ADS


Breaking News

“BM” แจกปันผลเพิ่ม 0.08 บาท พร้อมขายหุ้นเพิ่มทุน PP ไม่เกิน 40 ล้านหุ้น

“BM” ประกาศจ่ายปันผลอีก 0.08 บาท หลังแจกปันผลระหว่างกาลแล้ว 0.10 บาท โดยกำไรปี 59 อยู่ที่ 59.42 ล้านบาท จากรายได้รวมทะยาน 850 ล้านบาท พร้อมขายหุ้นเพิ่มทุน PP อีก 40 ล้านหุ้น  
นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก ตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า ตู้โลหะ ที่ใช้ตามอาคาร สำนักงาน และผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปอื่นๆ จากโลหะตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงเป็นผู้จำหน่ายท่อร้อยสายไฟฟ้า ภายใต้ตราสินค้า “BSM”, “BM”, “BS” และ “BEST” เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัท มีมติในที่ประชุม อนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดจากกำไรสุทธิปี 2559 และกำไรสะสมในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น สำหรับหุ้นสามัญจำนวน 400 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินรวม 72 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราปันผลจ่าย 127.85% ของกำไรสุทธิปี 2559 หลังจัดสรรกำไรเป็นเงินทุนสำรองตามกฎหมาย โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2559 จึงคงเหลือเงินปันผลที่ต้องจ่ายอีกในอัตรา 0.08 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (วันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD) ในวันที่ 11 เมษายน 2560 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 เมษายน 2560 ทั้งนี้ สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม 850.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.73  ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 5.55% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากสามารถจำหน่ายสินค้าประเภทรางและท่อร้อยสายไฟให้แก่กลุ่มลูกค้าภาคส่วนงานรับเหมาระบบได้เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯ
โดยบริษัทฯ มีต้นทุนขายและบริการในปี 2559 อยู่ที่ 662.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป้น 6.15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจาก บริษัทฯ มีการจ้างพนักงงานฝ่ายผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตของบริษัทฯ ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริการที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่111.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 30.44% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิยู่ที่ 59.42 ล้านบาท ลดลง 8.28 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 12.23% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
    “รายได้หลักของบริษัทฯ ยังคงมาจากการขายรางและท่อร้อยสายไฟฟ้า ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 846.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.93 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 5.60% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ประกอบกับในไตรมาส 3 และ 4 ของปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับคำสั่งผลิตสินค้าหมวดชิ้นส่วนโลหะสำหรับเครื่องจักรกลการเกษตรเพิ่มขึ้น จึงผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ” นายธานิน กล่าว
    นายธานิน กล่าวต่อว่า ในปีนี้บอร์ดฯ มีมติอนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยเป็นการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ไม่เกิน 40 ล้านหุ้น ซึ่งคณะกรรมการบริษัทจะพิจารณากำหนดระยะเวลาเสนอขาย ราคาเสนอขาย และการจัดสรรให้กลุ่มนักลงทุนต่อไปในภายหลัง สำหรับรายได้ในปีนี้ของบริษัทฯ คาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 5-20% และในปีนี้บริษัทฯ จะดำเนินการก่อสร้างอาคารโรงงานหลังใหม่เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตของบริษัทฯ ซึ่งคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในปี 2560
    อย่างไรก็ดี ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเพิ่มรายได้จากการขายได้อย่างต่อเนื่อง จากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับโครงการลงทุนต่างๆ ของทั้งภาครัฐและเอกชนที่กำลังอยู่ในช่วงระหว่างการดำเนินซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้เติบโตยิ่งขึ้น