ์รุกชิงเบอร์ 1 ทุ่มงบโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ เร่งสร้างการรับรู้แบรนด์ พร้อมคว้า “มารีญา – แต้ว” เป็นพรีเซนเตอร์ครั้งแรก หวังดันยอดโตเพิ่ม 20%

นายพิรุณโรจน์ ไกรสุรพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นบีดี เฮลท์แคร์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการดูแลสุขภาพและความงามชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ด้วยทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแบรนด์ "วิสทร้า" ส่งผลให้เกิดโอกาสในการสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันอย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น คาดว่าปี 2561 จะเติบโตมากกว่า 20%

ล่าสุด บริษัทฯ ได้ดึง “มารีญา พูลเลิศลาภ” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 และนางเอกแถวหน้าของเมืองไทย “แต้ว - ณฐพร เตมีรักษ์” มาเป็นพรีเซนตอร์ ภายใต้คอนเซปต์ “VISTRA HEALTHY LEADS TO THE TOP” วิสทร้าไม่หยุด เพื่อที่สุดเรื่องสุขภาพ สำหรับ 2 ผลิตภัณฑ์ VISTRA Astaxanthin ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชะลอวัยสกัดจากสาหร่ายสีแดงเข้มข้นเกรดพรีเมี่ยมจากประเทศญี่ปุ่น ลิขสิทธิ์เฉพาะของ AstaREAL ช่วยเพิ่มพลังลึกถึงระดับเซลล์เพื่อความอ่อนเยาว์ และ VISTRA Fish Oil น้ำมันปลาเกรดพรีเมี่ยม คุณค่าที่สกัดจากไอซ์แลนด์ แหล่งผลิตน้ำมันปลาคุณภาพระดับโลก ตัวจริงเรื่องสุขภาพหัวใจและสมอง นับได้ว่า ในปีนี้ แบรนด์ "วิสทร้า" มุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ เพิ่มความผูกพันควบคู่การเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงวัยรุ่นและ วัยทำงานมากขึ้น ตลอดจนต้องการสร้างความแตกต่าง และแปลกใหม่ให้กับตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเกิดการจดจำแบรนด์มากขึ้น ในภาวะที่การแข่งขันของตลาดอาหารเสริมรุนแรง จากการที่มีทั้งแบรนด์เก่าและใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพรีเซนเตอร์ทั้ง 2 ท่าน เป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้าดังกล่าวเป็นอย่างดี อีกทั้ง ทั้ง 2 ท่านนอกจากเป็นคนที่มีภาพลักษณ์ที่ดี ดูแลตัวเอง และฉลาดแล้ว ยังมีพลังความสดใสจากภายใน ภาพลักษณ์ทันสมัยเหมาะกับแบรนด์สินค้า วิสทร้าคาดว่าปีนี้จะสามารถสร้างยอดขายเติบโต 20% ได้อย่างแน่นอน

การเลือกใช้พรีเซนเตอร์ของแบรนด์ "วิสทร้า" มีเป้าหมายสำคัญ คือ ต้องการสะท้อนจุดแข็งของแบรนด์ จากการเป็นผู้ต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านความงามสู่การเป็นผู้ดูแลด้านสุขภาพแบบองค์รวม รวมถึงการเพิ่ม Engagement กับผู้บริโภคคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัว ทุกเพศทุกวัย และต้องการสร้างความแตกต่างของแบรนด์ให้ฉีกออกจากคู่แข่ง เพื่อก้าวสู่ความเป็น แบรนด์อันดับหนึ่งในใจของผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์แบรนด์ "วิสทร้า" นอกจากนี้การเลือก “มารีญา” และ “แต้ว” เป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อเป็นตัวแทนการจุดประกายและมอบแรงบันดาลใจของผู้หญิงยุคใหม่ในการดูแลสุขภาพตนเองและคนรอบข้างให้มากขึ้น เพราะเราเชื่อว่าสุขภาพที่เป็นเลิศจะสามารถยกระดับชีวิตและความเป็นอยู่ของทุกคนให้ดีขึ้นได้ ภายใต้สโลแกนที่ว่า “ชีวิตดี เริ่มต้นที่สุขภาพ (Better Health, Better Life)”

นายพิรุณโรจน์ ไกรสุรพงศ์ กล่าวอีกว่า “เราเชื่อมั่นว่าในยุคนี้ การตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว และความล้ำหน้าของนวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญ  ในปี 2561 แบรนด์ "วิสทร้า" จึงมีการปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านของตัวผลิตภัณฑ์ การสื่อสารการตลาด โดยเริ่มจากการเปิดตัวพรีเซนเตอร์ คุณ “มารีญา” เน้นการนำเสนอความสดใส เป็นตัวของตัวเองจากภายใน สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และยังมีกิจกรรมต่อเนื่อง รวมถึงการจัดรายการส่งเสริมการขายรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิงวัยรุ่นและวัยทำงาน รวมทั้งกลุ่มแมส มาร์เก็ตที่ชื่นชอบใส่ใจดูแลสุขภาพด้วย

สำหรับ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ "วิสทร้า" เราให้ความสำคัญตั้งแต่จุดเริ่มต้น กล่าวคือเราคัดเลือกสารสกัดที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก ผ่านการคิดค้นและพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญ ผสานกับเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เพื่อมอบการมีสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอกให้กับผู้บริโภค โดยที่ผ่านมาแบรนด์วิสทร้ามีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องในทุกปี เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้หลากหลายมากขึ้น ปัจจุบันเรามีสินค้าครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ Beauty group, Health & Wellness group, Sport Nutrition group และ Weight Control group

สำหรับงบการตลาดและโปรโมชั่นในปีนี้ ได้วางไว้กว่า 80 ล้านบาท เพื่อเพิ่มการสร้างการรับรู้ในสินค้า  และยอดขาย โดยแบ่งสัดส่วนออกเป็น 3 ส่วน คือ ด้านการโฆษณาทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ 60% การส่งเสริมการขาย โปรโมชั่น กิจกรรมร่วมสนุกต่างๆ 30% และอีก 10% คือ ด้านอีเวนท์ต่างๆ เช่น เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ออกบูธ โรดโชว์ เป็นต้น นอกจากนี้ ได้ขยายช่องทางวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์อย่างทั่วถึงมากขึ้น โดย “วิสทร้า” มีช่องทางจัดจำหน่ายหลักคือ ร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ, ร้านขายยา eXta Plus ใน 7-Eleven, ร้านบิวตี้เชน เช่น WATSONS, BOOTS, ช่องทางออนไลน์ (E-commerce) เช่น Lazada และโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังมีการจัดชุดของขวัญสุขภาพในเทศกาลต่างๆ รวมถึงบริการพิเศษแนะนำสินค้าผ่านทาง Personal Consultant ณ จุดขายกว่า 300 คนทั่วประเทศด้วย
ด้านภาพรวมของตลาดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ผ่านมาในช่วงปี 2559-2560 มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ปีละ 8-9% โดยคาดว่าปี 2561 จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10% หรือราว 15,400 ล้านบาท เนื่องจากกระแสรักสุขภาพ รายได้ประชากรที่สูงขึ้น และการขยายตัวของช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ นอกจากนี้จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (EIC) ระบุว่าในปี 2573 เป็นต้นไป มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในไทย จะเริ่มลดลงจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งส่งผลให้แนวโน้มความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย นายพิรุณโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย