สัมผัสยานยนต์สมรรถนะขั้นสุดยอด แลมโบร์กินี ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต สุดยอดซูเปอร์คาร์รุ่นล่าสุด จากแบรนด์กระทิงดุ เผยโฉมในเมืองไทยครั้งแรก ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38
- นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด จัดแสดงแลมโบร์กินี ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเตที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 วันที่ 27-29 มีนาคม 2560 ที่บูท A15 เท่านั้น
- เปิดตัวครั้งแรกในโลก เมื่อเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมางานGeneva Motor Show 2017
- นำเสนอนวัตกรรมอากาศพลศาสตร์รุ่นใหม่ “Aerodinamica Lamborghini Attiva (ALA)” มอบสมรรถนะขั้นสูงสุดทั้งบนถนนและในสนามแข่งขัน
- สร้างสถิติใหม่ในการแข่งขันต่อรอบ ที่สนามเนือร์บูร์กริง นอร์ดชไลเฟอ ประเทศเยอรมนี ด้วยเวลา 6:52.01 นาที
- เทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์ขึ้นรูปแบบพิเศษ ลดน้ำหนักตัวรถได้มากถึง 40 กิโลกรัม พร้อมมอบโซลูชั่นส์การยกระดับด้านเทคนิคอีกมากมาย
- เครื่องยนต์แบบนำอากาศเข้าโดยธรรมชาติรุ่น 5.2 l V10 ให้แรงบิดสูงขึ้นและกำลังเครื่องถึง 640 แรงม้า
- เร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดมากกว่า 325 กม./ชม.
- ด้วยสมรรถนะขั้นสูงสุดและความสำเร็จในสนามแข่งขันระดับโลก จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมน
กรุงเทพฯ 28 มีนาคม 2560 – ออโตโมบิลี แลมโบร์กีนี เผยโฉมสุดยอดยานยนต์ทรงพลังรุ่นใหม่ล่าสุดสัญชาติอิตาลี แลมโบร์กินี ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต (Lamborghini Huracán Performante) ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ซึ่งจัดขึ้นที่ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 9 เมษายน 2560 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี โดยก่อนหน้านี้ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่งานเจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ และงานเอ็กซ์คลูซีฟพรีวิวของ นิช คาร์ กรุ๊ป ผู้นำเข้ารถยนต์ระดับซูเปอร์คาร์ในกรุงเทพฯ เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม “Reach To The Planet Of Technology” เพื่อสื่อถึงการเฉลิมฉลองความล้ำหน้าทางวิทยาการและนวัตกรรมยานยนต์สมัยใหม่ เช่นเดียวกับ แลมโบร์กินี ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ซึ่งมอบสมรรถนะและขุมพลังที่เหนือระดับ ผสานกับเทคโนโลยีโครงสร้างน้ำหนักเบา ระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง พร้อมระบบวัดเวกเตอร์อากาศและโครงตัวถังแบบใหม่ล่าสุด มอบขุมพลังด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่สมบูรณ์แบบ และระบบส่งกำลังเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่เปี่ยมประสิทธิภาพสูงสุด
แลมโบร์กินี ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต คือความสำเร็จจากการคิดค้นนวัตกรรมของแลมโบร์กินี ในการสร้างสรรค์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่มอบความสมดุลระหว่างการทำเวลาต่อรอบที่ดีเยี่ยมในสนามแข่ง และประสบการณ์การขับขี่แบบไดนามิกบนท้องถนนที่ผสานนักขับเป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์ นอกจากนี้ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ยังสร้างสถิติใหม่ของรถแข่งผลิตใหม่ด้วยเวลาการแข่งขันต่อรอบที่ 6:52.01 นาที ในการแข่งขันเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา ณ สนามเนือร์บูร์กริง นอร์ดชไลเฟอ ประเทศเยอรมนี
สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 9 เมษายน 2560 นี้ จะเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมงานเวลา 12.00 – 22.00 น. ในวันธรรมดา และเวลา 11.00 – 22.00 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ โดย นิช คาร์ กรุ๊ป กำหนดจัดงานรอบวีไอพีในวันที่ 27 มีนาคม 2560 และรอบสื่อมวลชนในวันที่ 28 มีนาคม 2560
วิศวกรรมโครงสร้างน้ำหนักเบา
ตัวถังของ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ผลิตจากอะลูมิเนียมไฮบริดและโครงคาร์บอนไฟเบอร์ ด้วยกระบวนการหล่อขึ้นรูปแบบคอมโพสิต (Forged Composite) ลิขสิทธิ์ของแลมโบร์กินีที่คว้ารางวัลด้านการผลิตมาแล้ว ซึ่งกระบวนการหล่อขึ้นรูปแบบคอมโพสิตใช้ชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ในสารเรซิ่น ทำให้สามารถสร้างโครงน้ำหนักเบาซึ่งมีรูปทรงเรขาคณิตที่มีความซับซ้อนเหนือกว่าการใช้วัสดุคอมโพสิตคาร์บอนไฟเบอร์แบบเดิมๆ โดยที่ยังคงคุณสมบัติความแข็งตึงไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ยานยนต์ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ใช้กระบวนการหล่อขึ้นรูปคอมโพสิตในหลายส่วนของโครงสร้าง ทั้งส่วนสปอยเลอร์หน้าและหลัง ฝากระโปรงห้องเครื่อง กันชนหลัง และตัวดิฟฟิวเซอร์แอร์โรไดนามิค ซึ่งช่วยลดน้ำหนักรถได้มากถึง 40 กิโลกรัม
ระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง - Aerodinamica Lamborghini Attiva (ALA)
ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ใช้ระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูงแบบ Aerodinamica Lamborghini Attiva (ALA) ซึ่งตัวย่อ ALA มาจากภาษาอิตาเลี่ยนแปลว่าปีก โดยระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูงซึ่งจดสิทธิบัตรนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยแลมโบร์กินี สำหรับรถยนต์รุ่นเพอร์ฟอร์แมนเตโดยเฉพาะ เพื่อมอบความสามารถในการแปรผันโหลดอากาศขั้นสูง เพื่อให้เกิดแรงกดอากาศสูงบนตัวรถและลดแรงกระชากของรถเมื่อทำการเร่ง
ระบบต่างๆ ถูกติดตั้งให้ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์ได้อย่างแนบเนียนทั้งในแง่ดีไซน์ น้ำหนัก และสมรรถนะ สปอยเลอร์หน้าผลิตจากโครงคาร์บอนหล่อขึ้นรูป ติดชิ้นส่วนปลายปีกแบบแอ็คทีฟส่วนบนด้านนอก และติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าของระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง ALA สำหรับส่วนหน้ารถ สำหรับฝากระโปรงหลังได้รับการออกแบบให้กลมกลืนกับท่อดักอากาศไปจนถึงส่วนปีกหลังและแท่นยึดปีกอย่างสวยงาม
เครื่องตรวจวัดพิเศษ Piattaforma Inerziale (LPI) ของแลมโบร์กินี ทำหน้าที่ควบคุมระบบไฟฟ้าทั้งหมดของตัวรถแบบเรียลไทม์และทำงานผสานเป็นหนึ่งเดียวกับส่วนปลายปีกของระบบ ALA โดยสามารถตอบสนองได้ภายในเวลาเพียง 500 มิลลิวินาที จึงรับประกันได้ว่า ระบบนี้จะมอบค่าอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุดที่เหมาะสมกับตัวรถมากที่สุดในทุกสภาพการขับขี่
