ADS


Breaking News

แมคลาเรน 720เอส ซูเปอร์ซีรี่ส์รุ่นใหม่ เผยโฉมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 เปิดปฐมบทแห่งซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่จากแมคลาเรน

  • แมคลาเรน 720เอส นำเสนอซูเปอร์คาร์รุ่นที่ 2  ในตระกูลซูเปอร์ซีรี่ส์ หัวใจสำคัญของแบรนด์แมคลาเรน  
  • จัดแสดงในประเทศไทยหลังเปิดตัวครั้งแรกในโลกเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาในกรุงเจนีวา
  • ตะลึงกับนิยามใหม่แห่งงานดีไซน์ของแมคลาเรนที่สอดประสานกับหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อสรรค์สร้างเอกลักษณ์ใหม่แบบสุดขั้วในแบบฉบับแมคลาเรน
  • โครงสร้างหลักแบบ Monocage II บนโครงช่วงล่างคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้รถเปล่ามีน้ำหนักเบาที่สุดเพียง 1,283 กก. พร้อมพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางและทัศนวิสัยที่เป็นเลิศ
  • ห้องโดยสารออกแบบเพื่อการขับขี่ที่เหนือกว่า หรูหราด้วยวัสดุหนังเกรดพรีเมี่ยมและสวิตช์อะลูมิเนียม
  • แมคลาเรน 720เอส ใหม่ มอบสัมผัสแห่งการขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์ ด้วยประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมี และระบบโครงช่วงล่างแมคลาเรนรุ่นใหม่ Proactive Chassis Control II
  • มอบประสิทธิภาพที่ครอบคลุมสูงสุด ทั้งความสะดวกสบายที่สามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำ ไปจนถึงพลังแห่งการขับขี่ขั้นสุดยอด
  • เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบรุ่นใหม่ 4.0-litre V8 ให้กำลังเครื่อง 720 แรงม้า และแรงบิด 770 นิวตันเมตร ด้วยอัตราส่วนกำลังเครื่องต่อน้ำหนักถึง 561 แรงม้าต่อตัน
  • เร่งความเร็ว 0-60 ไมล์/ชม. ใน 2.8 วินาที (0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที) และ 0-200 กม./ชม. (124 ไมล์/ชม.) ใน 7.8 วินาที โดยทำความเร็วสูงสุดที่ 212 ไมล์/ชม. (341 กม./ชม.)
  • เบรกจากความเร็ว 200 กม./ชม. จนถึงหยุดนิ่งในเวลาเพียง 4.6 วินาทีภายในระยะทาง 117 เมตร
  • เริ่มส่งมอบรถยนต์งวดแรกในไตรมาส 4 นี้
     กรุงเทพฯ 28 มีนาคม 2560 - แมคลาเรน ออโตโมทีฟ ผู้ผลิตสปอร์ตคาร์และซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูงระดับหรู ปฏิวัตินิยามของสุดยอดยานยนต์ในตระกูลซูเปอร์ซีรี่ส์ของแมคลาเรน ภูมิใจนำเสนอ นิว แมคลาเรน 720เอส (McLaren 720S) สู่ผู้บริโภคในเมืองไทย ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี โดยนิช คาร์ กรุ๊ป ผู้นำเข้ารถยนต์ระดับซูเปอร์คาร์ สปอร์ตคาร์และไฮเปอร์คาร์ชั้นนำของเมืองไทย กำหนดจัดงานรอบวีไอพีในวันที่ 27 มีนาคม 2560 และ งานรอบสื่อมวลชนในวันที่ 28 มีนาคม 2560

     นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานจะได้สัมผัสกับอีกหนึ่งยานยนต์รุ่นประวัติศาสตร์ของแมคลาเรน นั่นคือ แมคลาเรน 570เอส (McLaren 570S) ที่นำเสนอโครงช่วงล่างป้องกันการพลิกคว่ำซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์สุดยอดยนตกรรมจากอังกฤษ และทำให้แมคลาเรนได้รับการยกย่องให้เป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตจนถึงปัจจุบัน สำหรับ แมคลาเรน 720เอส ซึ่งเปิดตัวในงานเจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นการนำเสนอมาตรฐานใหม่แห่งความเป็นเลิศของแวดวงซูเปอร์คาร์ ด้วยดีไซน์อันสวยงามโฉบเฉี่ยวดุจฉลามร้ายพร้อมสมรรถนะและขุมพลังที่เหนือชั้น โดยเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นที่ 2 ในตระกูลซูเปอร์ซีรี่ส์ ที่ได้รับการยกระดับวิศวกรรมยานยนต์ใหม่หมดจด

