“คาปูร์” จบ 14 อันเดอร์ คว้าแชมป์กอล์ฟถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พัทยา, 31 ธันวาคม 2560: ชิฟ คาปูร์ โปรวัย 35 ปีจากอินเดีย พลิกเอาชนะ “โลมายักษ์” พรหม มีสวัสดิ์ โปรวัย 33 ปีจากหัวหินได้ที่หลุมสุดท้าย จบด้วยสกอร์รวมสี่วัน 14 อันเดอร์พาร์ 270 รับถ้วยพระราชทานพร้อมเงินรางวัล 90,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,240,000 บาท จากการแข่งขันกอล์ฟอาชีพถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 18 ล้านบาท ณ สนามฟีนิกซ์ โกลด์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ พาร์ 71 ระยะ 6,764 หลา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา
การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ สนามฟีนิกซ์ โกลด์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ, บริษัทคนรักกอล์ฟ จำกัด และเอเชียน ทัวร์ จัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพถ้วยพระ ราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งเป็นการแข่งขันเฉพาะนักกอล์ฟ 60 อันดับแรกจากตารางเงินรางวัลสะสมออร์เดอร์ออฟเมอริตของเอเชียน ทัวร์ ฤดูกาล 2017 ร่วมด้วยผู้เล่นจาก สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย 10 คน และรับเชิญจากผู้สนับสนุนอีก 8 คน รวมทั้งสิ้น 78 คน ลงชิงชัย 4 วัน ไม่มีตัดตัว โดยมีเงินรางวัลรวม 500,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ18 ล้านบาท ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 90,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,240,000 บาท ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ สนามฟีนิกซ์ โกลด์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 28-31ธันวาคมที่ผ่านมา
รอบสุดท้ายของการแข่งขัน “โลมายักษ์” พรหม มีสวัสดิ์ โปรวัย 33 ปีจากหัวหิน มือทำเงินอันดับ 30 ของเอเชียนทัวร์ ออกตัวด้วยการนำอยู่ที่ 14 อันเดอร์โดยมีชิฟ คาปูร์ จากอินเดียตามหลัง 2 สโตรก และทั้งคู่ผลัดกันนำผลัดกันตามจนเสมอกันอีกครั้งที่ 14 อันเดอร์ มาถึงหลุม 17 พาร์ 3 พรหมทำวันออนสามพัตต์เสียโบกี้ ส่วนชิฟเก็บพาร์ได้ ทำให้พรหมตามหลังอยู่ 1 สโตรก เข้าสู่หลุมสุดท้าย 18 พาร์ 4 ทั้งคู่ทำสองออน คาปูร์เซฟพาร์ได้ก่อน จบที่ 14 อันเดอร์พาร์ 270 ได้ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปเป็นคนแรก พร้อมเงินรางวัล 90,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,240,000 บาท ขณะที่พรหมพัตต์เบอร์ดี้โดยปล่อยพัตเตอร์สั้นไปเหลือครึ่งฟุตทำได้แค่พาร์ จบที่ 13 อันเดอร์พาร์ 271 คว้ารองแชมป์รับเงินรางวัลไป 55,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,980,000 บาท