เมื่อปิดระบบอากาศพลศาสตร์ ALA ชิ้นส่วนปลายปีกภายในสปอยเลอร์หน้าจะปิดลง ก่อให้เกิดแรงกดอากาศบนตัวรถมากในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงซึ่งต้องการการเบรกที่เต็มประสิทธิภาพ เมื่อเปิดระบบอากาศพลศาสตร์ ALA ชิ้นส่วนปลายปีกภายในสปอยเลอร์หน้าก็จะถูกเปิดด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า เพื่อช่วยลดแรงกดอากาศของสปอย
เลอร์หน้าและบังคับทิศทางลมให้ไหลผ่านเข้าช่องด้านใน ไปยังใต้ท้องรถที่ถูกออกแบบให้มีรูปทรงพิเศษ การทำงานนี้ จะช่วยลดแรงต้านอากาศและเพิ่มประสิทธิภาพการเร่งเครื่องและการไต่ให้ถึงระดับความเร็วสูงสุด
ส่วนท้ายของฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ติดตั้งท่อดักอากาศ 4 ท่อด้านล่างฝาครอบหลัง โดยสองท่อกลางจะเปิดอยู่ตลอดเวลาเพื่อช่วยในการระบายอากาศพื้นที่ใต้ฝาครอบและทำให้ท่อไอเสียเย็นลง ส่วนสองท่อด้านนอกจะเชื่อมต่อกับช่องลมภายในปีกหลัง โดยอากาศที่ไหลผ่านช่องลมในปีกหลังจะถูกควบคุมโดยปลายปีกที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งระบบทั้งหมดนี้มีน้ำหนักเบากว่าระบบไฮดรอลิกแบบเดิมถึง 80%
เมื่อปิดระบบอากาศพลศาสตร์ ALA ชิ้นส่วนปลายปีกหลังจะปิดลง ทำให้ปีกหลังทำหน้าที่เสมือนปีกหลังติดตายแบบดิม ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในขณะขับขี่ความเร็วสูงและต้องการการเบรกที่เต็มประสิทธิภาพ ด้วยการสร้างแรงกดอากาศสูงสุดลงบนตัวรถ ซึ่งมีปริมาณมากกว่ารุ่นฮูราคาน คูเป้ ถึง 750%
เครื่องตรวจวัดพิเศษ LPI จะเปิดระบบ ALA เมื่อลิ้นบังคับอากาศถูกยกสูง เพื่อเปิดปลายปีกหลังให้อากาศไหลผ่านช่องลมในปีกหลังและบังคับให้ลมไหลผ่านขอบใต้ปีก การทำงานนี้ช่วยลดแรงต้านอากาศและเพิ่มประสิทธิภาพการเร่งเครื่องและประสิทธิภาพการไต่ความเร็วสูงสุด
นอกจากนี้ ช่องลมในปีกหลังมีการแยกเป็นส่วนซ้ายและขวา เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพเวกเตอร์อากาศในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง เครื่องตรวจวัดพิเศษ LPI จะควบคุมระบบ ALA ให้เปิดไปทางด้านซ้ายหรือขวาของสปอยเลอร์โดยขึ้นอยู่กับทิศทางการเลี้ยว เพื่อเพิ่มแรงกดอากาศบนตัวรถและแรงฉุดที่ล้อด้านใน ซึ่งช่วยลดการถ่ายน้ำหนักหากรถเกิดการพลิกตัว การทำงานนี้ยังช่วยเพิ่มแรงเฉื่อยของตัวถังรถ จึงลดมุมการหักพวงมาลัยและเพิ่มความเสถียรของตัวรถโดยรวมในขณะขับเคลื่อน
การออกแบบ
ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต นำเสนอแบบฉบับของสายพันธุ์แลมโบร์กินีด้วยดีไซน์ที่สื่อถึงความเป็นเลิศแห่งยนตกรรมในทุกมุมมอง ทั้งในด้านสมรรถนะและเทคโนโลยี ราวกับผลงานศิลปะเชิงเทคนิคชั้นสูง
การออกแบบ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ได้รับแรงบันดาลใจจากการใช้เส้นสายที่เรียบง่าย ซึ่งสื่อถึงประสิทธิภาพขั้นสูงของรถแข่งแลมโบร์กินี ซูเปอร์ โทรฟิโอ โดยเฉพาะในส่วนท้ายที่ให้ความรู้สึกเหมือนมอเตอร์ไซด์สมรรถนะสูงที่ไร้เครื่องตกแต่ง เผยให้เห็นโครงรถอย่างไร้สิ่งปกปิด ประหนึ่ง “นักสู้ตัวจริงในสนาม” ที่แสดงออกให้ทุกคนประจักษ์ถึงความสามารถและสมรรถภาพอย่างชัดเจน
