ADS


Breaking News

แกร็บ ฉลองให้บริการครบ 1 พันล้านเที่ยว

     กรุงเทพฯ, 6 พฤศจิกายน 2560แกร็บ บริษัทด้านเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถือชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอกย้ำความสำเร็จด้วยการให้บริการครบ 1 พันล้านเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

     แกร็บได้ให้บริการรับส่งผู้โดยสารครบ 1 พันล้านเที่ยวในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยในวินาทีนั้น มีผู้โดยสารที่เดินทางกับแกร็บพร้อมกัน 66 ครั้ง ใน 7 ประเทศที่แกร็บให้บริการทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม พม่า และไทย

     สถิติการให้บริการของแกร็บเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ อัตราการขยายตัวที่รวดเร็วนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของธุรกิจการขนส่งแบบออนดีมานด์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การให้บริการเดินทางหลายรูปแบบของแกร็บที่ผสานกับวิถีชีวิตของผู้ใช้บริการท้องถิ่น และสอดรับกับการใช้เทคโนโลยีระดับโลกเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของคนในประเทศต่างๆ อีกด้วย

     แอนโทนี่ ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ กล่าวว่า “ความสำเร็จครั้งสำคัญนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจและทีมผู้บริหารของแกร็บ ที่ได้ขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น และไม่เพียงแต่จะคงความยอดเยี่ยมในการให้บริการไว้ได้เท่านั้น แต่เรายังพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการสร้างสรรค์ธุรกิจ แก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่ และยกระดับชีวิตผ่านเทคโนโลยี ผมขอขอบคุณพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร พันธมิตร และผู้ลงทุนทุกท่าน สำหรับการสนับสนุนที่อบอุ่น รวมถึงทีมงานแกร็บที่รับมือกับการขยายตัวที่รวดเร็วนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม”

     “ในขณะที่เราเดินหน้าพร้อมกันสู่การเดินทางเที่ยวที่สองพันล้านต่อไปนั้น เราจะยังคงมุ่งมั่นเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางแบบออนดีมานด์ที่ดีที่สุดแก่ทั้งพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสารของเรา ในขณะเดียวกัน เรายังเตรียมก้าวไปอีกขั้นกับแพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถือ ด้วยการพัฒนาแกร็บเพย์ (GrabPay) ให้ครอบคลุมบริการด้านอื่นนอกเหนือจากการขนส่ง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าถึงเศรษฐกิจแบบดิจิทัลได้อย่างทั่วถึง”

     ความสำเร็จของการเดินทาง 1 พันล้านเที่ยวนี้เป็นผลมาจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของฝ่ายวิจัยและพัฒนา รวมถึงศักยภาพเชิงเทคโนโลยีของแกร็บ ในขณะที่แพลตฟอร์มได้ขยายขนาดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้ประกาศแต่งตั้งนายธีโอ วาซีลาคีส ขึ้นรับตำแหน่งประธานกลุ่มบริหารฝ่ายเทคโนโลยี และเมื่อต้นปีที่ผ่าน ยังได้เพิ่มจำนวนศูนย์วิจัยและพัฒนาจาก 3 เป็น 6 แห่ง โดยได้เปิดศูนย์แห่งใหม่ที่บังกาลอร์ ประเทศอินเดีย, โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม และจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
     แกร็บให้บริการเรียกรถยนต์โดยสารส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ รถแท็กซี่ และบริการใช้รถร่วมกัน ใน 7 ประเทศ และ 142 เมืองทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยผู้โดยสาร 1 ใน 3 เคยใช้งานมากกว่าหนึ่งบริการ ในปัจจุบัน แกร็บครองส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 95 ในการให้บริการเรียกแท็กซี่ และร้อยละ 72 ในบริการเรียกรถยนต์โดยสารส่วนบุคคล โดยมีผู้ขับขี่บนแพลตฟอร์มมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยจำนวนผู้ขับขี่มากกว่า 2 ล้านคน ซึ่งมีรายได้สูงกว่ารายได้เฉลี่ยในประเทศต่างๆ ถึง 55% นอกจากนี้ แกร็บยังเป็นหนึ่งในแอพพลิเคชั่นมือถือที่ผู้ใช้นิยมใช้บ่อยที่สุดในภูมิภาคฯ โดยมีจำนวนการให้บริการมากกว่า 3.5 ล้านเที่ยวต่อวัน และแอพพลิเคชั่นแกร็บยังได้รับการดาวน์โหลดบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มากกว่า 68 ล้านเครื่อง ผลการสำรวจของทีเอ็นเอส บริษัทวิจัยการตลาดระดับโลก เผยว่า แกร็บคือแบรนด์เรียกรถโดยสารที่ได้รับความนิยมในการใช้งานมากที่สุดในประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และไทย เมื่อเทียบกับแอพพลิเคชั่นเรียกรถและแอพพลิเคชั่นจองแท็กซี่อื่นๆ

เกี่ยวกับ แกร็บ
     แกร็บ (Grab) คือผู้นำแพลตฟอร์มด้านการขนส่งแบบออนดีมานด์และการชำระเงินผ่านมือถือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความท้าทายของเราคือการแก้ปัญหาด้านระบบขนส่งและทำให้คนทั้ง  620 ล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความสะดวกสบายในการเดินทางอย่างแท้จริง แกร็บถือเป็นผู้บุกเบิกในการมอบทางเลือกการเดินทางที่มีความรวดเร็ว ปลอดภัย และเชื่อถือได้ให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถืออย่างแกร็บเพย์ ซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงระบบการชำระเงินและการเงินการธนาคารในรูปแบบออนไลน์ให้ผู้โดยสารและผู้ขับขี่หลายล้านคนในภูมิภาค ในปัจจุบัน แกร็บให้บริการใน 7 ประเทศได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม พม่า และไทย สามารถอ่านและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.grab.com