รอบสุดท้ายของการแข่งขัน “โลมายักษ์” พรหม มีสวัสดิ์ โปรวัย 33 ปีจากหัวหิน มือทำเงินอันดับ 30 ของเอเชียนทัวร์ ออกตัวด้วยการนำอยู่ที่ 14 อันเดอร์โดยมีชิฟ คาปูร์ จากอินเดียตามหลัง 2 สโตรก และทั้งคู่ผลัดกันนำผลัดกันตามจนเสมอกันอีกครั้งที่ 14 อันเดอร์ มาถึงหลุม 17 พาร์ 3 พรหมทำวันออนสามพัตต์เสียโบกี้ ส่วนชิฟเก็บพาร์ได้ ทำให้พรหมตามหลังอยู่ 1 สโตรก เข้าสู่หลุมสุดท้าย 18 พาร์ 4 ทั้งคู่ทำสองออน คาปูร์เซฟพาร์ได้ก่อน จบที่ 14 อันเดอร์พาร์ 270 ได้ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปเป็นคนแรก พร้อมเงินรางวัล 90,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,240,000 บาท ขณะที่พรหมพัตต์เบอร์ดี้โดยปล่อยพัตเตอร์สั้นไปเหลือครึ่งฟุตทำได้แค่พาร์ จบที่ 13 อันเดอร์พาร์ 271 คว้ารองแชมป์รับเงินรางวัลไป 55,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,980,000 บาท
ชิพ คาปูร์ กล่าวหลังคว้าแชมป์ว่า “เป็นการต่อสู้ที่สนุกพลิกไปพลิกมา วันนี้เริ่มต้นได้ดีทำ 2 เบอร์ดี้ใน 3 หลุมแรก ขณะที่พรหมเสียโบกี้ที่หลุม 2 สถานการณ์เริ่มเข้าทางตน จากนั้นมาบวกเบอร์ดี้เพิ่มที่หลุม 6 และเซฟพาร์ยากที่หลุม 9 ซึ่งสำคัญมาก ก่อนมาพัตต์เบอร์ดี้จากนอกกรีนที่หลุม 10 พลิกขึ้นนำ ทำให้รู้สึกว่าสามารถคุมเกมไว้ได้ แต่พรหมก็กลับมาทำสองเบอร์ดี้ติดที่หลุม 11 และ 12 จากนั้นตนมาเสีย 2 โบกี้ติดที่หลุม 13 และ 14 ก็รู้สึกผิดหวังไม่น้อยเพราะสามารถพลิกกลับมานำคู่แข่ง 2 ช็อตแล้ว แต่กลับต้องมาเป็นฝ่ายตาม 2 ช็อต เข้าสู่หลุม 15 พยายามกระตุ้นตัวเอง พูดกับแคดดี้ว่า เราต้องสู้กันอีกสักตั้ง ต้องทำเบอร์ดี้หลุมนี้ เพื่อให้โอกาสตัวเองอีกครั้ง และการพัตเบอร์ดี้หลุม 15 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญมาก ทำให้ตนกลับสู่การแข่งขันอีกครั้ง และมาบวกเบอร์ดี้เพิ่มที่หลุม 16 คะแนนมาเสมอกันอีกหนที่ 14 อันเดอร์พาร์ และในสองหลุมสุดท้ายตนโชคดีที่เซฟพาร์ได้”
“การแข่งขันรายการนี้ เป็นรายการที่ยอดเยี่ยม มีนักกอล์ฟฝีมือดีร่วมชิงชัยมากมาย และรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ตนสามารถจารึกชื่อในฐานะแชมป์ ตนตัดสินใจเดินทางมาแข่งรายการนี้ ขณะที่ผู้เล่นหลายคนเลือกไปพักผ่อน เพราะคิดว่าสนามกอล์ฟฟีนิกซ์ โกลด์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ เหมาะกับเกมการเล่นของตน และเชื่อว่าอาจมีเรื่องที่ดีเกิดขึ้นก็ได้หลังจากไม่ได้รับเลือกร่วมทีมเอเชียลงเล่นรายการยูเรเชียคัพ และในที่สุดแล้วตนก็สามารถคว้าแชมป์รายการที่สามของปีนี้มาครองได้สำเร็จ”
