ฟิลลิปปักธงผู้นำเทรดฟิวเจอร์สต่างประเทศ ตั้งเป้าปีนี้ 1500 บัญชี พร้อมรับพันธมิตรขยายธุรกิจบีทูบี เป็นประตูเทรดฟิวเจอร์สนอกให้ลูกค้าสถาบัน
บล.ฟิลลิป รุกธุรกิจลงทุนต่างประเทศ ชิงความได้เปรียบเป็นโบรกเดียวที่เปิดเทรดฟิวเจอร์ส 15ตลาดล่วงหน้าทั่วโลก พร้อมชูจุดเด่นมีเจ้าหน้าคนไทยดูแล 24 ชั่วโมง ตั้งเป้าปีนี้ ขยายฐานลูกค้าฟิวเจอร์สนอกให้ได้ 1500 บัญชี และขยายธุรกิจบีทูบี เปิดรับลูกค้าสถาบันที่สนใจเทรดหรือบริหารความเสี่ยงด้วยฟิวเจอร์สต่างประเทศ พร้อมแจงหลักเกณฑ์การอนุมัติบัญชีเทรดบิทคอยน์ฟิวเจอร์สเคร่งครัด ลูกค้าต้องวางมาร์จิ้น 100% ซื้อขายได้ไม่เกิน 5 สัญญา
นายปรัชญา กุลวณิชพิสิฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ เป็นโบรกเกอร์รายเดียวในประเทศไทย ที่เปิดบริการให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายสัญญาล่วงหน้าหรือฟิวเจอร์สต่างประเทศ เป็นปีที่ 6 แล้วนั้น ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ทั้งจำนวนบัญชีและปริมาณซื้อขาย โดยปัจจุบันมีบัญชีลูกค้าฟิวเจอร์สต่างประเทศประมาณ 1000 ราย สำหรับปีนี้ บริษัทฯ มีแผนธุรกิจที่จะขยายฐานลูกค้าให้ถึง 1500 บัญชี โดยเน้นทำการตลาดกับกลุ่มผู้ลงทุนที่มีความคุ้นเคยการลงทุนในฟิวเจอร์สอยู่แล้ว และมีความต้องการลงทุนในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง มีความหลายหลายของผลิตภัณฑ์มากกว่าตลาดล่วงหน้าในประเทศ รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ในประเทศ เช่น ผู้ประกอบการยางพารา ทองคำ หรือน้ำมันปาล์ม ที่ต้องการบริหารความเสี่ยงผ่านการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าด้วย สำหรับประเภทสัญญาล่วงหน้าที่นักลงทุนไทยนิยมซื้อขายมากที่สุดได้แก่ COMEX Gold และ TOCOM Rubber เพราะเป็นสินค้าที่นักลงทุนคุ้นเคยกับการติดตามความเคลื่อนไหวของราคาอยู่แล้ว
“ปัจจุบันเราเป็นโบรกเกอร์รายเดียวในเมืองไทย ที่มีบริการเทรดฟิวเจอร์สต่างประเทศ ซึ่งจุดเด่นที่ลูกค้าชอบคือ เรามีเจ้าหน้าที่ดูแลการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้หลายช่องทางทั้งหน้าเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนมือถือ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง และมีกิจกรรมให้ความรู้ผู้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ บ่อยครั้งที่เราจัดงานสัมมนาโดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากตลาดล่วงหน้าชั้นนำของโลกมาให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนไทย โดยล่าสุดนี้ เราจัดงาน Trading Symposium : Gateway to Global Futures เป็นงานที่รวมผู้แทนจาก 7 ตลาดล่วงหน้าชั้นนำของโลก อาทิ CME Group ซึ่งเป็นตลาดล่วงหน้าที่ใหญ่ที่สุดและมีปริมาณซื้อขายสูงที่สุดในโลก TOCOM เป็นตลาดล่วงหน้าสินค้าคอมโมดิตี้ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เป็นต้น ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งผู้ลงทุนรายย่อยและผู้ลงทุนสถาบัน สนใจร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยในปีนี้ เรามีแผนจะขยายธรุกิจบีทูบี กับกลุ่มลูกค้าสถาบัน ที่ต้องการช่องทางการลงทุนในฟิวเจอร์สต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งเราเองมีความพร้อมทั้งระบบซื้อขาย ระบบแบ็คออฟฟิค และพันธมิตรในตลาดต่างประเทศชั้นนำของโลก ที่จะสามารถต่อยอดธุรกิจให้กับลูกค้าสถาบันที่สนใจได้แน่นอน”
นายปรัชญา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯ เปิดให้ซื้อขายบิทคอยน์ฟิวเจอร์ส ในตลาด CBOE (Chicago Board Options Exchange) และ ตลาด CME (Chicago Mercantile Exchange) ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา มีผู้ลงทุนให้ความสนใจสอบถามจำนวนมาก แต่เนื่องจากบิทคอยน์ฟิวเจอร์สเป็นสินค้าที่มีความผันผวนสูง บริษัทฯ มีนโยบายการให้บริการและบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด โดยบริษัทฯ ไม่ได้เปิดให้บริการซื้อขายบิทคอยน์ฟิวเจอร์สแก่ลูกค้าทุกราย แต่บริษัทฯ มีขั้นตอนการคัดเลือกลูกค้าที่สามารถรับความเสี่ยงได้ เช่น ต้องมีฐานะการเงินมั่นคง มีคะแนน Suitability test ตามเกณฑ์ที่กำหนด ต้องมีความรู้ความเข้าใจในการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า และสินค้าบิทคอยน์ซึ่งเป็นสินค้าอ้างอิงเป็นอย่างดี โดยลูกค้าที่ต้องการซื้อขายบิทคอยน์ฟิวเจอร์ส ต้องวางมาร์จิ้นในอัตรา 100% และได้รับอนุมัติให้ซื้อขายได้สูงสุดเพียง 5 สัญญาเท่านั้น โดยขณะนี้ มีลูกค้าเริ่มซื้อขายบิทคอยน์ฟิวเจอร์สไม่มากนัก เนื่องจากต้องวางมาร์จิ้นเป็นเงินจำนวนมาก และขณะนี้ตัวสินค้าอ้างอิงมีความผันผวนสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเน้นการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ลูกค้าทั้งโอกาสทำกำไรและความเสี่ยงในการลงทุน ถึงแม้การลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์สมีความผันผวนตลอดเวลา แต่ผู้ลงทุนสามารถเก็งกำไรได้ทั้งสภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีบิทคอยน์อยู่แล้ว สามารถลงทุนบิทคอยน์ฟิวเจอร์สเพื่อใช้บริหารความเสี่ยงได้ด้วย บริษัทฯ คาดว่า เมื่อนักลงทุนมีความเข้าใจกับสัญญาล่วงหน้าตัวนี้มากขึ้นรวมถึงสินค้าสัญญาล่วงหน้าอื่นๆ ก็จะสามารถผลักดันให้มีที่จำนวนลูกค้าและปริมาณซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นต่อไปในอนาคต
อภิศักดิ์ ว่องวานิช หัวหน้าฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