     มร. ไมค์ เฟลวิทท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร แมคลาเรน ออโตโมทีฟ กล่าวว่า “รถยนต์ตระกูลซูเปอร์ซีรี่ส์ถือเป็นธุรกิจหลักของแมคลาเรน และถือเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงหัวใจสำคัญของแบรนด์ ทั้งในด้านสมรรถนะขั้นสูงสุด ความหรูหราของงานฝีมือ และสัมผัสที่เป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์อย่างไร้คู่แข่ง ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เรานำเสนอรถรุ่นใหม่ในตระกูลนี้ ซึ่ง นิว แมคลาเรน 720เอส แสดงถึงจิตวิญญาณแห่งการเป็นผู้บุกเบิกของแมคลาเรนได้อย่างชัดเจน ถือเป็นพัฒนาการแบบก้าวกระโดดครั้งสำคัญ ทั้งในระดับของแบรนด์และตลาดซูเปอร์คาร์”

     นิว แมคลาเรน 720เอส ซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ให้กำลังเครื่องถึง 720 แรงม้า ถือเป็นซูเปอร์คาร์แบบแรกในตระกูลซูเปอร์ซีรี่ส์ รุ่นที่ 2 โดย เซอร์เรย์ บริษัทผู้ผลิตสปอร์ตคาร์และซูเปอร์คาร์ระดับหรูในประเทศอังกฤษ ได้เริ่มเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นนี้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยจัดทำเป็นชุดข้อมูล 6 ชุดซึ่งมีทั้งภาพและภาพยนตร์สั้นที่บ่งบอกถึงคุณสมบัติต่างๆ ของ แมคลาเรน 720เอส ซึ่งสื่อให้รู้ถึงชื่อรุ่น 720 อย่างชัดเจน เนื่องจากเมื่อนำจำนวน 1 x 2 x 3 x 4 x 5 x 6  จะเท่ากับ 720

ยานยนต์ แมคลาเรน 720เอส มีน้ำหนักเบาขึ้น เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่สูงขึ้นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้อย่างรุ่น 650เอส นำเสนอการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในที่กว้างขวางและเปี่ยมเสน่ห์ ช่วยให้นักขับสัมผัสได้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์และประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ โดย แมคลาเรน 720เอส คือผลลัพธ์ของการตีความการออกแบบรถยนต์แมคลาเรนใหม่ในทุกรายละเอียด นับตั้งแต่การใช้หลักอากาศพลศาสตร์ในการออกแบบ ไปจนถึงการคิดค้นรูปทรงที่สวยงามของตัวรถที่มีความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า แมคลาเรน 720เอส คือสุดยอดยานยนต์ที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์และความโดดเด่นที่สุดของแมคลาเรน

     หนึ่งในความแตกต่างของงานดีไซน์ใหม่ของยานยนต์ตระกูลซูเปอร์ซีรี่ส์ คือการตัดช่องลมเข้าของส่วนหม้อน้ำด้านข้างตัวรถออกไป โดยแทนที่การทำงานนี้ด้วยการออกแบบรูปทรงอากาศพลศาสตร์ “ซ้อนชั้น” ในรูปแบบเฉพาะของประตูแบบหมุนขึ้น (Dihedral Doors) ซึ่งจะบังคับให้อากาศไหลผ่านหม้อน้ำที่มีอุณหภูมิสูงและทำให้เครื่องยนต์เย็นลง

