ADS


Breaking News

ภาครัฐรวมใจ ชวนคนไทย ห่างไกลภาวะอ้วนลงพุง ในงานสัปดาห์วันไตโลก ประจำปี 2560

สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย มูลนิธิโรคไตฯ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายลดบริโภคเค็ม สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมวันไตโลก (World Kidney Day) และจัดงานสัปดาห์วันไตโลก ประจำปี 2560 ภายใต้คำขวัญ “อ้วนกลมระทมไต” เพื่อกระตุ้นและเชิญชวนให้คนไทยรักสุขภาพ มีความมุ่งมั่นในการดูแลสุขภาพของตนเอง และห่างไกลจากภาวะอ้วนลงพุง
12  มีนาคม 2560 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ : รศ.นพ.เกรียงศักดิ์ วารีแสงทิพย์  นายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ของโรคไตในปัจจุบัน กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในระดับทั่วโลกในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา  โดยเฉพาะในปัจจุบันพบว่าเด็กและผู้ใหญ่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปและมีภาวะเสี่ยง “อ้วนลงพุง”    เป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้มีภาวะเสี่ยงเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยเฉพาะป่วยเป็นโรคไตเพิ่มมากขึ้นทุกปี และยังทำให้เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังชนิดอื่น ๆ ตามมาด้วย  อาทิ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงและโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น  จึงทำให้เกิดการรณรงค์วันไตโลกและสัปดาห์วันไตโลกในเดือนมีนาคมของทุกปี  เพื่อให้เกิดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโรคต่างๆและหาวิธีการป้องกันอย่างเหมาะสม  จึงได้จัดงานสัปดาห์วันไตโลก ประจำปี 2560  ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อ้วนกลมระทมไต”  เพื่อกระตุ้นและเชิญชวนให้คนไทยรักสุขภาพ มีความมุ่งมั่นในการดูแลสุขภาพของตนเอง และห่างไกลจากภาวะอ้วนลงพุง ภายในงานมีการเสวนาเรื่องโรคไต กับแพทย์โรคไต การเสวนาเรื่องแรงบันดาลใจในการหันมาเอาใจใส่ดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเป็นอย่างมากจนสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้อย่างชัดเจนและการแสดงบนเวที โดยคุณแมน การิน ศตายุส์  “7 วันฟิตแอนเฟิร์ม” และจ๋า ยศสินี ณ นคร  มาแนะนำ 7 วัน 7 เมนูสุขภาพดี๊ดี มันดีต่อไต  และจะมีการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live ของคุณแมน การิน และคุณจ๋า ยลศนี อีกด้วย นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากกลุ่มศิลปิน นักแสดง ดาราต่าง ๆ มากมาย  อาทิ  เจมส์ อัศรัสกร (เจมส์ มาร์) และ ชีรณัฐ ยูสานนท์ (น้ำชา)  มาร่วมในงานครั้งนี้อีกทั้งภายในงานยังมีการจำหน่ายเสื้อยืดวันไตโลก 2560 ในราคาตัวละ 300 บาท รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้สมาคมโรคไตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไต ซึ่งประชาชนสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
ด้าน ผศ.นพ.สุรศักดิ์  กันตชูเวสศิริ  ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม  กล่าวว่า คนไทยจะต้องลดอาหารเค็ม เพื่อรักษาไต จากการสำรวจพบว่าคนไทยบริโภคเกลือและโซเดียมสูงเกินกว่าที่แนะนำถึง 2 เท่า คือเกลือ 10.8 กรัม หรือโซเดียม 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน (องค์การอนามัยโรคแนะนำบริโภคเกลือ 5 กรัม หรือโซเดียม 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน)
     การรับประทานอาหารรสเค็มจัด จะส่งผลให้ความดันโลหิตสูงเพิ่มการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะ และยังมีผลเสียต่อไตโดยตรง ทำให้หัวใจทำงานหนักก่อให้เกิดภาวะหัวใจวายและความดันโลหิตสูง ความดันในสมองเพิ่มขึ้น มีโอกาสเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
    ผศ.นพ.สุรศักดิ์  กล่าวต่อว่า ปัญหาของผู้ป่วยโรคไต นับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญในระดับชาติ ทั้งนี้ในปัจจุบันผู้ป่วย ที่ป่วยเป็นโรคไตมีอายุเฉลี่ยที่น้อยลง รวมถึงพบว่ามีผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคไตในเด็ก เพิ่มสูงขึ้นมากขึ้น  ส่วนหนึ่งมาจากการบริโภคอาหารที่มีรสเค็มจัด  ขนมขบเคี้ยวที่มีรสเค็ม หรือพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ที่มักจะต้องเติมน้ำปลาหรือน้ำปลาพริกทุกมื้อ ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยเสี่ยง จนเป็นสาเหตุในเรื่องของภาวะ  ไตวายเรื้อรัง ซึ่งเป็นภัยเงียบรสเค็ม  ซึ่งเป็นภาวะที่เนื้อไตถูกทำลายอย่างถาวร ทำให้ไตค่อย ๆ ฝ่อเล็กลง แม้อาการจะสงบแต่ไตจะค่อยๆ เสื่อมและเข้าสู่ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายในที่สุด 
    สำหรับผู้ป่วยโรคไตนั้น  มีหลากหลายสาเหตุและสามารถป้องกันได้  ถ้าได้รับการรักษาแต่เนิ่น ๆ เช่น การควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงให้ดี   แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ผู้ป่วยโรคไตบางคนละเลยการรักษา ทำให้ไตวายอย่างรวดเร็วจนเสียชีวิต   ดังนั้นผู้ป่วยโรคไต   ควรปฏิบัติดังนี้  1.พบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ 2. ควบคุมความดันโลหิตน้อยกว่า 130 /80 และระดับน้ำตาลในเลือด 3.ควบคุมการทานอาหารรสเค็ม และจำกัดอาหารประเภทโปรตีน โดยให้บริโภคเกลือไม่เกินวันละ 5 กรัม ถ้าเทียบเป็นปริมาณโซเดียมก็ไม่ควรเกิน วันละ 2,000 มิลลิกรัม ซึ่งปริมาณดังกล่าวเทียบเท่ากับเกลือ 1 ช้อนชา   4. หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวด  ยาหม้อ  ยาชุดโดยไม่ปรึกษาแพทย์ 4.เลิกบุหรี่และงดดื่มสุรา และ 5.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