“ออร์แกนิคหรือปลอดสารพิษ” กินอย่างไรให้ตอบโจทย์สุขภาพ
ปัจจุบันคนไทยหันมาให้ความสนใจกับการดูแลรักษาสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งการออกกำลังกาย รวมถึงการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่างผักปลอดสารเคมีปนเปื้อน อย่างไรก็ตาม ยังมีคนไทยจำนวนน้อยที่คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์หรือผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ซึ่งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ เหล่านี้ ล้วนมีให้เลือกมากมาย ในรูปแบบผลิตภัณฑ์แปรรูป ผัก ผลไม้สด แต่รู้หรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์ “ออร์แกนิค กับ ปลอดสารพิษ” ต่างกันอย่างไร
ดร. ทวีพร วาสวกุล ผู้ก่อตั้งและผู้เชี่ยวชาญ ด้านที่ปรึกษาการพัฒนาและธรรมาภิบาล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เล่าถึงความแตกต่างระหว่างออร์แกนิคกับปลอดสารพิษ ว่า “ออร์แกนิค" คือ ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารเคมีตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำถึงปลายน้ำ หมายถึง สภาพดิน น้ำ อากาศที่ใช้ในการเพาะปลูกพืชผักต่างๆ ต้องปราศจากสารเคมีเจือปน เมล็ดพันธุ์พืชต้องไม่มีการดัดแปลงหรือตัดต่อทางพันธุกรรม การปลูกต้องสร้างกำแพงกันสารเคมีที่ปนมากับลม และสร้างมุ้งกันแมลง ส่วนเนื้อสัตว์ต้องถูกเลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ใช้สารเร่งโตและยาปฏิชีวนะ กระบวนการผลิตสินค้าแปรรูปออร์แกนิคเป็นกระบวนการที่ใช้วัตถุดิบออร์แกนิคทั้งหมด ไม่มียากันบูด ผงชูรส ซึ่งจะแตกต่างจาก "ปลอดสารพิษ" โดยส่วนมากมักนิยมใช้กับการเพาะปลูก ผัก ผลไม้ ด้วยการใช้สารเคมีในการเพาะปลูก แต่เกษตรกรจะมีกำหนดระยะเวลาการฉีดพ่น และระยะเวลาการทิ้งช่วงเก็บเกี่ยว เพื่อสารเคมีสลายไปก่อนนำมาจัดจำหน่าย
ด้วยเหตุนี้ผลิตภัณฑ์ ผัก ผลไม้ ออร์แกนิค และปลอดสารพิษ มีราคาที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาดทั่วไปเมื่อมาถึงมือผู้บริโภค และส่วนใหญ่ถูกผลิตขึ้นเพื่อเป็นสินค้าส่งออก ดังนั้นจำเป็นต้องรณรงค์ให้ผู้บริโภคมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้มากขึ้น เพื่อนำไปสู่การสร้างการเกษตรอย่างยั่งยืน
แพทย์หญิงสุจิตรา นภาธร ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม ผิวหนัง เวชศาสตร์ชะลอวัยและเวชศาสตร์ครอบครัว และกรรมการบริหาร ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ แนะวิธีการเลือกรับประทาน ผักปลอดสารพิษและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคให้ได้ประโยชน์สูงสุด ว่า “ผักและผลไม้ต่างๆ ที่เรารับประทานทุกวันนี้ มักมีสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ไดโครโตฟอส เอ็นโดซัลแฟน เมทามิโดฟอส และโมโนโครโตฟอส ซึ่งเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง และโรคต่างๆ อีกมากมาย รวมถึงเชื้อโรคที่ปะปนมากับผักและผลไม้ อาทิ เชื้อจุลินทรีย์ เชื้อแบคทีเรีย สาเหตุหลักของโรคอาหารเป็นพิษ และโรคทางเดินอาหาร
