ADS


Breaking News

กรมการท่องเที่ยว เดินเกมรุกต่อยอดความสำเร็จดันประเทศไทยขึ้นแท่น World’s Best Film Location เปิดเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 5

แอน มิตรชัย และสายเชีย วงศ์วิโรจน์ เล่าถึงบรรยกาศการทำงานร่วมกับกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ

     กรมการท่องเที่ยว ประกาศความพร้อม เปิดเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 5 Thailand International Film Destination Festival 2017 : TIFDF2017 ต่อยอดความสำเร็จ ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นอันดับหนึ่งของโลเคชั่นที่ใช้ เพื่อการถ่ายทำภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของโลก หรือ World's Best Film Location โดยการจัดกิจกรรมในปีนี้นำเสนอภายใต้แนวคิด “FASCINATING DESTINATION” พร้อมผลักดัน 8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลก ผ่านกิจกรรมมากมาย อาทิ การแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทยโดยกลุ่มนักศึกษาด้านภาพยนตร์จากทั่วทุกมุมโลก โดยปีนี้มีกิจกรรมพิเศษ คือ การแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นโดยนักศึกษาไทย ในหัวข้อ “การท่องเที่ยวเชื่อมโยงโครงการพระราชดำริ” เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9  ซึ่งมีให้ผู้สมัครเลือกถึง 29 โครงการ ทั่วประเทศไทย และยังมีกิจกรรมการจัดฉายภาพยนตร์ที่จะนำภาพยนตร์ต่างประเทศชื่อดังที่เคยถ่ายทำในประเทศไทยมาฉายให้คนไทยได้ชม เพื่อย้อนความทรงจำและความประทับใจอีกครั้งหนึ่ง 
     นางกอบกาญจน์  วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการท่องเที่ยวโดยตรง โดยมีนโยบายการท่องเที่ยว ที่มุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ให้ประเทศ การกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น การพัฒนาคุณภาพคนไทย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทย ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและหลากหลายในประเทศไทย ซึ่งอุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยนั้น มีความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นการนำเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศ แต่ยังเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่ภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย ซึ่งเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทยนั้น มีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2556 โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเป็นช่องทางในการดึงดูดกลุ่มคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และผู้ที่สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้มาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย
แอน มิตรชัย นักร้อง นักแสดงสาว ผู้มีผลงานโกอินเตอร์ระดับบอลลีวู๊ด
 แอน มิตรชัย  เล่าถึงบรรยกาศการทำงานร่วมกับกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ
 ฟ้า เกรซ สกาย จาก The Face SS3
 เกรซ ณัฐธยาน์ The Face SS3
 เจนนิเฟอร์ คิ้ม กับบทเพลงประกอบภาพยนตร์ James Bond 007 Tomorrow Never Dies
ขุน ชานนท์
สายเชีย วงศ์วิโรจน์ที่มีผลงานร่วมกับกองภาพยนตร์ต่างประเทศมานับไม่ถ้วน

