“มาสเตอร์คูล” เปิดนวัตกรรมพัดลมไอเย็น ดับร้อนปี’61 โชว์เทคโนโลยีใหม่ “เย็นไล่ยุง” เจ้าแรกตอบโจทย์คนไทย
“มาสเตอร์คูล” ส่งพัดลมไอเย็นช่วยคนไทยดับร้อนปี 2561 ผสานสุดยอดเทคโนโลยีดีไซน์โดนใจแรงลมสูง พร้อมเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ รุ่นไล่ยุงไร้สารเคมี เจ้าแรกในไทย มั่นใจเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ทางเลือกเพิ่มความเย็นได้ทุกพื้นที่ ชี้ตลาดพัดลมไอเย็นยังโตต่อเนื่อง รับเศรษฐกิจไทยขาขึ้น ตั้งเป้ายอดขายกว่า 100 ล้านบาท
นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL ผู้ผลิตและจำหน่ายพร้อมให้เช่า พัดลมไอน้ำ-ไอเย็นภายใต้แบรนด์ “มาสเตอร์คูล” เปิดเผยว่า ในวันนี้ (28 ก.พ.61) บริษัทได้เปิดตัวพัดลมไอเย็นรุ่นใหม่ “เย็นไล่ยุง” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น ตัวแรกของไทย ที่ผสานเทคโนโลยีความเย็นสบาย ป้องกันยุง ไร้สารเคมี โดยใช้คลื่นความถี่สูง อุลตร้าโซนิค ติดตั้งภายในเครื่องเดียวกัน เพื่อตอบสนองและเข้าถึงการใช้งานไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน ที่นับเป็นการพัฒนาและคิดค้น นวัตกรรมใหม่ๆ สู่ตลาดพัดลมไอเย็นภายใต้ แบรนด์ “MASTERKOOL”
สำหรับ “พัดลมไอเย็น รุ่น “เย็นไล่ยุง” บริษัทได้เปิดตัวเป็นรุ่นแรกในชื่อรุ่น MIK-28EX มีการเพิ่มระบบไล่ยุง ด้วยการนำคลื่นความถี่อุลตร้าโซนิคมาใช้ที่นับเป็นฟังก์ชั่นพิเศษของมาสเตอร์คูล โดยเปิดตัวพร้อมกับรุ่น MIK-14EX ซึ่งเป็นพัดลมไอเย็นตัวใหม่ ที่เปิดตัวในปีนี้เช่นกัน โดยทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบ และดีไซน์ใหม่ทั้งหมด มีการพัฒนานวัตกรรมใบพัดลมพิเศษ ที่สามารถให้กำลังแรงลมได้มากกว่าเดิม เหมาะสมกับการใช้งานในทุกพื้นที่ทั้งภายในอาคารและนอกอาคาร พร้อมกับการออกแบบระบบปุ่มควบคุมการใช้งานสำหรับการเปิด-ปิด ฟังก์ชั่นต่างๆที่ง่ายและสะดวกต่อผู้ใช้ นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในทุกเซกเมนต์ของตลาด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยว คอนโดมีเนียม รีสอร์ต โรงแรม เป็นต้น
สำหรับ “พัดลมไอเย็น รุ่น “เย็นไล่ยุง” บริษัทได้เปิดตัวเป็นรุ่นแรกในชื่อรุ่น MIK-28EX มีการเพิ่มระบบไล่ยุง ด้วยการนำคลื่นความถี่อุลตร้าโซนิคมาใช้ที่นับเป็นฟังก์ชั่นพิเศษของมาสเตอร์คูล โดยเปิดตัวพร้อมกับรุ่น MIK-14EX ซึ่งเป็นพัดลมไอเย็นตัวใหม่ ที่เปิดตัวในปีนี้เช่นกัน โดยทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบ และดีไซน์ใหม่ทั้งหมด มีการพัฒนานวัตกรรมใบพัดลมพิเศษ ที่สามารถให้กำลังแรงลมได้มากกว่าเดิม เหมาะสมกับการใช้งานในทุกพื้นที่ทั้งภายในอาคารและนอกอาคาร พร้อมกับการออกแบบระบบปุ่มควบคุมการใช้งานสำหรับการเปิด-ปิด ฟังก์ชั่นต่างๆที่ง่ายและสะดวกต่อผู้ใช้ นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในทุกเซกเมนต์ของตลาด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยว คอนโดมีเนียม รีสอร์ต โรงแรม เป็นต้น
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น รุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นในครั้งนี้ เกิดจากงานวิจัยและพัฒนา โดยนำผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคมาเป็นองค์ประกอบในการออกแบบ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยเฉพาะ ฟังก์ชั่นการไล่ยุง ถือเป็น การพัฒนานำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากความเย็นสบายที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น เพราะด้วยสภาพแวดล้อมของประเทศไทย ที่มีปัญหาเรื่องยุงมาอย่างยาวนาน ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทำให้บริษัท เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาและ นำเอาเทคโนโลยีที่ปราศจากสารเคมี มาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น