เหนือสิ่งอื่นใด ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต เน้นการออกแบบที่เอื้อต่อการทำงานของระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง ALA และโครงสร้างน้ำหนักเบาซึ่งผสานเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างไร้ที่ติ กระบวนการหล่อขึ้นรูปแบบคอมโพสิตที่ให้ความแวววาวและสามารถขึ้นรูปชิ้นส่วนแต่ละชิ้นได้อย่างอิสระ ยังถูกนำมาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนของระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง ALA อีกด้วย ซึ่งการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สีดำทั้งผิวมันวาวและผิวด้านช่วยเพิ่มมิติความแตกต่างกับโทนสีด้านของตัวรถได้อย่างดงาม
ส่วนหน้ารถได้รับการออกแบบให้สวยงามเฉียบคมราวกับรถแข่ง พร้อมการออกแบบช่องลมเข้าและสปลิตเตอร์ที่โดดเด่นสะดุดตา ดูคล้ายกับเขี้ยวของอสรพิษที่พร้อมพุ่งฉกศัตรูอย่างรวดเร็ว สำหรับสปอยเลอร์หน้าแบบแอ็คทีฟแอร์โรไดนามิค มอบความสวยงามด้วยวัสดุหล่อแบบคอมโพสิต ส่วนกันชนหลังไม่มีตะแกรง เพื่อลดน้ำหนัก เพิ่มสมรรถนะ และสร้างลุคแบบสปอร์ตที่คล่องตัว
ฝาครอบเครื่องยนต์ซึ่งใช้วัสดุหล่อแบบคอมโพสิตช่วยเน้นให้เห็นถึงโครงสร้างน้ำหนักเบา โดยช่องลมเข้าถูกติดตั้งให้กลมกลืนไปกับฝาครอบเพื่อให้เกิดการไหลลื่นของอากาศไปยังท่ออากาศในปีกหลัง และถ่ายเทลมเย็นไปสู่เครื่องยนต์ โดยตัวเครื่องด้านในหุ้มด้วยวัสดุ Plexiglas ขุมพลังเครื่องยนต์วี 10 หุ้มด้วยทองแดง ซึ่งเหมือนกับเครื่องยนต์รุ่นพิเศษอื่นๆ ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่สืบทอดกันมาของยานยนต์แลมโบร์กินี ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์และเร่งกำลังเครื่องให้สูงขึ้น
การออกแบบส่วนท้ายรถได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง ใช้โครงคาร์บอนไฟเบอร์ขนาดใหญ่และวัสดุหล่อแบบคอมโพสิตเพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ โดยทั้งปีกหลังและท่อลมเข้าถูกผลิตขึ้นเป็นชิ้นเดียวกันด้วยเทคโนโลยีการหล่อขึ้นรูปแบบคอมโพสิต
ท่อไอเสียแบบยกสูงของ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ช่วยเสริมลุคแบบสปอร์ตที่มอบความปราดเปรียวเช่นเดียวกับมอเตอร์ไซค์สปอร์ตที่พุ่งทะยานในสนามแข่ง ทั้งยังมีความสอดคล้องกับการวางตำแหน่งเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี ดิฟฟิวเซอร์หลังเป็นผิวสีดำด้านซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งแลมโบร์กินี ซูเปอร์ โทรฟิโอ ทั้งในด้านรูปลักษณ์และการทำงาน แนวเส้นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูจากด้านล่างของดิฟฟิวเซอร์ซึ่งเป็นวัสดุหล่อคอมโพสิต ช่วยให้ส่วนท้ายของรถดูขยายใหญ่ ซึ่งมีประโยชน์ทั้งในเชิงเทคนิคยานยนต์และมอบรูปทรงแนวสปอร์ตที่เด่นสะดุดตา
เมื่อมองจากด้านข้าง ดีไซน์ของ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ให้ความรู้สึกถึงการพุ่งทะยานจากเส้นสายของชิ้นส่วนฝาครอบลิ้นที่มาพร้อมช่องลมเข้าในโทนสีดำด้าน ส่วนประตูใช้ 3 เฉดสีในสไตล์ ซังอกาตา โบโลนเญส อันเป็นแหล่งกำเนิดของแบรนด์แลมโบร์กินี ติดตั้งกระจกมองข้างในเฉดสีดำแวววาว ส่วนล้อน้ำหนักเบารุ่น Narvi 20 นิ้ว ที่ผลิตเพื่อ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต โดยเฉพาะ ทำเป็นสีบรอนซ์เพื่อความเท่ล้ำไม่เหมือนใคร