     “สำหรับในปีนี้ เทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทยหรือ Thailand International Film Destination Festival 2017 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “FASCINATING DESTINATION” โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็น “Thailand - World's Best Film Location” กับการเป็นที่สุดของแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีระดับ ที่สุดของจุดหมายปลายทางในจินตนาการ อันทรงคุณค่า และที่สุดของความเชื่อมั่น การันตีด้วยผลงานโฆษณา สารคดี และภาพยนตร์ที่เคยถ่ายทำในประเทศไทย โดยล่าสุดปี 2559  มีคณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยทั้งหมดกว่า 700 เรื่อง สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 2,300 ล้านบาท และในช่วง 5 เดือน (ม.ค. - พ.ค.) ปี 2560 มีภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำแล้วทั้งสิ้น 369 เรื่อง สร้างรายได้กว่า 1,400 ล้านบาท  โดยเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ปีนี้มีจำนวนเรื่องและรายได้เพิ่มสูงขึ้น (ในช่วงเวลาเดียวกัน ม.ค. – พ.ค. 59 มีจำนวนเข้ามาถ่ายทำทั้งสิ้น 323 เรื่อง สร้างรายได้ประมาณ 846 ล้านบาท)  ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ต้องการมาตามรอยภาพยนตร์เหล่านั้น เช่น ภาพยนตร์เรื่อง James Bond 007 ที่เข้ามาถ่ายทำที่เกาะตะปู จังหวัดพังงา กระทั่งในปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกยังคงเรียกเกาะตะปูว่า เกาะเจมส์บอนด์  หรือเมื่อเร็ว ๆ นี้ ภาพยนตร์เรื่อง Lost in Thailand จากประเทศจีน  ที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย  สร้างปรากฏการณ์ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก หรือ Hang Over ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในบทภาพยนตร์มีการนำเสนอเมนูอาหารไทย ให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้ชมภาพยนตร์ทั่วโลก ซึ่งปรากฎการณ์เหล่านี้ ล้วนมาจากปัจจัยสำคัญไม่ว่าจะเป็นด้านสถานที่ถ่ายทำที่มีความโดดเด่นและสวยงาม ศักยภาพและความพร้อมของทีมงานไทย และที่สำคัญที่สุดคือความเชื่อมั่นของกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศที่มีต่อประเทศไทย”
     ด้าน นางสาววรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า ในปีนี้เราดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ โดยมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดที่อยู่ภายใต้ 8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยว ตามยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. 2558– 2560 เพื่อให้สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์แห่งใหม่ในประเทศไทยเป็นที่รู้จักแก่ผู้ที่สนใจเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยมากขึ้น โดยการจัดกิจกรรมเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2560 มีตั้งแต่วันที่ 4 - 27  กรกฏาคม 2560 โดยปีนี้มีกิจกรรม ดังนี้
1) การแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย (Thailand Short Film Competition) กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 25 กรกฏาคม 2560 โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครทีมผู้เข้าแข่งขันที่เป็นนักศึกษาด้านภาพยนตร์ชาวไทย และ ทีมนักศึกษาด้านภาพยนตร์ชาวต่างชาติ จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ โดยผู้เข้าแข่งทีมต่างชาติจะมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์ ร่วมกันคัดเลือกให้เหลือ 