ด้าน พรหม มีสวัสดิ์ รองแชมป์กล่าวว่า “วันนี้ถือว่าเล่นได้ดีมีโอกาสทำให้ตัวเองได้ลุ้นแชมป์ วันนี้ไปพลาดที่หลุม 2 แต่กลับมาเบอร์ดี้ที่หลุม 3 ส่วนหลุม 4 ไดร์ฟไปไม่ดีเสียโบกี้ที่หลุมนี้ ส่วนหลุม 6 และ 7 ก็กลับมาได้สองเบอร์ดี้ ทำให้ตัวเองมีโอกาสสู้กับชิฟได้อยู่ ขึ้นเก้าหลุมหลังตามหลังเขาอยู่หนึ่ง หลุม11เขาพัตต์ไกลลง กลายเป็นตามเขาสองแต้ม ถึงตรงนั้นเราก็ต้องทำเบอร์ดี้ให้ได้ และก็ทำได้ที่หลุม 11 และ 12 ขึ้นมาเท่ากัน แล้วชิฟก็มาพลาดให้เราที่หลุม 13 และ 14 แต่เขาก็กลับมาได้ที่หลุม 15 และ 16 ทำให้กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 14 อันเดอร์ แล้วผมก็ไปพลาดสามพัตต์ที่หลุม 17 คิดว่าเป็นไลน์ทางลง แต่กลับเป็นทางขึ้นเลยพัตต์สั้น ถึงหลุมสุดท้ายก็คิดว่าน่าจะลงแล้วแต่ปล่อยไปเหลือแค่ครึ่งฟุตเอง”
ด้าน พรหม มีสวัสดิ์ รองแชมป์กล่าวว่า “วันนี้ถือว่าเล่นได้ดีมีโอกาสทำให้ตัวเองได้ลุ้นแชมป์ วันนี้ไปพลาดที่หลุม 2 แต่กลับมาเบอร์ดี้ที่หลุม 3 ส่วนหลุม 4 ไดร์ฟไปไม่ดีเสียโบกี้ที่หลุมนี้ ส่วนหลุม 6 และ 7 ก็กลับมาได้สองเบอร์ดี้ ทำให้ตัวเองมีโอกาสสู้กับชิฟได้อยู่ ขึ้นเก้าหลุมหลังตามหลังเขาอยู่หนึ่ง หลุม11เขาพัตต์ไกลลง กลายเป็นตามเขาสองแต้ม ถึงตรงนั้นเราก็ต้องทำเบอร์ดี้ให้ได้ และก็ทำได้ที่หลุม 11 และ 12 ขึ้นมาเท่ากัน แล้วชิฟก็มาพลาดให้เราที่หลุม 13 และ 14 แต่เขาก็กลับมาได้ที่หลุม 15 และ 16 ทำให้กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 14 อันเดอร์ แล้วผมก็ไปพลาดสามพัตต์ที่หลุม 17 คิดว่าเป็นไลน์ทางลง แต่กลับเป็นทางขึ้นเลยพัตต์สั้น ถึงหลุมสุดท้ายก็คิดว่าน่าจะลงแล้วแต่ปล่อยไปเหลือแค่ครึ่งฟุตเอง”
“แอบผิดหวังนิดๆ เพราะตอนออกไปเราเป็นผู้นำ แต่กอล์ฟอะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ายังไม่จบ 72 หลุม เกมการเล่นของทุกคนเท่าเทียมกันหมดพูดไม่ได้ว่าใครจะคว้าแชมป์ วันนี้ผมก็ตั้งเป้าที่จะทำให้ได้ 14-15 อันเดอร์ แต่ก็ไปไม่ถึงเป้าของตัวเอง แม็ทช์นี้จบที่สองคิดในแง่ดีก็เป็นกำลังใจให้ตัวเอง เพราะเล่นมา 6 สัปดาห์ติดต่อกัน ร่างกายก็ล้าเป็นธรรมดาครับ แต่ก็ถือเป็นทัวร์นาเม้นท์ที่ดีมากครับแต่เสียดายที่ไม่สามารถคว้าแชมป์เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทยได้” พรหม กล่าวทิ้งท้าย
