ADS


Breaking News

ตอกย้ำอันดับ 1! ‘Thoth Zocial’ ผนึกกำลัง ‘OBVOC’ ครองตลาดข้อมูลโซเซียล

บริษัท โธธ โซเซียล จำกัด (Thoth Zocial) จับมือบริษัท วันบิต แมทเทอร์ จำกัด (โอบีว็อค “OBVOC”) ประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่ ดำเนินธุรกิจด้านการวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์ การจัดการระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และการวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์เชิงลึก เพื่อครองความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านตลาด ข้อมูลโซเชียล รองรับการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในธุรกิจยุคปัจจุบัน โดยมีบริษัท เอ็น-เวสต์ เวนเจอร์ จำกัด (N-Vest Venture) ฐานะผู้จัดการกองทุน ผู้เป็นตัวแทนธนาคารออมสินและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมลงทุน
นายกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โธธ โซเซียล จำกัด กล่าวว่า “Thoth Zocial และ OBVOC ดำเนินธุรกิจด้านการบริหารจัดการข้อมูลบนโลกโซเซียล ต่างเล็งเห็นโอกาสเติบโตของธุรกิจอย่างก้าวกระโดด ด้วยแนวคิดที่สอดคล้องกันเรื่องของการเล็งเห็นความสำคัญของข้อมูลโซเชียล โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการนำข้อมูลโซเชียลมาเสริมสร้าง และพัฒนาศักยภาพของการวางกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ
  ทั้งนี้การผนึกกำลังจะเพิ่มขีดจำกัดในการพัฒนาสินค้าและบริการอย่างครบวงจร อีกทั้งเพิ่มความสามารถในการพัฒนาเครื่องมือการบริหารจัดการ และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่จากโลกโซเชียล เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาด
Thoth Zocial และ OBVOC เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อมูลโซเซียลมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ และหนึ่งในปัจจัยสำคัญของในการประสบความสำเร็จของธุรกิจภายใต้ภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้นในปัจจุบัน ควรที่จะขับเคลื่อนด้วยข้อมูลโซเซียลที่เราเรียกว่า Social Driven Business   โดยโซเซียลมีเดียเป็นสื่อที่มีอิทธิพลสูงสุดเมื่อเทียบกับสื่อประเภทอื่นๆ เนื่องจากมีผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปรงพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งประเทศไทยมีอัตราการเข้าถึงผู้ใช้งานโซเซียล มากกว่า 50% สังเกตได้จากแอพพลิเคชั่น ยอดนิยม อย่างเช่น Line ที่มียอดผู้ใช้งานเกิน 33 ล้านคน และช่วงเวลาการใช้เฉลี่ยต่อคนต่อวันค่อนข้างสูง หรือ Facebook ที่คาดว่ามีผู้ใช้งานมากถึง 44 ล้านคน ซึ่งเกินครึ่งของประชากรไทย โดยมีอัตราการเติบโตผู้ใช้งานสูงถึง 7% ต่อปี อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมดังกล่าวเกิดกับคนทุกวัย โดยกลุ่มสูงวัยเป็นกลุ่มที่มีอัตราการสมัครใช้งาน  Facebook มากที่สุดถึง 25% ซึ่งจากเดิมคนกลุ่มนี้บริโภคสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์เป็นหลัก
จากตัวอย่างดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น ธุรกิจจึงต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดและช่องทางการสื่อสารแก่ลูกค้า เพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งธุรกิจมีความจำเป็นอย่างยิ่งการวัดประสิทธิภาพสื่อหรือความคุ้มทุนในการลงทุน  โดยโซเชียลเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญในการ วิเคราะห์เชิงลึก เพื่อธุรกิจจะสามารถกำหนดกลยุทธ์ในการทำธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
นายพเนิน อัศววิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันบิต แมทเทอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า “สำหรับกลุ่มเป้าหมายของเรา จะเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยทาง OBVOC มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการตามโจทย์หรือวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของลูกค้า เช่น การวัดผลแบรนด์ของลูกค้าเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง การรับฟังความเห็นของผู้บริโภคหลังจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการวัดผลการออกแคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งบริการของเราจะช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ รวมถึงการตัดสินใจบนฐานของข้อมูล (Data-Driven Decision) อย่างทันท่วงที เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ​
นายพเนิน ยกตัวอย่างความสำคัญของความรวดเร็วดังกล่าว “ซีอีโอและผู้บริหารต้องการข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำเพื่อประเมินสถานการณ์ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ภาพรวมของธุรกิจ ขณะที่ฝ่ายการตลาดต้องการติดตาม และประเมินผลประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดว่าคุ้มกับงบประมาณที่จ่ายลงไปหรือไม่ เพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดให้ทันต่อสถานการณ์การแข่งขัน ฝ่ายประชาสัมพันธ์หรือสื่อสารองค์กรฯ ที่ต้องเฝ้าระวังภาพลักษณ์เชิงลบ จะสามารถวางแผนรับมือได้อย่างทันท่วงที ฝ่ายผลิตภัณฑ์ที่ต้องทราบฟีดแบ็กของกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็วเพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องตามความต้องการของลูกค้า เราจะเห็นได้ว่าความรวดเร็วของข้อมูลจะสามารถช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้อย่างมีศักยภาพ และรวดเร็วต่อสถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจในปัจจุบัน”
นายศรัณย์ สุตันติวรคุณ หุ้นส่วนบริหาร บริษัท เอ็น-เวสต์ เวนเจอร์ จำกัด ในฐานะนักลงทุน กล่าวว่า “เนื่องจากในปัจจุบันคนไทยใช้โซเซียลมีเดียอย่างมากในชีวิตประจำวัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของบุคคล  ซึ่งองค์กรธุรกิจต้องเตรียมความพร้อม และปรับตัวให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงเพื่อหาโอกาสจากสิ่งที่เกิดขึ้น โดยผมเห็นว่า Thoth Zocial และ OBVOC เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับโลกโซเชียล ที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งการร่วมมือของทั้งสองบริษัทจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการให้บริการด้านการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล ดังนั้น การร่วมมือระหว่าง Thoth Zocial และ OBVOC จะมาตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ที่เล็งเห็นความสำคัญของข้อมูลจากโลกโซเซียล โดยคาดว่าจากแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของโซเซียลมีเดีย จะช่วยหนุนรายได้ของทั้งสองบริษัท ให้เติบโตไปพร้อมกัน ทั้งนี้ในเบื้องต้นทั้งสองบริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ที่ระดับหลักร้อยล้านบาท ส่วนแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น เป็นเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้ในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่ามีหลายปัจจัยที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่เรามีความเชื่อมันในอุปทาน (Demand) การใช้ข้อมูลเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ยังจะเติบโตในอัตราเร่งไปอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 5 ปี ดังนั้น เราจึงมุ่งไปที่การสร้างผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีสำหรับลูกค้าเป็นอันดับแรก”