24 ทีม โดยแต่ละทีมประกอบด้วยผู้เข้าแข่งขัน 3 คน ได้แก่ นักศึกษาที่กำลังศึกษาด้านภาพยนตร์ เป็นนักศึกษาชาวต่างชาติ 2 คน ทำหน้าที่ผลิตภาพยนตร์ และนักศึกษาไทย1 คนทำหน้าที่เป็น Production Assistant หรือผู้ช่วยการผลิต ซึ่งมีความเข้าใจในงานถ่ายทำภาพยนตร์และมีหน้าที่ในการประสานงานกับสถานที่ถ่ายทำต่างๆ เพื่อสร้างรูปแบบการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานต่างชาติและทีมงานไทย และที่สำคัญเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานด้านภาพยนตร์ร่วมกัน ซึ่งเหล่านี้จะได้รับโจทย์การแข่งขันที่เน้นการนำเสนอ  วิถีท่องเที่ยว วิถีวัฒนธรรม วิถีชีวิต  ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น รวมทั้งความสวยงามของธรรมชาติ และมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้วนสะกดหัวใจนักท่องเที่ยวมาเป็นเวลานาน โดยกำหนดให้ผู้เข้าแข่งขันเลือกถ่ายทำในจังหวัดที่อยู่ภายใต้ 8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว พ.ศ. 2558– 2560 โดยจะมีรางวัลชนะเลิศประจำเขตพัฒนาการท่องเที่ยว 8 รางวัล และมีรางวัลยอดเยี่ยม (Grand Prize) 1 รางวัล
และภายใต้กิจกรรมการแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย ในปีนี้จะมีการจัดกิจกรรมพิเศษ คือ การแข่งขันภาพยนตร์สั้นตามรอยโครงการพระราชดำริ โดยกิจกรรมนี้จะเปิดรับสมัครเฉพาะผู้สมัครที่เป็นนักศึกษาไทยเท่านั้น เพื่อลงพื้นที่ถ่ายทำภาพยนตร์สั้น ในหัวข้อเรื่อง “การท่องเที่ยวเชื่อมโยงโครงการพระราชดำริ” เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช รัชกาลที่ 9 โดยมีโครงการพระราชดำริให้เลือก 29 โครงการจากทั่วประเทศ  ซึ่งในรอบแรกจะคัดเลือกผู้สมัครให้เหลือ 30 ทีม เพื่อให้มานำเสนอผลงานกับผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังได้แก่คุณนนทรีย์ นิมิบุตร คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว คุณโสฬส สุขุม และรศ.ปัทมาวดี จารุวร อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นจะคัดเลือกให้เหลือ 9 ทีม เพื่อไปถ่ายทำภาพยนตร์ ณ สถานที่จริง โดยมีรางวัลใหญ่สำหรับ
ทีมชนะเลิศ 1 ทีม
2) การจัดฉายภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในประเทศไทย (Thailand on Screen) กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 25 กรกฏาคม 2560 โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งจะนำภาพยนตร์ต่างประเทศที่เคยถ่ายทำในประเทศไทยมาฉายให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และในปีนี้จะจัดฉายภาพยนตร์ทั้งสิ้น 5 เรื่อง ซึ่งภาพยนตร์เหล่านี้ เป็นภาพยนตร์ที่เคยโด่งดังเป็นอย่างมาก และล้วนถ่ายทำในประเทศไทย โดยจะร่วมย้อนความทรงจำไปสู่ความน่าสนใจในอดีตที่คนไทยไม่ควรพลาดเข้าชมในเทศกาลครั้งนี้ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Deer Hunter (1978) จากสหรัฐอเมริกา และ Air America (1990) จากสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
3) การประกาศรางวัลการแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย (Awards Ceremony) กำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2560 ณ สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์ เธียเตอร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ชนะเลิศการแข่งขันถ่ายทำภาพยนตร์สั้นทั้งทีมชาวไทยและทีมต่างชาติ นอกจากนี้ยังเป็นการนำเสนอมนต์เสน่ห์ของสถานที่ถ่ายทำในประเทศไทย และศักยภาพของบุคลากรไทยในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถ่ายภาพร่วมกับแขกรับเชิญ
ประธานในพิธี