ส่วนอันดับสามตกเป็นของ โปรหมาย-ประหยัด มากแสง วัย 51 ปีจากหัวหิน เจ้าของแชมป์ทำเงินซีเนียร์ เจแปนทัวร์ 2017 ที่ฟอร์มร้อนแรงวันสุดท้ายหวดได้ถึง 6 อันเดอร์พาร์ 65 สองวันรวม 9 อันเดอร์พาร์ 275 รับเงินรางวัล 22,500 ดอลล่าร์ ประมาณ 900,000 บาท
ขณะที่ดาวรุ่งของไทยที่ได้ทัวร์การ์ดเข้าไปเล่นในยูโรเปี้ยนทัวร์ฤดูกาลหน้า ได้แก่ “โปรเพชร” พชร คงวัดใหม่ วัย 18 ปีจากสงชลา มือทำเงินอันดับ 3 เอเชี่ยนทัวร์ ทำได้ 2 อันเดอร์พาร์ 282 ในลำดับที่ 19 ร่วมรับเงินรางวัล 5,533.33 ดอลล่าร์ และ “โปรแจ๊ส” อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ วัย 22 ปีจากหัวหิน มือทำเงินอันดับ 9 เอเชี่ยนทัวร์ ทำได้ 3 โอเวอร์พาร์ 287 อันดับ 41 ร่วมเงินรางวัล 2,700 ดอลล่าร์
ทางด้านตำนานกอล์ฟเมืองไทยอีกสองราย ได้แก่ ถาวร วิรัตน์จันทร์ เจ้าของแชมป์ซีเนียร์ยูโรเปี้ยน ทัวร์ที่เมอร์ริเชียส จบที่อีเว่นพาร์ 284 อยู่อันดับ 30 ร่วมเงินรางวัล 3,950 เหรียญสหรัฐ และบุญชู เรืองกิจ วัย 61 ปีเจ้าของ 5 แชมป์เอเชี่ยนทัวร์ จบที่ 8 โอเวอร์พาร์ 292 อันดับ 56 ร่วม รับเงินรางวัล 1,850 เหรียญสหรัฐ
ข้อมูลเพิ่มเติมการแข่งขันสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.asiantour.com, www.phoenixgoldgolf.com หรือเฟซบุคเพจ phoenixgoldgolfandcountryclub
ข้อมูลเพิ่มเติมการแข่งขันสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.asiantour.com, www.phoenixgoldgolf.com หรือเฟซบุคเพจ phoenixgoldgolfandcountryclub
1.(-14)270 ชิฟ คาปูร์ (อินเดีย) 67-68-68-67 เงินรางวัล 90,000 ดอลล่าร์
2.(-13)271 พรหม มีสวัสดิ์ 68-67-66-70 เงินรางวัล 55,000 ดอลล่าร์
3.(-11)273 กากันจีท บูลลาร์ (อินเดีย)67-71-69-66 เงินรางวัล 30,000 ดอลล่าร์
T4.(-9)275 ประหยัด มากแสง 72-67-71-65,ชาน ชีห์-ชาง(ไต้หวัน) 68-75-67-65 เงินรางวัลคนละ 22,500 ดอลล่าร์
6.(-8)276 คาลิน โจชิ(อินเดีย)70-68-71-67 เงินรางวัล 16,600 ดอลล่าร์
7.(-7)277 ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ 68-71-68-70 เงินรางวัล 14,000 ดอลล่าร์
T8.(-6)278 รฐนน วรรณศรีจันทร์ 75-67-69-67,แดนไท บุญมา 73-69-68-68,อันโตนิโอ ลาสคูน่า(ฟิลิปปินส์)69-70-69-70 เงินรางวัลคนละ 10,666.67 ดอลล่าร์
T11.(-5)279 ธรรมนูญ ศรีโรจน์ 73-71-68-67,รัฐธีร์ ศิริธนากุลศักดิ์ 67-71-70-71,นำโชค ตันติโภคากุล 68-70-70-71 เงินรางวัลคนละ 8,100 ดอลล่าร์