ระบบส่งกำลังและสมรรถนะเครื่องยนต์
เครื่องยนต์รุ่นปรับปรุงใหม่ของฮูราคานที่มอบความกระหึ่มอย่างเป็นธรรมชาตินี้ เป็นเครื่องยนต์รุ่น วี10 อันทรงพลังซึ่งผลิตโดยแลมโบร์กินี มอบกำลังขับเคลื่อนสูงถึง 640 แรงม้า (470 กิโลวัตต์) ที่ 8,000 รอบ/นาที ด้วยแรงบิดถึง 600 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ/นาที พลังการขับเคลื่อนที่โดดเด่นนี้เกิดจากระบบท่อทองแดงรวมรุ่นใหม่ ซึ่งใช้ในเครื่องยนต์ของรถรุ่นพิเศษก่อนหน้านี้ อย่าง ดิอาโบลรุ่นฉลองครบรอบ 30 ปี
ระบบส่งกำลังรุ่นใหม่ของ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต เกิดจากการนำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยหลายรูปแบบมาใช้ ซึ่งรวมถึงผลงานจากโปรแกรมการพัฒนายานยนต์สำหรับกีฬามอเตอร์สปอร์ตของแลมโบร์กินีด้วย โดยระบบพลศาสตร์ของไหลในเครื่องยนต์ทั้งท่ออากาศเข้าและท่อไอเสียได้ถูกปรับปรุงใหม่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้ระบบท่ออากาศเข้าของเครื่องยนต์ วี10 พร้อมยกระดับการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้เกิดการสูญเสียแรงน้อยที่สุด ส่วนวาล์วไทเทเนียมรุ่นใหม่ยังช่วยเพิ่มระดับการปิดเปิดให้สูงขึ้น เสริมประสิทธิภาพการไหลของอากาศภายในเครื่องยนต์ และส่งผลให้สมรรถนะการขับขี่สูงขึ้น
ระบบท่อไอเสียถูกออกแบบใหม่เพื่อลดภาระน้ำหนักและลดแรงกดที่ส่วนท้ายของรถยนต์ โดยท่อไอเสียทั้งหมดถูกวางตำแหน่งให้สูงขึ้นและอยู่ตรงกลางตัวรถมากขึ้น เพื่อมอบเสียงที่กระหึ่มยิ่งกว่าเมื่อขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงเพื่อให้ก้องกังวานไปทั่วสนามแข่ง
เครื่องยนต์อันทรงพลังเพิ่มแรงบิดให้สูงสุด ซึ่งมากกว่าเดิม 70% ของแรงบิดที่ 1,000 รอบ/นาที ติดตั้งมาพร้อมกับระบบส่งกำลังคลัทช์คู่แบบ 7 สปีดของแลมโบร์กินี เพื่อให้เหมาะสมกับยานยนต์สมรรถนะสูง
ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต มีน้ำหนักรถเปล่าเพียง 1,382 กก. ทำให้มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังที่ 2.16 กก. และมีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักระหว่างหน้าและหลังที่ 43/57% สามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ใน 8.9 วินาที และสามารถหยุดรถจากความเร็ว 100-0 กม./ชม. ในระยะ 31 เมตรเท่านั้น
โครงตัวถังและการตั้งค่า
ระบบกันสะเทือนของ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพใหม่เพื่อสร้างสรรค์ยานยนต์ที่เป็นเลิศในสนามแข่งและเปี่ยมด้วยสมรรถนะสูงสุด โดยระบบกันสะเทือนได้รับการเสริมความแข็งตึงของสปริงแนวดิ่งมากกว่ารุ่นฮูราคาน คูเป้ 10% ทั้งด้วยการใช้สปริงและแถบเสริมแรง รวมถึงเสริมความแข็งตึงของสปริงป้องกันรถเอียง 15% ตลอดจนอุปกรณ์บุชยางกันกระแทกทั้งแบบวงแหวนและแบบก้านก็ได้รับการปรับปรุงคุณภาพขึ้น 50% ทำให้สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ด้านข้างของตัวรถได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ระบบช่วงล่างแบบปีกนกคู่ทั้งด้านหน้าและด้านท้ายทำหน้าที่เป็นตัวหน่วงรับการสั่นสะเทือน พร้อมออพชั่นระบบกันสะเทือนแบบ Magneto Rheological Suspension ซึ่งทั้งสองระบบ ทั้งการกันสะเทือนแบบ Passive และ Active ล้วนได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับการควบคุมตัวรถและล้อ โดยเฉพาะเมื่อวิ่งอยู่ในสนามแข่ง
