เนสเพรสโซ เปิดตัว “โครงการรีไซเคิล” ในประเทศไทย
Nespresso มอบความมุ่งมั่นในพันธสัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวโครงการรีไซเคิลอะลูมิเนียมจากแคปซูลกาแฟที่ใช้แล้ว โดยสมาชิกของเนสเพรสโซ คลับในประเทศไทย จะสามารถส่งคืนแคปซูลกาแฟเนสเพรสโซที่ใช้แล้วได้อย่างง่ายดายที่ร้านเนสเพรสโซ บูติก หรือ ณ จุดจำหน่ายเครื่องชงกาแฟเนสเพรสโซ ห้างเซ็นทรัลชิดลม และ โฮมโปร รามอินทรา
คุณฮัน เมย์ ผู้จัดการใหญ่ ของ เนสเพรสโซ ประเทศไทย กล่าวถึง การเปิดตัวของโปรแกรมการรีไซเคิลว่า "เนสเพรสโซ มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมในห่วงโซ่แห่งคุณค่า (value chain) อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะเปิดตัวโครงการรีไซเคิลของเรา สำหรับแคปซูลที่ใช้แล้วในประเทศไทย โดยสมาชิกของเนสเพรสโซ คลับในประเทศไทย สามารถที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เพียงนำแคปซูลที่ใช้แล้วของพวกเขากลับมาคืน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพื่อนำไปสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างไม่มีที่สิ้นสุดต่อไป”
เนสเพรสโซเลือกใช้อะลูมิเนียมเป็นวัสดุในการผลิตแคปซูล Nespresso Grands Crus เนื่องจากเป็นวัสดุที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เพื่อป้องกันกาแฟจากปัจจัยต่างๆ เช่น ออกซิเจน แสงและความชื้น อะลูมิเนียมเป็นวัสดุมีคุณสมบัติในการเก็บรักษาคุณภาพของกาแฟและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อะลูมิเนียมยังเป็นวัสดุเดียวที่สามารถตอบรับแรงดันสูง(19 บาร์)ของเครื่องชงกาแฟเนสเพรสโซได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อการผลิตกาแฟเอสเพรสโซแก้วอร่อยที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ อะลูมิเนียมที่ใช้มาจาก Bauxite ซึ่งเป็นสินแร่อะลูมิเนียมชั้นดีจากธรรมชาติ ที่สามารถนำมารีไซเคิลได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยไม่สูญเสียคุณภาพของอะลูมิเนียมแม้แต่น้อย เมื่อเทียบกับอะลูมิเนียมอื่นๆ
ด้วยความเชื่อมั่นในคุณค่าของอลูมิเนียม เนสเพรสโซได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่สำคัญ ในการพัฒนารูปแบบของกระบวนการรีไซเคิล รวมถึงการแก้ปัญหา และส่งเสริมให้ผู้บริโภคร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการการรีไซเคิล เนสเพรสโซได้แนะนำความคิดริเริ่มของการรีไซเคิลนี่เป็นครั้งแรกในสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 2534 ตั้งแต่นั้นมา บริษัทฯ ได้มีการจัดตั้งระบบการจัดเก็บแคปซูลของแบรนด์ ใน 36 ประเทศทั่วโลก
เพื่อสอดคล้องกับแนวทางของบริษัทฯในทั่วโลก ทางเนสเพรสโซ ประเทศไทย ได้ดำเนินการริเริ่มโครงการรีไซเคิล โดยจะทำการจัดเก็บรวบรวมแคปซูลเนสเพรสโซที่ใช้แล้ว เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลโดย บริษัท วงษ์พาณิชย์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการแบบครบวงจรและได้มาตรฐานรับรองด้านบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องกับพันธสัญญาแห่งความยั่งยืนของเนสเพรสโซ
สำหรับ กระบวนการรีไซเคิลแคปซูลที่ใช้แล้วนั้น เริ่มจาก การคัดแยกอะลูมิเนียมออกจากกากกาแฟ เพราะทุกส่วนประกอบในแคปซูลเนสเพรสโซได้มีการนำกลับมาใช้ใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่บรรจุภัณฑ์อะลูมิเนียมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกากกาแฟอีกด้วย ซึ่ง 2 องค์ประกอบนี้จะถูกคัดแยกออกจากกันก่อนเริ่มกระบวนการ และหลังจากคัดแยกแล้ว กากกาแฟจะถูกนำกลับมาใช้ในรูปแบบของปุ๋ยธรรมชาติสำหรับการเกษตรกรรม ส่วนอลูมิเนียมจะถูกนำเข้าทำการหลอมละลาย เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งในขั้นตอนนี้จะใช้พลังงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือน้ำหนักและคุณภาพที่คงเดิมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างไม่รู้จบ