นายนพชัย กล่าวว่า การออกผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น ของมาสเตอร์คูล โดยเฉพาะรุ่นเย็นไล่ยุง ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่บริษัท นำออกสู่ตลาดเพื่อตอบสนอง ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป และ กลุ่มนิช มาร์เก็ต(Niche Market) ที่ต้องการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวตน ทั้งในเรื่องการออกแบบ ความทันสมัยและมีประสิทธิภาพ สามารถใช้งานได้ทุกโอกาส และทุกสถานที่ ได้อย่างลงตัว ซึ่งมั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดีในทุกกลุ่มเป้าหมาย
“เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึง และรับรู้ในเทคโนโลยีความเย็นไล่ยุง บริษัทได้ ออกภาพยนต์โฆษณาตัวแรก ชุด “มาสเตอร์คูล เย็นไล่ยุง” ซึ่งมีเนื้อหาที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพการใช้งานได้ทุกสภาวะแวดล้อม รวมถึงการสร้างความมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ และตอกย้ำการเป็นผู้นำนวัตกรรมพัดลมไอเย็นเจ้าแรกของไทยได้อย่างแน่นอน” นายนพชัยกล่าว
อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็น โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดพัดลมไอเย็น ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้ามาทำตลาด และแข่งขันในการออกผลิตภัณฑ์มาเป็นจำนวนมาก ทั้งในรูปแบบการผลิตเอง และนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน ในส่วนของผลิตภัณฑ์ แบรนด์ มาสเตอร์คูล ยังมั่นใจในนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ให้ผู้บริโภคคนไทย ด้วยมาตรฐานและคุณภาพความปลอดภัย รวมถึงการประหยัดพลังงาน การบริการ ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกกลุ่มในตลาด ด้วยกลุ่มสินค้าที่มีความหลากหลาย ทั้งในด้านที่อยู่อาศัย ร้านค้า โรงแรม รีสอร์ต รวมถึงการพัฒนาระบบความเย็นเพื่อใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล เป็นต้น จนเป็นที่ยอมรับจากตลาดทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2561 ถือเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของบริษัท เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำพัดลมไอเย็นเพื่อคนไทย ซึ่งไม่เพียงแต่ในด้านสินค้า แต่คือประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้รับจาก MASTERKOOL โดยในแง่การตลาดบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 25 % เมื่อเทียบกับปี 2560 นอกจากนี้ บริษัทยังได้วางงบประมาณด้านการทำตลาดประมาณ 30 ล้านบาท และมีแผนการขยายช่องทางการขายสินค้าในทุกช่องทางจำหน่าย ทั้งจากดีลเลอร์ และโมเดิร์นเทรด พร้อมการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ผ่านช่องทางการขาย บนระบบอีคอมเมิร์ช(E-commerce) ชั้นนำของไทย รวมทั้งขายสินค้าผ่านช่องทางเว็บไซต์ shop.masterkool.com ซึ่งเป็นช่องทางที่บริษัทได้ทำการตลาดเพื่อรองรับการเข้าถึงของลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ
“ เศรษฐกิจของไทยในปี 2561 เชื่อมั่นว่าจะเติบโตจากปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวด้านการลงทุนของภาครัฐและเอกชน รวมถึงภาคการส่งออกปีนี้ที่มีการขยายตัวที่ดีขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อโดยรวมของประเทศจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปี 2560 ซึ่งจะส่งผลให้ยอดจำหน่ายของบริษัทเติบโตไปด้วย” นายนพชัยกล่าว