พวงมาลัยเพาเวอร์ระบบไฟฟ้านำเสนอเป็นออพชั่นมาตรฐาน โดยสามารถเลือกเปลี่ยนเป็นระบบพวงมาลัยแบบ Lamborghini Dynamic Steering (LDS) ได้ ซึ่งทั้งพวงมาลัยระบบไฟฟ้าและระบบ LDS ของ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ได้รับการปรับแต่งค่าใหม่ทั้งหมด เพื่อมอบการควบคุมที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพทั้งใน 3 โหมดการขับขี่ ซี่งได้แก่ Strada, Sport และ Corsa โดยในโหมด Corsa ซึ่งออกแบบมาเพื่อการขับขี่ความเร็วสูงในสนามแข่ง พวงมาลัยจะมอบสัมผัสการควบคุมเสมือนนักขับกำลังแข่งขัน โดยลดความแปรผันของอัตราทดพวงมาลัยลงอย่างมีนัยสำคัญ
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อได้รับการปรับแต่งใหม่เพื่อเพิ่มแรงฉุดให้สูงสุดในทุกสภาวะการขับขี่ โดยทำงานร่วมกับระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง ALA และยาง P Zero Corsa ของ Prerelli รุ่นใหม่ล่าสุด นอกจากนี้ ระบบควบคุมการทรงตัว ESC ก็ถูกปรับแต่งค่าใหม่เพื่อให้เกิดการควบคุมที่ราบรื่นและรบกวนการขับขี่น้อยที่สุด
สำหรับระบบ ANIMA ของแลมโบร์กินี ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมโหมดการขับขี่และเพิ่มประสิทธิภาพการตั้งค่าทั้งหมดของตัวรถ ได้ถูกปรับปรุงใหม่เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นในทุกโหมดทั้ง Strada, Sport และ Corsa โดยเฉพาะในโหมด Strada จะให้ความสำคัญกับแรงฉุดและความเสถียรเป็นอันดับแรก ส่วนโหมด Sport จะส่งพลังการขับขี่ส่วนใหญ่มาจากล้อหลัง และเพิ่มความไวในการหักเลี้ยวและการดริฟท์ที่ง่ายดายยิ่งขึ้น สำหรับโหมด Corsa จะเน้นการขับขี่ด้วยความเร็วสูงและการควบคุมเพื่อมอบสมรรถนะสูงสุดในสนามแข่ง
ระบบล้อและเบรก
ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบถาวร Haldex ของแลมโบร์กินีรุ่นที่ 5 ซึ่งควบคุมด้วยไฟฟ้าทั้งหมด พร้อมเฟืองท้ายแบบ Mechanical Self-Locking
ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ใช้ล้อน้ำหนักเบาสีบรอนซ์รุ่น Narvi 20 นิ้วที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะ โดยสามารถเลือกเปลี่ยนเป็นล้อรุ่น Loge 20 นิ้วพร้อมเซ็นทรัลล็อคได้ รวมถึงยังใช้ยางรุ่น Pirelli P Zero Corsa ที่ผลิตเพื่อ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต โดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มสมรรถนะการยึดเกาะพื้นผิวสนามแข่งทั้งในขณะเปิดและปิดระบบอากาศพลศาสตร์ ALA และมอบประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุดบนท้องถนน นักขับ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ยังสามารถเลือกออพชั่นยางสมรรถนะสูงเพื่อสนามแข่งรุ่น Pirelli Trofeo R ที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพบนท้องถนนแล้ว
นอกเหนือจากอัตราเร่งที่แรงสุดใจและความเร็วสูงสุดอันน่าทึ่ง ฮูราคาน เพอร์ฟอร์มแมนเต ยังมาพร้อมระบบเบรกที่ตอบสนองได้อย่างฉับไว มอบการหยุดรถที่ราบรื่นและต่อเนื่อง ด้วยจานเบรกคาร์บอนเซรามิกแบบเจาะรูระบายความร้อน ระบบไฮดรอลิกแบบวงจรคู่และเซอร์โวยูนิตของเบรกสุญญากาศใช้คาลิเปอร์เบรก 6 ลูกสูบด้านหน้าและคาลิเปอร์เบรก 4 ลูกสูบด้านหลัง ส่วนระบบ ABS ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพใหม่และเพิ่มการตอบสนองต่อการเหยียบเบรกให้ดียิ่งขึ้นเมื่อผสานกับการใช้ยางรุ่น P Zero Corsa