“โดยกิจกรรมทั้งหมดนี้ มีจุดประสงค์และเป้าหมายที่สำคัญ ในการผลักดันคลื่นลูกใหม่ที่เป็นกลุ่มนักศึกษาด้านภาพยนตร์จากทั่วโลก ทั้งไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงทีมผู้สร้าง ผู้ผลิตภาพยนตร์ และบุคคลผู้สนใจ ทั้งรายใหม่และรายเดิม เพื่อการเผยแพร่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม สามารถรองรับนักท่องเที่ยวและคณะถ่ายทำภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศและคาดหวังการเดินทางเข้ามาถ่ายทำของกองถ่ายภาพยนตร์จากนานาประเทศเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและถ่ายทำภาพยนตร์ของประเทศไทยในอนาคตต่อไป”

กิจกรรมเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2560
จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 4 27 กรกฎาคม โดยมีรายละเอียดดังนี้

เทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 5 Thailand International Film Destination Festival  2017 : TIFDF2017 นำเสนอภายใต้แนวคิด “FASCINATING DESTINATION” เน้นการนำเสนอวิถีท่องเที่ยว วิถีวัฒนธรรม วิถีชีวิต ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น ทั้งในด้านความสวยงามของธรรมชาติ ที่ล้วนสะกดหัวใจนักท่องเที่ยวมาเป็นเวลานาน โดยกำหนดให้ผู้เข้าแข่งขันถ่ายทำภาพยนตร์สั้นจากต่างประเทศ โดยเลือกสถานที่ถ่ายทำในจังหวัด 37 จังหวัด ภายใต้ 8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว พ.ศ. 2558– 2560 เพื่อให้กลายเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์แห่งใหม่ในประเทศไทยเป็นที่รู้จักแก่ผู้ที่สนใจเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยมากขึ้น ได้แก่
  1. เขตอารยธรรมล้านนา(เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา)
  2. เขตอารยธรรมอีสานใต้ (นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี)
  3. เขตฝั่งทะเลตะวันออก (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด)
  4. เขตฝั่งทะเลตะวันตก (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง)
  5. เขตอันดามัน (ภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูล)
  6. เขตมรดกด้านวัฒนธรรม (สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก ตาก)
  7. เขตวิถีชีวิตลุ่มน้ำโขง (เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร บึงกาฬ)
  8. เขตลุ่มเจ้าพระยาตอนกลาง (สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี)
    โดยงานเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2560  มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 427 กรกฎาคม 2560 ในปีนี้มีกิจกรรม ดังนี้
1) การแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย (Thailand Short Film Competition) กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 25 กรกฏาคม 2560 โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครทีมผู้เข้าแข่งขันที่เป็นนักศึกษาด้านภาพยนตร์ชาวไทย และ ทีมนักศึกษาด้านภาพยนตร์ชาวต่างชาติ จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ โดยผู้เข้าแข่งทีมต่างชาติจะมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านภาพยนตร์ ร่วมกันคัดเลือกให้เหลือ 24 ทีม เพื่อออกไปถ่ายทำภาพยนตร์สั้นใน 8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยว เขตละ 3 ทีม โดยแต่ละทีมประกอบด้วยผู้เข้าแข่งขัน 3 คน ได้แก่ นักศึกษาที่กำลังศึกษาด้านภาพยนตร์ชาวต่างชาติ 2 คน ทำหน้าที่ผลิตภาพยนตร์ และนักศึกษาไทยที่กำลังศึกษาด้านภาพยนตร์ 1 คนทำหน้าที่เป็น Production Assistant หรือผู้ช่วยการผลิต ซึ่งมีความเข้าใจในงานถ่ายทำภาพยนตร์และมีหน้าที่ในการประสานงานกับสถานที่ถ่ายทำต่างๆ เพื่อสร้างรูปแบบการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานต่างชาติและทีมงานไทย ที่สำคัญเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานด้านภาพยนตร์ร่วมกัน

และภายใต้กิจกรรมการแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย ในปีนี้จะมีการจัดกิจกรรมพิเศษ คือ การแข่งขันถ่ายทำภาพยนตร์สั้นตามรอยโครงการพระราชดำริ โดยกิจกรรมนี้จะเปิดรับสมัครเฉพาะนักศึกษาชาวไทยเท่านั้น เพื่อลงพื้นที่ถ่ายทำภาพยนตร์สั้น ในหัวข้อเรื่อง “การท่องเที่ยวเชื่อมโยงโครงการพระราชดำริ” เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช รัชกาลที่ 9 โดยมีโครงการพระราชดำริให้เลือก 29 โครงการ จากทั่วประเทศ ซึ่งในรอบแรกจะคัดเลือกผู้สมัครให้เหลือ 30  ทีมเพื่อให้มานำเสนอผลงานกับผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ได้แก่ คุณนนทรีย์ นิมิบุตร, คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว, คุณโสฬส สุขุม และรศ.ปัทมาวดี จารุวร อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นจะคัดเลือกให้เหลือ 9 ทีม เพื่อไปถ่ายทำภาพยนตร์ ณ สถานที่จริง โดยมีรางวัลใหญ่สำหรับทีมชนะเลิศเพียง 1 ทีม
ซี่งเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะแสดงออกถึงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของปวงชนชาวไทยที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกทั้งเป็นการนำเสนอมุมมองใหม่ของโลเคชั่นที่น่าสนใจของเมืองไทยผ่านโครงการในพระราชดำริที่มีอยู่ทั่วประเทศ

รายนามคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์ ที่จะร่วมตัดสินการแข่งขัน ได้แก่
- นางจันทิมา เชยสงวน ประธานคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่ 1 (พิจารณาบทภาพยนตร์ในการขออนุญาตการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักร)
- รองศาสตราจารย์จำเริญลักษณ์ ธนะวังน้อย อดีตหัวหน้าสาขาภาพยนตร์ และรองคณบดีฝ่ายวิชาการ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษประจำภาควิชาภาพยนตร์และถ่ายภาพ คณะวารสารศาสตร์ และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่ 1
- นายนคร วีระประวัติ ประธานชมรมวิจารณ์บันเทิง และกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่ 3
ผู้ตัดสินจากต่างประเทศที่เกี่ยวข้องในสาขาภาพยนตร์ คือ
- Mr.Glenn S. Gainor (มิสเตอร์เกลนน์ ไกเนอร์) President of Sony Pictures Screen Gems (ประธานบริหาร โซนี่ พิคเจอร์ สกรีน เจมส์) ให้เกียรติมาร่วมตัดสิน เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นอนาคตสำคัญ ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
- Mr.Park Kwang Soo (มิสเตอร์ปาร์ค กวาง ซู) ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังชาวเกาหลีใต้
- Mrs.Joley Fisher (มิสซิส โจเลย์ ฟิชเชอร์) นักแสดงสาวชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากซีรีส์เรื่องดัง Til Death และ Desperate Housewives
และผู้ตัดสินจากกรมการท่องเที่ยว คือ ผอ.วรธีรา สุวรรณศร ผู้อำนวยการกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ

โดยรางวัลสำหรับผู้ชนะการแข่งขันจะมีทั้งสิ้น 10 รางวัล แบ่งเป็นรางวัลผู้ชนะเลิศจาก 8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยว จำนวน 8 รางวัล ได้เงินรางวัลทีมละ 30,000 บาท และรางวัลภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม (Grand Prize) จำนวน 1 รางวัล ได้เงินรางวัล 300,000 บาท และรางวัลชนะเลิศของทีมไทย 1 รางวัล ได้เงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมได้รับโอกาสเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ในต่างประเทศ เช่น Busan Film Festival ประเทศเกาหลีใต้
2) การจัดฉายภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในประเทศไทย (Thailand on Screen) กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 25 กรกฏาคม 2560 โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งจะนำภาพยนตร์ต่างประเทศที่เคยถ่ายทำในประเทศไทยมาฉายให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และในปีนี้จะจัดฉายภาพยนตร์ทั้งสิ้น 5 เรื่อง ซึ่งภาพยนตร์เหล่านี้ เป็นภาพยนตร์ที่เคยโด่งดังเป็นอย่างมาก และล้วนถ่ายทำในประเทศไทย โดยจะร่วมย้อนความทรงจำไปสู่ความน่าสนใจในอดีตที่คนไทยไม่ควรพลาดเข้าชมในเทศกาลครั้งนี้ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Deer Hunter (1978) จากสหรัฐอเมริกา และ Air America (1990) จากสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
     3) การประกาศรางวัลการแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย (Awards Ceremony) กำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2560 ณ สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์ เธียเตอร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ชนะเลิศการแข่งขันถ่ายทำภาพยนตร์สั้นทั้งทีมชาวไทยและทีมต่างชาติ นอกจากนี้ยังเป็นการนำเสนอมนต์เสน่ห์ของสถานที่ถ่ายทำในประเทศไทย และศักยภาพของบุคลากรไทยในอุตสาหกรรมภาพยนตร์