ในปี 2558 เนสเพรสโซมีความสามารถในการเรียกเก็บคืนแคปซูลเพิ่มสูงถึง 86% ของแคปซูลที่จัดจำหน่ายทั้งหมด และบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มอัตราในการเรียกคืนแคปซูลที่ใช้แล้ว เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลให้ได้สูงสุด 100% ภายในสิ้นปี 2563
เนสเพรสโซพร้อมมอบถุงรีไซเคิล หากคุณระบุความต้องการเมื่อสั่งซื้อสินค้าผ่านทางทุกช่องทาง หรือ สามารถมารับได้ที่เนสเพรสโซ บูติก เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับคุณในการเก็บและจัดส่งแคปซูลที่ใช้แล้วให้กับเนสเพรสโซ
สามารถแจ้งความต้องการถุงรีไซเคิลได้ทุกช่องทางเมื่อคุณสั่งซื้อกาแฟ:
• โทรศัพท์: 1800-019090 – โทรฟรี ภายในประเทศไทย
• ออนไลน์: www.nespresso.com หรือ แอพพลิเคชั่นมือถือ Nespresso
• เนสเพรสโซ บูติก สยามพารากอน ชั้น 1
ปริมาณบรรจุ: ถุงรีไซเคิล บรรจุแคปซูลใช้แล้วจำนวน 80 ชิ้น
เนสเพรสโซ ให้คุณสัมผัสประสบการณ์แห่งสุนทรียรส ของกาแฟชั้นเลิศ
เนสเพรสโซ ประเทศไทย ได้มีการปรับลดราคาสินค้ากาแฟแคปซูล (Grands Crus) เป็นการถาวร เพื่อให้กับคนรักกาแฟได้ดื่มด่ำและความเพลิดเพลินกับประสบการณ์ของการดื่มกาแฟเนสเพรสโซได้มากขึ้นและอย่างดีที่สุด พร้อมไปกับการให้บริการที่เหนือระดับและเอกซ์คลูซีฟ
ตั้งแต่วัน 11 มกราคม 2017 เป็นต้นไป ราคาสินค้าได้ถูกปรับลงดังนี้ :
กาแฟแคปซูล Kazaar และ Dharkan Grand Cru จะถูกปรับราคาลงเป็น 23 บาท (จากราคาเดิม32 บาท)
กาแฟแคปซูล Ristretto อื่นๆ และ Espresso จะถูกปรับราคาลงเป็น 20 บาท (จากราคาเดิม 28 บาท)
กาแฟแคปซูล Decaffeinato และ Lungo จะถูกปรับราคาลงเป็น 22 บาท (จากราคาเดิม 30 บาท)
ในขณะที่กาแฟแคปซูล Vivalto Lungo Decaffeinato และ Pure Origin จะถูกปรับราคาลงเป็น 23 บาท (จากราคาเดิม 32 บาท) และกาแฟแคปซูล Variations จะถูกปรับราคาลงเป็น 24 บาท (จากราคาเดิม 34 บาท)
เนสเพรสโซ มีบริการพิเศษให้กับลูกค้าชาวไทย ผ่านโปรแกรมสมาชิกเนสเพรสโซ คลับ โดยสมาชิกของ เนสเพรสโซ คลับในประเทศไทย สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง ใน 365 วันต่อปี ผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (www.nespresso.com/th) และ แอพพลิเคชั่นมือถือ Nespresso และหมายเลขโทรฟรี 1800-019090 (9:00-19:00 ทุกวัน) ลูกค้ายังสามารถเพลิดเพลินกับการชิมกาแฟที่ร้านเนสเพรสโซบูติค(Nespresso Boutique) สยามพารากอน ชั้น1 โดยผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟจากเนสเพรสโซ ที่พร้อมคอยให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์พิเศษอื่น ๆ รวมถึงการสัมผัส สุดยอดกาแฟเนสเพรสโซ รสชาติใหม่ที่เป็นลิมิเตดอิดิชั่นในทุกๆปี และจะได้รับทราบข่าวสารสิทธิพิเศษเพิ่มเติมก่อนใคร เนสเพรสโซยังมีบริการไปรับเครื่องชงกาแฟเนสเพรสโซ โดยตรงจากบ้านของสมาชิกในสำหรับเครื่องชงกาแฟที่ต้องซ่อมแซม ทั้งนี้ในช่วงระยะเวลาของการรับประกันสินค้า สมาชิกจะได้รับเครื่องชงกาแฟสำรอง เพื่อใช้แทนในระหว่างที่รอเครื่องซ่อมแซม
# # #
เกี่ยวกับ Nestlé Nespresso SA
Nestlé Nespresso SA เป็นผู้ริเริ่มและต้นแบบของกาแฟประเภทแคปซูลสำเร็จ ที่มีคุณภาพดีที่สุด สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองโลซานน์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ Nespresso มีสาขาดำเนินงานใน 64 ประเทศ และมีพนักงานรวม 12,000 คน ในปี 2558 บริษัทฯ มีร้านบูติคที่ให้บริการ เฉพาะในเครือกว่า450 แห่งทั่วโลก ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Nespresso: www.nestle-nespresso.com