ห้องโดยสารภายใน
การตกแต่งห้องโดยสารภายในของ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต ทำให้นักขับสัมผัสได้ถึงความเบาของโครงสร้างและประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์อย่างชัดเจน ทั้งช่องอากาศ แกนควบคุม มือจับประตู และคอนโซลกลาง ล้วนผลิตจากวัสดุหล่อคอมโพสิต และกรุพื้นผิวภายในห้องโดยสารทั้งหมดด้วยผ้า Alcantara เฉดเข้มขรึมเพื่อเสริมลุค
ของสุดยอดรถแข่งน้ำหนักเบา รวมถึงใช้เบาะนั่งแบบสปอร์ต พร้อมออพชั่นลายกราฟิกตัววาย “Y” ที่สวยงาม หรือสามารถเลือกเบาะนั่งที่เน้นความสบายมากกว่าด้วยวัสดุที่หรูหราในแบบเดียวกัน
เมื่ออยู่ในห้องโดยสาร นักขับจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแห่งการพุ่งทะยาน ไม่เพียงจากสมรรถนะของรถเท่านั้น แต่ยังเห็นได้จากลายกราฟิก ALA แบบพิเศษบนการแสดงผลบนแผงหน้าปัด ที่จะบอกสถานะ การทำงานของระบบ ALA ทั้งในขณะเปิดและปิดอยู่เสมอ รวมถึงการคำนวณค่าเวกเตอร์อากาศด้วย
การแสดงผลแบบดิจิทัลรูปแบบใหม่ของ ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต จะถูกคำนวณค่าโดยขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ที่นักขับเลือก ทั้ง Strada, Sport หรือ Corsa รวมถึงการแสดงข้อมูลระบบอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง ALA ซึ่งจะบอกทั้งแรงกดอากาศและแรงต้านอากาศ การออกแบบระบบห้องโดยสารแบบใหม่ยังสนับสนุนการใช้งาน Apple CarPlay และแอพลิเคชันของ iPhone รวมถึงการวัดและส่งข้อมูลระยะไกลของแลมโบร์กินี ซึ่งทำให้นักขับสามารถบันทึก เล่นซ้ำ และเรียนรู้ประสิทธิภาพการขับขี่ของตนเองได้
นอกจากนี้ Lamborghini Ad Personam Program ยังมอบโอกาสให้เจ้าของรถฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต สร้างสรรค์รูปแบบการตกแต่งให้สะท้อนภาพลักษณ์และตัวตนได้อย่างไร้ขีดจำกัดที่ Lamborghini Autobobili S.p.A. ที่ Santa’Agata
ข้อมูลด้านเทคนิค - แลมโบร์กินี ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต
โครงสร้างและตัวถัง
กรอบ อลูมิเนียม ไฮบริด และ คาร์บอนไฟเบอร์
ตัวถัง ผิวด้านนอก ทำจาก อลูมิเนียม และ วัสดุผสม
ระบบกันสั่นสะเทือน ระบบกันสะเทือนอิสระ อลูมิเนียม แบบปีกนกคู่
สปริงและแดมเปอร์ สปริงเหล็ก และแดมเปอร์ไฮดรอลิก มีออพชั่นแม่เหล็กไฟฟ้า MagneRide damper
control ให้เลือกเสริม
ESC สามารถปรับ ESC/ABS ด้วยระบบ ANIMA
สามารถปิด ESC ได้
พวงมาลัย พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า และยังมีออพชั่น Lamborghini Dynamic Steering (LDS) ที่
เป็นการบังคับเลี้ยวแบบแปรผัน
เบรก ระบบเบรกแบบสองวงจรไฮดรอลิก พร้อมหม้อลมเบรกสุญญากาศ ลูกสูบอลูมิเนียม 6
ตัวที่ด้านหน้า และ 4 ตัวที่ด้านหลัง
ดิสก์เบรก ดิสก์เบรกคาร์บอนเซรามิก
ยาง (มาตรฐาน) หน้า Pirelli Pzero 245/30 R20
หลัง Pirelli Pzero 305/30 R20
ล้อ (มาตรฐาน) หน้า 8.5J x 20"
หลัง 11J x 20"
กระจก กระจกมองข้างควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
ถุงลม ถุงลมขนาดใหญ่คู่หน้า
ถุงลมนิรภัยด้านข้างขนาดใหญ่ ถุงลมเข่า ในตลาดเฉพาะ
