แซส กูรูด้านเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลระดับสูง ให้วิสัยทัศน์ Internet of Things และ Big Data ในงานประชุมวิชาการ “NIDA International Business Conference 2017 ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ชูเทคโนโลยี SAS Viya แพลทฟอร์มการวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Parallel รุ่นที่ 4
กรุงเทพฯ – มร.บียังเวิค ช้อย ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจโซลูชั่นสายการปฏิบัติงานด้านการผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก,แซส กล่าวในงานประชุมวิชาการ “NIDA International Business Conference 2017” ที่จัดขึ้นในประเทศไทยว่า โลกธุรกิจในปัจจุบัน พูดถึงการที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เชื่อมได้กับสรรพสิ่งหรือ IoT (Internet of Things) และเรื่องของ Big Data , User Analytics , Cloud Service และเครือข่ายสื่อสารที่รวดเร็วจากเทคโนโลยี 3 G มาเป็น 4 G และเครือข่าย Wi-Fi ทำให้การสื่อสารเกิดประโยชน์กับธุรกิจมากมาย ขณะเดียวกันมีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น เพื่อตอบสนองความต้องการการใช้งานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทำให้เรื่องของ Internet of Things และ Big Data ยังอยู่ในกระแส และองค์กรต่างๆ เห็นความสำคัญ เพราะหลีกหนีไม่พ้นที่การรับ – ส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ Device จำเป็นต้องรู้ว่าใครเป็นเจ้าของอุปกรณ์ Device ซึ่งต้องใช้ข้อมูลอะไรบ้าง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้าน Cyber security อีกด้วย ดังนั้นโอกาสใหม่ๆ ที่มากับBig Data และ Internet of Things ก็มีอีกหลายเทคโนโลยี อาทิ Cyber security ที่ต้องการ การปกป้องข้อมูล หรือ Payment ecosystem ในการนำข้อมูลมาปรับใช้ เพื่อปรับตัวสู่ธุรกิจยุคใหม่ที่โลกแข่งขันด้วยนวัตกรรม
ทั้งนี้ จะเห็นว่าปริมาณข้อมูลที่มากหมายมหาศาล ทำให้มีการเชื่อมต่ออุปกรณ์การใช้งานมากกว่า 25 พันล้านชิ้น และด้วยจำนวนข้อมูลการใช้งานอย่างมากมายนี้ จึงต้องมีการจัดการข้อมูลให้มีการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ และหัวใจสำคัญในเรื่องนี้คือ Big data เทคโนโลยีที่นำมาใช้ และลูกค้า ขอยกตัวอย่างบริษัทในเกาหลีใต้แห่งหนึ่งซี่งอยู่ในแวดวงธุรกิจสื่อสาร ชื่อ เอส เคา เทเลคอม ซึ่งมีการลงทุนในธุรกิจไปกว่า 10 พันล้านบาท และมีการนำหลายๆ แอปพลิเคชั่นที่น่าสนใจมาใช้ ตั้งแต่ โลเคชั่นสำหรับการบอกตำแหน่งสถานที่ต่างๆ ผ่านอุปกรณ์อย่างมือถือ หรือแทปเล็ต หรือใช้ในการระบุว่า เจ้าของอุปกรณ์ในตอนนี้อยู่ที่ไหน หรืออย่างกรณีห้างสรรพสินค้าอย่างล็อตเต้ ที่มีผู้ใช้งานมือถือสามารถแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่นก่อนไปถึงสาขา เพื่อการจองที่จอดรถ รวมถึงการแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลผู้ใช้งานมือถือ สำหรับกิจกรรมการตลาดของห้าง เป็นต้น
สำหรับแซส ถือว่าป็นผู้นำระดับโลก ที่มีความเชี่ยวชาญในด้าน Big Data โดยในช่วงที่ผ่านมีความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนาโซลูชั่นอันยอดเยี่ยม และครบวงจรเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการชั้นนำในภูมิภาค และนอกเหนือในตลาดสำคัญในเกาหลีใต้แล้ว แซสยังมีความร่วมมือกับลูกค้าในเอเชีย แปซิฟิก อย่างต่อเนื่อง และแน่นอนแซสให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศไทยด้วย
ตัวอย่างสำคัญลูกค้าในประเทศไทยคือ ผู้ให้บริการมือถืออย่างบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ซึ่งใช้โซลูชั่นระดับโลกของแซสในการจัดการการให้บริการแก้ปัญหาเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบสามารถเข้าไปตรวจสอบ และแก้ไขได้ทันท่วงที หรือหากมีการร้องเรียนผ่าน Call Center เข้ามา เจ้าหน้าที่สามารถปรับปรุงให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ขณะนี้แซส พร้อมนำเสนอเทคโนโลยี SAS Viya ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มในการประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Parallel รุ่นที่ 4 แบบโอเพ่นซอร์สที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานแก้ไข และปรับปรุงซอฟต์แวร์เองได้ เพื่อให้เข้ากับการใช้งานภายในองค์กรตนเองมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมพลังงาน และการพัฒนาเมืองที่ต้องวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน ที่ต้องมีการจัดเก็บข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลประชากร เพื่อการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า
# # #
เกี่ยวกับบริษัท แซส
บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้นำในตลาดซอฟต์แวร์และบริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ (Business Analytics) ด้วยโซลูชั่นเชิงนวัตกรรมที่ให้ลูกค้าในรูปของ Integrated Framework และเทคโนโลยีสำหรับการรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ และการเข้าถึงข้อมูลช่วยให้ลูกค้าของแซสที่มีมากกว่า 75,000 แห่งทั่วโลก สามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้ดี และรวดเร็วยิ่งขึ้น และนับตั้งแต่ปี 2519 เป็นต้นมา แซส เดินหน้าอย่างมุ่งมั่นในการเป็น "พลังแห่งการรอบรู้" หรือ The Power to Know® สำหรับลูกค้าทั่วโลก