     เครื่องยนต์ M480T รุ่นใหม่ให้กำลัง 720 แรงม้า ซึ่งแรงไม่ต่างจากเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบรุ่น V8 ของแมคลาเรนที่คว้ารางวัลมาแล้วมากมาย โดยเครื่องรุ่นนี้เป็นแบบ 4.0 ลิตร ใช้ชิ้นส่วนใหม่ 41% เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องขนาด 3.8 ลิตรของยานยนต์ในตระกูลสปอร์ตซีรี่ส์ของแมคลาเรน ทำให้ แมคลาเรน 720เอส มอบกำลังแรงสูดถึง 720 แรงม้า และแรงบิด 770 นิวตันเมตร

     นิว แมคลาเรน 720เอส มอบสมรรถนะที่เหนือชั้นโดยสามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. (62 ไมล์/ชม.) ได้ภายในเวลาไม่ถึง 3 วินาที และอีก 5 วินาทีต่อมาจะเร่งได้เร็วกว่า 200 กม./ชม. (124 ไมล์/ชม.) โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 341 กม./ชม. สำหรับระบบเบรกสามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสามารถหยุดรถจากความเร็ว 200 กม./ชม. (124 ไมล์/ชม.) ได้ภายในเวลา 4.6 วินาที ในระยะทางเพียง 117 เมตร นอกจากนี้ เครื่องยนต์ยังเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพอื่นๆอีกมากมายนอกจากความเร็ว เนื่องจากสามารถประหยัดพลังงานได้อย่างดีเยี่ยม กินน้ำมันเพียง 10.7 ลิตร/กม. และปล่อยไอเสีย 249 กรัม/กม. ตามมาตรฐานของ New European Driving Cycle (NEDC)

     แมคลาเรนคือผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ รถยนต์ทุกรุ่นสำหรับวิ่งบนท้องถนนทุกคัน ที่ผลิตหลังจากที่แมคลาเรนสร้างรถแข่งฟอร์มูล่า1 ในปี ค.ศ. 1993 ล้วนมีโครงช่วงล่างเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งถูกนำมาใช้ใน นิว แมคลาเรน 720เอส โดยเป็นสถาปัตยกรรมโครงสร้างซึ่งใช้ “ถัง” คาร์บอนไฟเบอร์และโครงสร้างส่วนบนรุ่นใหม่ นั่นคือ McLaren Monocage II เทคโนโลยีนี้ทำให้โครงสร้างน้ำหนักเบามีความแข็งตึงและความคงตัวสูงสุด และเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการสร้างสรรค์รถยนต์ระดับซูเปอร์คาร์ โดยมีการใช้อะลูมิเนียมอัลลอยด์หลายจุดในส่วนโครงช่วงล่าง รวมไปถึงส่วนโครงตัวถังเช่นกัน

     ทั้งระบบการควบคุม Proactive Chassis Control รุ่นใหม่ของแมคลาเรน ระบบกันสะเทือนรุ่นใหม่ และระบบพวงมาลัยไฟฟ้าไฮดรอลิกอันยอดเยี่ยมของแมคลาเรน สามารถทำงานสอดประสานกันอย่างลงตัว ช่วยเพิ่มการยึดเกาะ การทรงตัว และสมรรถนะถึงขีดสุด พานักขับพุ่งทะยานไปด้วยความเร็วและแรงเหนือใคร

     การตกแต่งห้องโดยสารภายใน แมคลาเรน 720เอส มอบความหรูหราด้วยวัสดุหนังแท้ชั้นเลิศและชิ้นส่วนอะลูมิเนียม ซึ่งสอดรับกับอินเตอร์เฟซแสดงผล McLaren Driver Interface รูปแบบใหม่ ซึ่งมีทั้งจอแสดงผลแบบ Folding Driver Display และ Central Infotainment Screen  นอกจากนี้ ห้องโดยสารยังถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับซูเปอร์คาร์ ทั้งแง่ของวิสัยทัศน์ พื้นที่ใช้สอย และความสะดวกสบาย ซึ่งทำให้ แมคลาเรน 720เอส  คือยานยนต์เพื่อการขับขี่อันไร้ที่ติและครองตำแหน่งซูเปอร์คาร์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในปัจจุบัน

     ผู้สนใจสามารถสั่งจอง แมคลาเรน 720เอส ได้แล้ววันนี้ที่ผู้แทนจำหน่ายแมคลาเรน โดยมีกำหนดส่งมอบรถยนต์งวดแรกในเดือนพฤษภาคมนี้ นำเสนอสเปคเครื่องยนต์ถึง 3 แบบ พร้อมออพชั่นการตกแต่งทั้งแบบเพอร์ฟอร์มานซ์ (Performance) และแบบลักชัวรี่ (Luxury) นอกเหนือจากแบบมาตรฐาน พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งตามครบครันตามออพชั่นที่เลือก หากต้องการข้อมูลโดยละเอียด กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์  www.bangkok.mclaren.com/

ข้อมูลด้านเทคนิค แมคลาเรน 720เอส (McLaren 720S)

Engine configuration
M840T engine, 4.0-litre ทวินเทอร์โบ V8, 3,994 ซีซี
ระบบขับเคลื่อน
เครื่องยนต์กลางลำแนวยาว, RWD
พละกำลัง
720 แรงม้า (710 bhp /537 kW) @ 7,500 รอบต่อนาที
แรงบิด
770 นิวตันเมตร (568) @ 5,500 รอบต่อนาที
ระบบขับเคลื่อน   
7 Speed SSG
ระบบกันสั่นสะเทือน
แดมเปอร์อิสระ, ปีกนกคู่, Proactive Chassis Control II (PCC II)
เบรก
แผ่นคาร์บอนเซรามิค (หน้า: 390 มม. หลัง: 380 มม.)
ล้อ (นิ้ว)
หน้า: 9J x 19; หลัง: 11J x 19
ประเภท
หน้า: 245/35/R19 93Y (XL); หลัง: 305/30/R20 103Y (XL)
ความยาว
4,543 มม. (179 นิ้ว)
ฐานล้อ
2,670 มม. (105 นิ้ว)
ความสูง
1,196 มม. (47 นิ้ว)
ความกว้างกับกระจก
2,161 มม. (85 นิ้ว)
ความกว้างกับกระจกพับ
2,059 มม. (81 นิ้ว)
ความกว้าง
1,930 มม. (76 นิ้ว)
น้ำหนักแห้งพร้อมตัวเลือกน้ำหนักเบา   
1,283 kg (2,828.5 lbs)
น้ำหนักDIN Kerb
1,419 kg (3,128 lbs)
ความจุ
หน้า: 150l; หลัง: 210l

ข้อมูลสมรรถนะ*

ความเร่ง
0 -60 ไมล์ต่อชั่วโมง
2.8 วินาที
0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง)
2.9 วินาที
0-200 กม./ชม. (0-124 ไมล์ต่อชั่วโมง)
7.8 วินาที
0-300 กม./ชม. (0-186 ไมล์ต่อชั่วโมง)
21.4 วินาที
0-400 เมตร / ¼ ไมล์
10.3 วินาที
ความเร็วสูงสุด
341 กม./ชม. (212 ไมล์ต่อชั่วโมง)
การเบรก 200 – 0 กม./ชม. (124 ไมล์ต่อชั่วโมง – 0)
4.6 วินาที/117 เมตร
การเบรก 100 – 0 กม./ชม. (62 ไมล์ต่อชั่วโมง – 0)

2.8 วินาที/29.7 เมตร

อัตราการเผาพลาญเชื้อเพลิง
การปล่อยก๊าซ CO2 [NEDC]
249 กรัม/กม.
อัตราการเผาพลาญเชื้อเพลิง– EU mpg (l/100 กม.)
การบริโภคน้ำมันโดยรวม
Urban
Extra urban

10.7 l /100 กม.
15.8 l /100 กม.
7.9 l /100 กม.
** อ้างอิง MPG (UK/US) not yet available.

     ติดตามข่าวสารได้ที่
Media website: www.bangkok.mclaren.com/
Facebook: www.facebook.com/mclarenautomotive
            : www.facebook.com/McLarenTH
You Tube: www.youtube.com/mclarenautomotivetv

     หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับนิชคาร์กรุ๊ป กรุณาติดต่อ 02-321-1111 / 086-338-8820  โชว์รูมเปิดบริการทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.30 น.