ADS


Breaking News

บ้านปู อินฟิเนอร์จี เปิดตัวบริษัทสู่ผู้ให้บริการวางระบบผลิตไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร

ต่อยอดผู้นำด้านพลังงานของบ้านปูฯ ผลักดันพลังงานสะอาด รับยุทธศาสตร์พลังงาน 4.0

ทีมผู้บริหารบ้านปู อินฟิเนอร์จี เปิดตัวบริษัทฯ อย่างเป็นทางการ เดินหน้าสู่ผู้ให้บริการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร ต่อยอดจุดแข็งผู้นำด้านพลังงานของบ้านปูฯ มากกว่า 30 ปี ช่วยลูกค้าประหยัดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ โดยที่ไม่ต้องลงทุนค่าติดตั้ง ส่งเสริมพลังงานสะอาด และตอบรับนโยบายและแผนพลังงานทดแทนของรัฐบาล นำโดยนางสมฤดี ชัยมงคล (แถวหน้า ซ้ายสุด) กรรมการ และนางสาวกนกวรรณ จิตต์ชอบธรรม (แถวหลัง ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ

บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด หนึ่งในบริษัทลูกของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้ให้บริการด้านการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร One Stop Service ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในระยะแรกจะให้บริการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา ระบบไฟถนน และอุปกรณ์ไฟส่องสว่างจากพลังงานแสงอาทิตย์ บริการครอบคลุมตั้งแต่ การให้คำปรึกษา ออกแบบระบบ ติดตั้ง ตรวจสอบ ไปจนถึงซ่อมบำรุง เจาะตลาดลูกค้าภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจขนาดใหญ่ ภายใต้แนวคิด “Go Green Together” ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตและการใช้พลังงานสะอาดได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนค่าติดตั้งหรือค่าอุปกรณ์ (zero investment) และช่วยลดต้นทุนธุรกิจจากค่าไฟที่ลดลง พร้อมตอบรับนโยบายและแผนพลังงานทดแทนของรัฐบาล
นางสมฤดี ชัยมงคล กรรมการ บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำด้านพลังงานแห่งเอเชีย กับกลยุทธ์ล่าสุด Greener & Smarter บ้านปูฯ มุ่งดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และใช้เทคโนโลยีด้านพลังงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย บ้านปูฯ ไม่เพียงพัฒนาธุรกิจเหมืองถ่านหินและธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการมามากกว่า 30 ปี แต่ยังมุ่งพัฒนาพลังงานทดแทนโดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้ามาผนวกกับการผลิตพลังงานเพื่อตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นความต้องการด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น สะอาดขึ้น สัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนที่สูงขึ้น และการเชื่อมต่อสังคมยุคดิจิตอล หลังจากเตรียมความพร้อมและระบบสนับสนุนที่แข็งแกร่งทั้งด้านเทคโนโลยีและด้านการบริการลูกค้าแบบครบวงจร จึงได้เปิดตัวบ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ อย่างเป็นทางการ ถือเป็นการต่อยอดความเชี่ยวชาญจากการดำเนินธุรกิจโซลาร์ฟาร์มของบ้านปูฯ ในประเทศจีนและญี่ปุ่น มาสู่ธุรกิจวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้งยังเป็นการร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้านพลังงาน หรือนโยบายพลังงาน 4.0 ที่มุ่งเน้นผลักดันให้เกิดนวัตกรรมด้านพลังงานใหม่ๆ ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ”
ในระยะแรก บ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ จะให้บริการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Rooftop Solar) ระบบไฟถนน และอุปกรณ์ไฟส่องสว่างจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Streetlight and Accessories) ด้วยอุปกรณ์ชั้นนำที่มีคุณภาพสูง เน้นแพ็คเกจ Signature Infinergy ที่คุ้มค่ามากที่สุด ลูกค้าไม่ต้องลงทุนค่าติดตั้งหรือค่าอุปกรณ์เลยแม้แต่บาทเดียว (zero investment) และจ่ายค่าไฟจากระบบโซลาร์ในราคาที่ถูกลง พร้อมบริการดูแลรักษาระบบ และฟรีอุปกรณ์ตลอดอายุสัญญา 20-25 ปี นอกจากนี้ยังมีอีก 2 แพ็คเกจให้ลูกค้าเลือกตามความต้องการ ซึ่งผลประโยชน์ที่ได้รับจะแตกต่างกัน
น.ส. กนกวรรณ จิตต์ชอบธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด


บ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ มีทีมวิศวกรที่มีความชำนาญ ตั้งแต่การออกแบบระบบ คัดเลือกอุปกรณ์คุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำ และวางระบบที่ได้มาตรฐาน พร้อมตรวจสอบไซต์งานลูกค้าผ่านระบบ Control Room ที่วางระบบมอนิเตอร์ และรายงานผลการทำงานของอุปกรณ์ตลอดอายุสัญญา เพื่อตอบสนองลูกค้าอย่างทันท่วงทีหากต้องการความช่วยเหลือด้านระบบ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการบริการภายใต้แนวคิด Smart Service โดยลูกค้าที่ใช้บริการสามารถตรวจสอบยอดการผลิตไฟฟ้า ยอดประหยัดค่าไฟ แจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุขัดข้องแบบเรียลไทม์ และมีช่องทางการติดต่อลูกค้าสัมพันธ์ ผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น Banpu Infinergy ลูกค้าในปัจจุบันประกอบไปด้วยหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น โรงงานขนาดใหญ่ โรงแรม โรงเรียน และสถานีบริการน้ำมัน

สำหรับแผนกลยุทธ์ในอีก 5 ปีข้างหน้า บ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ ตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้ได้รวม 300 เมกะวัตต์ เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าในอนาคต ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการร่วมสนับสนุนแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2558-2579 (Alternative Energy Development plan : AEDP 2015) ของกระทรวงพลังงาน ที่ตั้งเป้าเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนโดยรวมของประเทศจาก 13.9% ในปัจจุบัน เป็น 30 % ภายในปี 2579 นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นที่จะศึกษาและนำระบบการบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System: EMS) และระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System: ESS) มาใช้ในการควบคุมการผลิต การส่ง และการกักเก็บพลังงาน เพื่อให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมการใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ (Electric Vehicle)

“บริษัทฯ เชื่อว่าแนวโน้มพลังงานทดแทนในไทยจะชัดเจนมากขึ้น อย่างในต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกาที่มีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างแพร่หลาย และวันนี้ธุรกิจของบ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มาเติมเต็มแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำของบ้านปูฯ ที่จะช่วยให้กลุ่มบ้านปูฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น  และพร้อมที่จะเป็นผู้ให้บริการด้านพลังงานชั้นนำแก่ภาคส่วนต่างๆ ด้วยจุดแข็งคือ การบริการครบวงจรด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทีมงานที่มีความชำนาญและประสบการณ์ช่วยลูกค้าลดต้นทุนโดยไม่มีความเสี่ยง และ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนและมั่นคงด้วยพลังงานทางเลือกที่สะอาด สอดคล้องกับหลักการดำเนินธุรกิจของบ้านปูฯ ที่มีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อส่งเสริมพลังงานสะอาดกับสังคมไทยให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น บริษัทฯ ได้ริเริ่มโครงการเพื่อสังคม “โครงการพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเรียนรู้” โดยติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา แม่ฟ้าหลวง จังหวัดตาก ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ 13 แห่ง พร้อมตั้งเป้าติดตั้งให้ครบ 24 โรงเรียนภายในปีนี้”  นางสมฤดี ชัยมงคล กรรมการ บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด กล่าวปิดท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจติดตั้งโซลาร์สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.banpuinfinergy.co.th หรือติดต่อลูกค้าสัมพันธ์ 02-095-6599
# # # #

เกี่ยวกับบ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ
    บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด เป็นบริษัทในเครือของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานแห่งเอเชีย ในฐานะผู้ให้บริการด้านการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจรอย่างมืออาชีพ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบระบบ ติดตั้ง ตรวจสอบ และซ่อมบำรุง สำหรับลูกค้าภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการลดต้นทุนการบริหารจัดการจากการประหยัดค่าไฟฟ้า โดยนำประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานของบ้านปูฯ มากกว่า 30 ปี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และความชำนาญจากธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม ในประเทศจีนและญี่ปุ่น มาต่อยอดเป็นธุรกิจพลังงานสะอาดสำหรับประเทศไทยในอนาคต