ดังนั้นการเลือกซื้อ “ผักปลอดสารพิษ” จึงควร “ลองดู” แหล่งที่มาของผักชนิดนั้น ที่ติดอยู่บริเวณบรรจุภัณฑ์ว่าปลูกจากแหล่งใดซึ่งจะทำให้ผู้บริโภครู้แหล่งผลิตและพิจารณาได้ว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ต่อมาคือ “ลองดม” นอกจากการสังเกตรูปลักษณ์ภายนอกของผักแล้วว่ามีรูการกัดกินของแมลง การดมก็เป็นสิ่งสำคัญ หากผักมีกลิ่นฉุนรุนแรงซึ่งไม่ใช่กลิ่นของผัก ก็แสดงว่าผักดังกล่าวยังมีสารเคมีตกค้างอยู่
ข้อสำคัญอีกข้อคือ “ต้องเลือก” ควรเลือกซื้อและเลือกรับประทานผักตามฤดูกาล เนื่องจากผักที่ปลูกตามฤดูกาล เป็นผักที่จะเกิดขึ้นตามความเหมาะสมของสภาพดิน ฟ้า อากาศ ทำให้การเติบโตเป็นไปตามกระบวนการทางธรรมชาติ ดังนั้นเกษตรกรจะลดการใช้สารเคมีเร่งโต ทำให้เกิดสารตกค้างน้อย สุดท้าย “ต้องล้าง” โดยเริ่มจากการนำผักไปล้างด้วยน้ำไหลผ่าน เพื่อขจัดคราบดิน สารเคมี และแบคทีเรียต่างๆ ออกให้ได้มากที่สุด จากนั้นนำไปแช่ในน้ำผสมด่างทับทิมซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ประมาณ 15-20 นาที หรือแช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชูก็ได้เช่นกัน แล้วนำมาล้างด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง ก็สามารถนำไปปรุงอาหารรับประทานได้
ป้ายแสดงสรรพคุณถึงผักออร์แกนิค (One is enough)
ป้ายแสดงสรรพคุณถึงผักปลอดสารพิษ
ตราสัญญาลักษณ์รับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจากสถาบันต่างๆ
ส่วนวิธีการเลือกซื้อ “ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค” ก็มีวิธีง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก คือ ดูจากป้ายแสดงสรรพคุณ และพิจารณาจากตรารับรองมาตรฐานจากสำนักงานต่างๆ ซึ่งมีทั้งตรามาตรฐานสินค้าอินทรีย์จากประเทศผู้นำเข้าสินค้าอินทรีย์รายใหญ่ ในแทบประเทศกลุ่มยุโรป สหรัฐอเมริกา แคนาดา และญี่ปุ่น หรือตรามาตรฐานสินค้าอินทรีย์ของหน่วยงานไทย ก็ได้เช่นกัน
บรรยากาศ “อโกรา ฟาร์เมอร์ส มาร์เก็ต (AGORA FARMERS MARKET)
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค หรือ ผัก ผลไม้ ปลอดสารพิษ สามารถมาร่วมงาน “อโกรา ฟาร์เมอร์ส มาร์เก็ต (AGORA FARMERS MARKET)” ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2560 เวลา 10.00 – 18.00 น ณ ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่นำมาจัดจำหน่ายที่ตลาด
ภายในงานพบกับสินค้าผลิตภัณฑ์แปรรูปออร์แกนิคและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ปราศจากยาฆ่าแมลง สารเคมี กว่า 200 รายการ จากเกษตรกร ชาวสวน ชาวนา และผู้ผลิต ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก มาจัดจำหน่ายในราคาท้องถิ่น เพื่อให้คนรักสุขภาพได้เลือกช้อปได้ในที่เดียว อาทิ ข้าวอินทรีย์ จากจังหวัดกาฬสินธุ์ ธัญพืชออร์แกนิค ผลิตภัณฑ์แปรรูป ได้แก่ ชาถั่งเช่าออร์แกนิค จากประเทศภูฏาน, กาแฟบดออร์แกนิค, เกลือหิมาลายันสีชมพู จากประเทศอินเดีย, น้ำพริกออร์แกนิค จากจังหวัดเชียงใหม่, น้ำมะพร้าวบริสุทธิ์สกัดเย็น, น้ำกะทิ, เส้นสปาเก็ตตี้ข้าวกล้องอินทรีย์, บะหมี่ผักโมโรเฮยะ, ซอสถั่วเหลือง, โชยุ, ซีอิ๊วหวาน, น้ำสลัด และผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ครบวงจรอย่างโลชั่น, ยาสีฟัน, ผลิตภัณฑ์สำหรับอาบน้ำและสระผม, สเปรย์กันยุง, น้ำยาล้างขวดนม, กระดาษชำระแบบเปียก รวมถึงผัก ผลไม้ ตามฤดูกาล และต้นไม้อินทรีย์ ปลูกตามธรรมชาติไม่ใช้ยาฆ่าแมลง และนิทรรศการภาพถ่าย “การพัฒนาที่ยั่งยืนในชีวิตประจำวัน” จากนักถ่ายภาพสมัครเล่นและมืออาชีพ