“มาสเตอร์คูล” ออกพัดลมไอเย็นรุ่นใหม่ ท้าพิสูจน์ความเย็นแบบธรรมชาติ เปิดกลยุทธ์ปี 60 ตั้งเป้าโต 40%
“มาสเตอร์คูล” ท้าพิสูจน์ความเย็นแบบธรรมชาติ ออกพัดลมไอเย็นรุ่นใหม่รูปลักษณ์ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคหลายกลุ่ม ลดอุณภูมิได้สูงสุด 15 องศา ประหยัดค่าไฟกว่าแอร์ ถึง 10 เท่า วางแผนขยายช่องทางจำหน่ายรีเทลเพิ่ม 100% เจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ คาดปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 40%
นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL ผู้ผลิตและจำหน่ายพร้อมให้เช่า พัดลมไอน้ำ-ไอเย็นภายใต้แบรนด์ “มาสเตอร์คูล” เปิดเผยว่า ในวันนี้ (27 ก.พ.60) บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็นรุ่นใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัยและกลุ่มผู้ประกอบการ ได้แก่ รุ่น MIK 09EX, MIK55EX และรูปแบบติดผนัง ซึ่งเป็นพัดลมไอเย็น นวัตกรรมที่ให้ความเย็นแบบธรรมชาติ สามารถลดอุณหภูมิได้สูงสุด 15 องศา ประหยัดกว่าแอร์ 10 เท่า และมีระบบโอโซนฆ่าเชื้อโรคในน้ำ โดยมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ จะเป็นหัวหอกในการทำตลาดสินค้าในกลุ่มเครื่องทำความเย็น ซึ่งแนวคิดในการพัฒนารูปลักษณ์ของพัดลมไอเย็นรุ่นใหม่ บริษัทได้ใช้เทคโนโลยีการออกแบบมุ่งเน้นประสิทธิภาพการให้ความเย็นและประหยัดพลังงาน
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 890 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 50 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นการเติบโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ และในปี 2560 บริษัทวางแผนที่จะทำการตลาดในเชิงรุกครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ ตั้งเป้ายอดขายเติบโตประมาณ 40%
“ผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น จัดเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ยังมีโอกาสเติบโตในตลาดอีกมาก ส่งผลให้มีผู้เล่นเข้ามาในตลาดสำหรับการผลิตสินค้าในกลุ่มนี้มากขึ้น เนื่องจากการทำประสิทธิภาพทำความเย็นได้ดีกว่า พัดลมใบพัดธรรมดา แม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่า แต่กลุ่มผู้บริโภคจะมองและเลือกสินค้าที่ทำให้เกิดความรู้สึกการใช้งาน แล้วเกิดความเย็นที่แท้จริง และประหยัดพลังงาน”นายนพชัย กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 บริษัทได้วางงบประมาณด้านการทำตลาดประมาณ 30 ล้านบาท แบ่งเป็นการทำตลาดในส่วนของบีโลว์เดอะไลน์ (Below the Line) ประมาณ 70% และอะโบฟเดอะไลน์ (Above the Line) ประมาณ 30 % ผ่านการจัดกิจกรรม ณ จุดขาย การสร้างการรับรู้ในตัวผลิตภัณฑ์ การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ และการทำโปรโมชั่นการขายต่างๆ ซึ่งได้มีการเจรจากับพันธมิตรเพื่อเพิ่มช่องทางการการขายที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ยังเข้าไม่ถึง โดยในปีนี้ผุดแคมเปญลมร้อยแลกลมเย็น ซึ่งผู้บริโภคสามารถนำพัดลมเก่า ยี่ห้อหรือขนาดใดก็ได้ มาแลกซื้อพัดลมไอเย็นมาสเตอร์คูล ณ จุดขาย รับส่วนลด 500 บาท ทุกรุ่น ทุกเครื่อง นอกจากนี้ยังมีอีกแคมเปญเอาใจผู้บริโภค มาสเตอร์คูล เย็นสบาย...สบาย 0% ซึ่งผู้บริโภคสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตชั้นนำผ่อนจ่ายพัดลมไอเย็นมาสเตอร์คูล 0 % สูงสุด 10 เดือน
นอกจากนี้ บริษัทได้วางแผนการบริหารจัดการในการผลิตสินค้า เพื่อสะสมสต๊อกให้ทันความต้องการที่จะมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้มีตัวแทนจำหน่ายจำนวนมาก เริ่มมีการสั่งสินค้าเพื่อสะสมสต๊อก เพื่อไม่ให้สินค้าขาดตลาดเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ซึ่งการสั่งสต๊อกครั้งนี้เพื่อรองรับฤดูกาลขายในช่วงหน้าร้อนของปี 2560 ที่จะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป โดยขณะนี้บริษัทได้มีการบริหารคลังสินค้าเพื่อจัดเก็บสต๊อกเป็นที่เรียบร้อย พร้อมการจัดส่งสินค้าให้ทั่วถึงไปยังตัวแทนจัดจำหน่ายทั่วประเทศและในต่างประเทศ รวมไปถึงการขยายช่องทางจัดจำหน่าย ที่ปัจจุบันมี 400 แห่งทั่วประเทศ คาดว่าจะเพิ่มเป็น 800 แห่งทั่วประเทศ ในปี 2560
ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนของรายได้จากการขายในประเทศประมาณ 77 % และส่งออก อยู่ที่ประมาณ 23 % โดยตลาดในประเทศจะเน้นการทำตลาดในช่องทางร้านโมเดิร์นเทรด และค้าปลีก ผ่านตัวแทนจำหน่าย และดีลเลอร์ทั่วประเทศ รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ที่กำลังเป็นที่ตอบรับและเริ่มจะมีการเติบโตมากขึ้น
ส่วนตลาดส่งออก ปัจจุบันมีการทำตลาดไปแล้วกว่า 40 ประเทศ ทั่วโลก ซึ่งในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่ตัวแทนต่างประเทศให้มากขึ้น โดยปีที่ผ่านมาได้มีการเซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติมจากเดิมที่อยู่แล้ว ทั้งในประเทศ เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น อังกฤษ แคนาดา อเมริกา และพม่า รวมไปถึงประเทศอิตาลี ซึ่งประเทศเหล่านี้มีความต้องการสินค้าดีไซน์และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค
สำหรับแนวโน้มและทิศทางของเศรษฐกิจในปีนี้ แม้ว่าจะยังชะลอตัว แต่มั่นใจว่าบริษัทยังมีโอกาสที่จะทำตลาดและเติบโตได้ เนื่องจากบริษัทมีการทำตลาดสินค้าที่ตอบโจทย์มีนวัตกรรมของตนเองและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคอีกทั้ง สภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นในทุกปี นับเป็นโอกาสในการทำการตลาดที่บริษัทมองว่าจะสร้างอัตราการเติบโตได้เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี คาดการณ์มูลค่าตลาดพัดลมไอเย็นในปี 2559 อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยมาสเตอร์คูลยังคงมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 สำหรับมูลค่าตลาดเครื่องทำความเย็นทั้งแอร์ และพัดลม โดยรวมอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าขนาดของตลาดพัดลมไอเย็นน่าจะมีส่วนแบ่งจากตลาดแอร์และพัดลมได้ 10-20% คิดเป็น 3,000-6,000 ล้านบาท ภายในปี 2564