ADS


Breaking News

กทปส. วางกรอบยุทธศาสตร์ 5 ปี พร้อมจัดสรรทุนงบประมาณปี 2561 จำนวน 1,500 ล้านบาท

กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. เดินหน้าพัฒนาภาพรวมของประเทศด้านเทคโนโลยีดิจิทัล อันเป็นส่วนสำคัญในอนาคตที่จะขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และภาคธุรกิจของประเทศ โดย จัดทำแผนแม่บทของ กทปส. ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 ปี ให้สอดรับกับทิศทางการขับเคลื่อนประเทศภายใต้โมเดลประเทศไทย 4.0 โดยเตรียมจัดสรรเงินกองทุนฯ ประจำปี 2561 จำนวน 1,500 ล้านบาท พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้กับกลุ่มวิสาหกิจ เช่น ผู้ประกอบ SMEs วิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ สามารถมีส่วนร่วมในการขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุน
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กล่าวว่า กทปส. ได้ดำเนินการจัดทำแผนแม่บทระยะ 5 ปี (2561-2565) โดยวางกรอบแนวทางการจัดสรรเงินให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาล แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงแผนแม่บทต่างๆที่เกี่ยวข้องของ กสทช. โดยแผนแม่บทกองทุนคาดว่าจะประกาศใช้พร้อมๆกับแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ และแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม หลังจากมี กสทช. ชุดใหม่เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ในปลายปีนี้ทั้งนี้การจัดสรรทุนประจำปี พ.ศ. 2560 จะดำเนินการจัดสรรเงินกองทุนเฉพาะโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น โครงการตามนโยบายแห่งรัฐ เนื่องจากในปี 2560 เป็นช่วงการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินกองทุน และอยู่ระหว่างการจัดทำแผนแม่บทกองทุนฯ ยุทธศาสตร์ 5 ปี เพื่อให้สอดรับกับแผนแม่บทของ กสทช. ทั้ง 4 แผน
นายไตรรัตน์ กล่าวอีกว่า การปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้ทุน จากเดิมที่ กทปส. ได้จัดสรรเงินภายใต้ปี 2556 - 2559 ได้พบข้อจำกัดในเรื่องการจัดสรรเงินกองทุน เช่น ประเภทของการให้ทุน กระบวนการขั้นตอนการจัดสรร ตลอดจนผู้มีสิทธิยื่นขอรับเงินสนับสนุน ดังนั้น ในปี 2560 นี้ กทปส. จึงได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขอรับทุน โดยหลักเกณฑ์ที่ทำการปรับปรุงใหม่ได้ขยายโอกาสในการให้ทุนไปถึงวิสาหกิจเริ่มต้น วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม อันหมายถึง ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดย่อม ให้สามารถยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนได้ ตลอดจนได้ปรับปรุงกระบวนการจัดสรรให้มีความหลากหลาย มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้การจัดสรรเงินกองทุนก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสาธารณะอย่างแท้จริง ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2560 และอยู่ระหว่างการจัดส่งเพื่อลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
นายนิพนธ์ จงวิชิต รักษาการผู้จัดการกองทุน กทปส.


“ไม่เพียงเท่านั้น หลักเกณฑ์ใหม่ที่จะประกาศใช้นั้น ได้กำหนดให้สอดรับกับพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560  (พรบ. กสทช. ฉบับที่ 2) ผลจากการปรับปรุง พรบ.องค์กร กสทช. (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ภายหลังที่ พรบ. กสทช. ฉบับที่ 2 ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2560 พรบ. ฉบับดังกล่าวได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของกองทุนฯ ดังนี้
    - ปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของกองทุนตามมาตรา 52(6) เรื่องการสนับสนุนการใช้คลื่นความถี่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนการถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้คลื่นความถี่ แทนมาตรา 52(6) เดิมซึ่งกำหนดให้ส่งเสริมและสนับสนุนด้านงบประมาณให้ กระทรวงการคลังสามารถยืมเงินกองทุนเพื่อนำไปใช้ในกิจการของรัฐอันเป็นประโยชน์สาธารณะ
- ปรับเปลี่ยน มาตรา 52 โดยกำหนดให้เงินกองทุนใช้ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามมาตรา 52 ตามแผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคมตามมาตรา 50 ซึ่งแต่เดิมไม่ได้กำหนดให้สามารถใช้เงินกองทุนได้ในทุกวัตถุประสงค์
- เพิ่มเติมมาตรา 50 วรรคห้า กำหนดให้ในการดำเนินการตามแผนการจัดให้มีบริการพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคมตามวรรคหนึ่ง ให้ กสทช. มีอำนาจมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการทั้งหมดหรือบางส่วนแทนได้ ในกรณีเช่นนั้นให้ กสทช. โอนเงินที่เรียกเก็บได้ตามวรรคสามและที่กำหนดไว้ตามวรรคสี่ให้แก่กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อดำเนินการต่อไป


นายไตรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดสรรเงินกองทุนในปี พ.ศ. 2561 คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ได้มีมติเห็นชอบกรอบวงเงินการจัดสรรเงินกองทุนประจำปี 2561 จำนวน 1,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ทุนเปิดกว้าง จำนวน 300 ล้านบาท ทุนตามนโยบายที่คณะกรรมการบริหารกองทุนกำหนด 670 ล้านบาท ทุนต่อเนื่องสำหรับโครงการที่เคยได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนเงินจากกองทุน จำนวน 30 ล้านบาท และ การสนับสนุนกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จำนวน 500 ล้านบาท โดย กรอบหัวข้องานวิจัยที่มุ่งเน้นให้การส่งเสริมและสนับสนุนในปี 2560 บนพื้นฐานของการวิจัยและพัฒนาเพื่อมุ่งขับเคลื่อนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สอดรับกับ Thailand 4.0  ดังนี้
  1. เทคโนโลยีทางการเงิน (Financial Technology) การสนับสนุนให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาการให้บริการด้านการเงินและการลงทุนให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
  2. เทคโนโลยีทางการเกษตร (Smart Agriculture)  การสนับสนุนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็น เครื่องมือในการจัดการข้อมูล ข่าวสาร และการสื่อสาร เพื่อนำไปประยุกต์และใช้ประโยชน์ในทางด้านการเกษตร
  1. เทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะ (Smart City) สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา การประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัล หรือข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสารในการเพิ่มประสิทธิและคุณภาพของบริการชุมชน
  2. เทคโนโลยีด้านสุขภาพ (Smart Health) การสนับสนุนการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และการสื่อสาร มาประยุกต์ใช้ทางด้านการแพทย์และสุขภาพ โดยมุ่งเน้นที่เป้าหมายสุดท้าย คือ เพื่อให้ประชากรของประเทศ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการมีสุขภาพที่ดี อยู่อย่างมีความสุข
  3. การป้องกันอันตรายในโลกออนไลน์ (Cyber Security) การสนับสนุนการป้องกันภัยคุกคามอันเกิดจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มีผลกระทบต่อตัวผู้ใช้งานและทรัพย์สิน
     นายไตรรัตน์ กล่าวในตอนท้ายว่า สำนักงานกองทุนฯ จะนำเสนอกรอบวงเงินพร้อมทั้งกรอบหัวข้องานวิจัยที่จะประกาศให้ทุนต่อ กสทช. ภายในเดือนสิงหาคม และหลังจากนั้นจะมีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนและผู้สนใจได้รับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาในการยื่นเสนอโครงการเพื่อขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนต่อไป