ADS


Breaking News

SKN มั่นใจ หุ้นเข้าเทรดวันแรก 26 กันยายนนี้ ยืนเหนือจอง !!!

SKN มั่นใจ เข้าเทรดวันแรกได้รับการต้อนรับจากนักลงทุนอย่างอบอุ่น  หนุนราคายืนเหนือจอง 7.35 บาทต่อหุ้นได้สำเร็จ จากธุรกิจมีปัจจัยพื้นฐานแกร่ง อยู่ในเทรนด์อุตสาหกรรมที่มีความต้องการในตลาดโลกสูงต่อเนื่อง ประกอบกับความเชี่ยวชาญของผู้บริหารเป็นจุดแข็งสำคัญ เงินระดมทุนในครั้งนี้เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ปลดล็อคการเติบโตในเรื่องกำลังการผลิต ที่เชื่อว่าจะเพิ่มเป็น 5 แสนลบ.ม. ต่อปี ในกลาง Q3/61 รองรับคำสั่งซื้อที่เข้ามาได้เพิ่มขึ้น ขณะที่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ “วิชัย แสงวงศ์กิจ” แม่ทัพใหญ่ เชื่อ มีนักลงทุนสนใจในกระดานเทรดหวังลงทุนยาว
นายวิชัย แสงวงศ์กิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKN เปิดเผยถึง การซื้อขายหุ้น SKN วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 26 กันยายน 2560 มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ทำให้สามารถยืนเหนือราคาจองที่ 7.35 บาทต่อหุ้นได้  จากการเป็นผู้ผลิตและส่งออกแผ่นไม้เอ็มดีเอฟชั้นนำของประเทศไทย มีความได้เปรียบในเรื่องความเชี่ยวชาญในการประกอบธุรกิจไม้มายาวนานกว่า 30 ปี  โรงงานผลิตแผ่นไม้เอ็มดีเอฟของบริษัทฯ ตั้งอยู่ที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มีขนาดที่ดินรวมกว่า 144 ไร่ อยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบ และท่าเรือ มีกำลังการผลิตแผ่นไม้เอ็มดีเอฟสูงสุดที่ประมาณ 20,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน หรือประมาณ 240,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา โรงงานมีอัตราการใช้กำลังผลิตเฉลี่ยอยู่ในระดับสูงมาโดยตลอด
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุน จำนวน 1,470 ล้านบาท จะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ระยะยาวจำนวน 650-750 ล้านบาท  สนับสนุนให้ D/E บริษัทฯ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากงวดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา D/E อยู่ที่ 1.57 เท่า รวมทั้ง นำไปใช้ลงทุนขยายกำลังการผลิต 500 ล้านบาท และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน สนับสนุนให้ในช่วงกลางไตรมาส 3/2561 บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 500,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ปลดล็อคข้อจำกัดในการเติบโต และสามารถต่อยอดโครงการอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อีกมากมาย สนับสนุนให้ผลประกอบการบริษัทฯ เติบโตแข็งแกร่ง และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในอนาคต
มั่นใจว่าหุ้น SKN จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนจนยืนเหนือราคาจองได้ ส่วนหนึ่งเชื่อว่า เป็นผลจากราคาขายไอพีโอที่ 7.35 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่น่าสนใจ และในช่วงเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก  นอกจากนี้ ความเชี่ยวชาญที่อยู่ในธุรกิจไม้มาตั้งแต่ต้นน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ ทำให้เรามีความเข้าในในความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี สินค้าผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มุ่งเน้นคุณภาพสินค้าเป็นสำคัญ และการส่งมอบที่ตามกำหนดเวลา เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ชื่อเสียงของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับในตลาดโลก รวมถึงการบริหารจัดการอย่างดีเยี่ยม ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในงวด 6 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 32.2% และ อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 13.8% ขณะที่ Cash Cycle ติดลบ 19.1 วัน สะท้อนความเชื่อมั่นลูกค้า และการบริหารจัดการได้อย่างดีเยี่ยม
จึงเชื่อว่า หลังจากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในตลาด SET เรียบร้อยแล้ว จะเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตและการแข่งขัน  รวมทั้งมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ทำให้เข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเพิ่มเติมเพื่อลงทุนหวังผลตอบแทนในระยะยาว” นายวิชัย กล่าว        
    นายทวีชัย ตั้งธนทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKN กล่าวว่า มั่นใจหุ้น SKN เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรก ราคาหุ้นจะสามารถยืนเหนือราคาจองที่ 7.35 บาท/หุ้นได้  เนื่องจากธุรกิจมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน รวมถึงนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีความสนใจจองซื้อหุ้นเข้ามาล้นถึง 15 เท่า ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาสามารถปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้อย่างน่าประทับใจ ขายไอพีโอหมดเกลี้ยงทั้งจำนวน จึงมั่นใจว่า SKN จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่องบนกระดานเทรดวันที่ 26 กันยายนนี้
โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นที่จะปรับปรุงและคิดค้นสูตรการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าและผลักดันกำลังการผลิตให้อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง มีทีมวิจัยและพัฒนา ตามนโยบายมุ่งเน้นคุณภาพสินค้าเพื่อแข่งขันในตลาดโลกได้ และยังเสริมความยั่งยืนให้ธุรกิจ เนื่องจากเทรนด์การเติบโตของแผ่นไม้เอ็มดีเอฟทั่วโลกมีความต้องการใช้สูง หรือเติบโตเฉลี่ย 11% สูงกว่าเมื่อเทียบกับการเติบโตของแผ่นไม้ทดแทนธรรมชาติในรูปแบบอื่น ขณะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำการส่งออกของโลก หรือส่งออกเป็นอันดับที่ 4  ดังนั้น สินค้าที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบถ้วน จะเป็นจุดแข็งสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้บริษัทฯ และ SKN ก็สามารถตอบโจทย์ลูกค้ามาโดยตลอด จึงมั่นใจว่า ด้วยปัจจัยที่แข็งแกร่งเหล่านี้ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ในการเข้ามาลงทุนในหุ้นบริษัทฯ ระยะยาว  
“SKN จะเป็นอีกหนึ่งบริษัทน้องใหม่ที่สามารถสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดหุ้นไทยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหารที่อยู่ในวงการไม้มายาวนานกว่า 30 ปี โรงงานมีศักยภาพในการผลิตสูง เนื่องจากเทคโนโลยีทันสมัย กำลังการผลิตที่ใช้ในปัจจุบัน อยู่ในระดับเกือบเต็มที่มาโดยตลอด หรือในไตรมาส 2/2560 อยู่ในระดับ 90% ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มธุรกิจมา ทำให้มี Economy of Scale สะท้อนมาที่อัตรากำไรในระดับสูง เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม สร้างความเชื่อมั่นและคาดว่าจะสนับสนุนให้ SKN ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในวันเทรดวันแรก 26 กันยายนนี้” นายทวีชัย กล่าว