ถุงลมนิรภัยด้านข้างขนาดใหญ่ ถุงลมเข่า ในตลาดเฉพาะ
เครื่องยนต์
ประเภท Ten-cylinder V, 90°, IDS+MPI dual injection
ความจุเครื่องยนต์ 5.204 ลิตร (317.57 cu in)
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก ∅ 84,5 มม. x 92,8 มม.(3.33 x 3.65 in)
ควบคุมวาล์ว ปรับเปลี่ยนเพลาลูกเบี้ยวรับและปล่อยไอเสียอย่างต่อเนื่อง
อัตราส่วนกำลังอัดเครื่องยนต์ 12.7 : 1
พละกำลังสูงสุด 640 แรงม้า (470 กิโลวัตต์) 8,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร (442 lb. ft.) ที่ 6,500 รอบต่อนาที
ระดับการปล่อยก๊าซ EURO 6 – LEV 3
ระบบควบคุมการปล่อยก๊าซ เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยาด้วยระบบเซ็นเซอร์แลมบ์ดา
ระบบทำความเย็น ระบบทำความเย็นด้วยการไหลผ่านของน้ำและน้ำมัน
ระบบจัดการเครื่องยนต์ Bosch MED 17 Master Slave
ระบบหล่อลื่น ระบบ Dry sump
ระบบทำความเย็น ระบบทำความเย็นด้วยการไหลผ่านของน้ำและน้ำมัน
ระบบจัดการเครื่องยนต์ Bosch MED 17 Master Slave
ระบบหล่อลื่น ระบบ Dry sump
การขับขี่
ประเภท การขับขี่ทุกล้อควบคุมด้วยไฮดรอลิก
(Haldex Gen. V) กลไกควบคุมหลังแบบ self-locking differential
ชุดเกียร์ ระบบคลัตช์คู่ แบบ 7 speed LDF เปลี่ยนแปลงตามโหมดการขับขี่ ANIMA
คลัตช์ แผ่นคลัตช์คู่ ∅ 187 mm (7.36 in)
คลัตช์ แผ่นคลัตช์คู่ ∅ 187 mm (7.36 in)
สมรรถนะ
ความเร็วสูงสุด > 325 km/h
การเร่งเครื่อง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 2.9 วินาที
การเร่งเครื่อง 0-200 กิโลเมตร/ชั่วโมง 8.9 วินาที
การเบรก 100-0 กิโลเมตร/ชั่วโมง 31 เมตร
ขนาด
ฐานล้อ 2,620 มม. (103.15 in)
ความยาวโดยรวม 4,506 มม. (177.4 in)
ความกว้างโดยรวม 1,924 มม. (75.75 in)
(ไม่รวมกระจก )
ความกว้างโดยรวม 2,236 มม. (88.03 in)
(รวมกระจก )
ความสูงโดยรวม 1,165 มม. (45.87 in)
Front track 1,668 มม. (65.67 in)
Rear track 1,620 มม. (63.78 in)
วงเลี้ยว 11.5 เมตร
น้ำหนักแห้ง 1,382 กิโลกรัม (3,047 lb)
น้ำหนัก/อัตราส่วนพลังงาน 2.16 กิโลกรัม/แรงม้า(4.76 lb/CV)
การกระจายน้ำหนักหน้าถึงหลัง 43 % หน้า – 57 % หลัง
ความยาวโดยรวม 4,506 มม. (177.4 in)
ความกว้างโดยรวม 1,924 มม. (75.75 in)
(ไม่รวมกระจก )
ความกว้างโดยรวม 2,236 มม. (88.03 in)
(รวมกระจก )
ความสูงโดยรวม 1,165 มม. (45.87 in)
Front track 1,668 มม. (65.67 in)
Rear track 1,620 มม. (63.78 in)
วงเลี้ยว 11.5 เมตร
น้ำหนักแห้ง 1,382 กิโลกรัม (3,047 lb)
น้ำหนัก/อัตราส่วนพลังงาน 2.16 กิโลกรัม/แรงม้า(4.76 lb/CV)
การกระจายน้ำหนักหน้าถึงหลัง 43 % หน้า – 57 % หลัง
ความจุ
เชื้อเพลิง 83 ลิตร
ถังน้ำมัน 100 ลิตร
อัตราการเผาพลาญเชื้อเพลิง**
Urban 19.6 l/100 กิโลเมตร
Extra-urban 10.3 l/100 กิโลเมตร
การบริโภคน้ำมันโดยรวม 13.7 l/100 กิโลเมตร
การปล่อยก๊าซ CO2 314 กรัม/กิโลเมตร
** อ้างอิง Dir. EC 715/2007
ติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook: www.facebook.com/LamborghiniTH
หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับนิชคาร์กรุ๊ป กรุณาติดต่อ 02-321-1111 / 081 434 7777 โชว์รูมเปิดบริการทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.30 น. หรือเยี่ยมชม https://www.facebook.com/LamborghiniTH