10 ประโยชน์จาก “ฝาย” ได้อะไรมากกว่าที่คิด
เอสซีจี ได้น้อมนำแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้านการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ด้วยการจัดกิจกรรม “สืบสานพระราชปณิธาน 70,000 ฝาย รวมพลังรักษ์น้ำทั่วไทย” โดยมีคณะผู้บริหารพนักงานเอสซีจี และอาสาสมัคร ร่วมกันสร้างฝายชะลอน้ำตามแนวพระราชดำริ ให้ครบ 70,000 ฝาย พร้อมกันในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สระบุรี ลำปาง นครศรีธรรมราช ขอนแก่น และระยอง
ซึ่งการสร้างฝายก่อให้เกิดคุณประโยชน์นานับประการ ดังนี้
- ช่วยชะลอน้ำสร้างความชุ่มชื้นให้กับผืนป่าตลอดทั้งปี ปัจจุบันมีการดูแลป่าชุมชนพื้นที่รวมกว่า 210,000 ไร่
- มีน้ำใช้อย่างพอเพียงในหน้าแล้ง ชุมชนโดยรอบไม่ขาดแคลนน้ำเหมือนแต่ก่อน
- ลดอัตราการเกิดน้ำท่วม อย่างในช่วงที่ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ลำปาง พบว่าน้ำไม่ท่วมในพื้นที่ที่สร้างฝายชะลอน้ำ เช่น ชุมชนบ้านสาสบหก อำเภอแจ้ห่ม และ ชุมชนบ้านสามขา บ้านนายาบ บ้านทุ่ง บ้านดอนไฟ บ้านเอียก ในอำเภอแม่ทะ เป็นต้น
- ช่วยยืดระยะเวลาให้น้ำท่วมช้าลง ในกรณีที่เกิดภัยธรรมชาติทำให้ชาวบ้านในชุมชน สามารถอพยพหนีน้ำได้อย่างทันท่วงที
- ช่วยลดจำนวนการเกิดไฟป่า เช่น หลังจากสร้างฝายในพื้นที่ป่ารอบโรงงานปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) มีจำนวนการเกิดไฟป่าลดลงจากปีละ 200-300 ครั้ง เหลือเพียงปีละไม่เกิน 4-6 ครั้ง และในปี 2555-2558 ไม่เกิดไฟป่าขึ้นในพื้นที่นั้นอีกเลย
- เกิดความหลากหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ป่าในระบบนิเวศ เช่น พื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าแม่ทรายคำ พบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 22 ชนิด อาทิ เม่นใหญ่ สุนัขจิ้งจอกและแมวดาวซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ พบสัตว์เลื้อยคลาน 26 ชนิด และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 11 ชนิด เป็นต้น
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เพราะมีอาหารเพียงพอทั้งผลผลิตจากป่าและการเกษตร
- สร้างอาชีพ มีรายได้ได้ตลอดทั้งปี ทั้งการนำผลผลิตจากป่า อาทิ เห็ดต่างๆ ผักหวาน น้ำผึ้ง สมุนไพร ไปขาย บางแห่งมีธรรมชาติที่สวยงาม จนสามารถเปิดเป็นโฮมสเตย์สร้างรายได้เสริมให้ชุมชน
- ต่อยอดขยายผลสู่กิจกรรมใหม่ๆ อาทิ การป้องกันไฟป่า การจัดทำประปาภูเขา การจัดตั้งวิสาหกิจชุมชน เช่น กลุ่มผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว กลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ กลุ่มสมุนไพรล้างสารพิษ เป็นต้น
- พัฒนาขึ้นเป็น “สถานีรักษ์น้ำ” ศูนย์เรียนรู้ชุมชนเข้มแข็งอย่างพอเพียงแล้ว 3 แห่ง มีรายได้จากค่าเยี่ยมชมและจำหน่ายสินค้าชุมชนรวมกว่า 1.3 ล้านบาท
...............................................................................................
แนวทางการสืบสานพระราชปณิธาน
ในปี 2560 เอสซีจี รักษ์น้ำเพื่ออนาคต จะสืบสานพระราชปณิธานการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริร่วมกับชุมชนต่อไป โดยจะขยายพื้นที่พร้อมส่งเสริมให้ชุมชนเรียนรู้การแก้ปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมด้วยตนเอง ดังนี้
- สร้างฝายชะลอน้ำในทุกจังหวัดที่เอสซีจีมีโรงงาน และในจังหวัดใกล้เคียง พร้อมส่งเสริมให้เกิด “สถานีรักษ์น้ำ” ศูนย์เรียนรู้การบริหารจัดการน้ำชุมชน เพื่อเป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชนอื่นๆ
- สร้างบ่อพวง เพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรองให้กับชุมชนที่มีพื้นที่เหมาะสม ยอมเสียสละพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์สาธารณะ และมีความเข้มแข็งในการบริหารจัดการแหล่งน้ำได้ด้วยตนเอง
- ร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร
- ขยายพื้นที่การบริหารจัดการน้ำชุมชน เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- สร้างเครือข่ายชุมชนบริหารจัดการลุ่มน้ำ และขยายไปพื้นที่อื่นๆ อาทิ ขยายผลต้นแบบการบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชนลุ่มน้ำชี ไปสู่เครือข่ายลุ่มน้ำวัง จ.ลำปาง ลุ่มน้ำแม่กลอง จ.กาญจนบุรี และลุ่มน้ำป่าสัก จ.สระบุรี
เอสซีจีเชื่อมั่นว่า การน้อมนำแนวพระราชดำริด้านการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน มาดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาน้ำของประเทศได้ และจะมุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธาน โดยเป็นต้นแบบการบริหารจัดการน้ำร่วมกับชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ SCG รักษ์น้ำ เพื่ออนาคต www.facebook.com/SCGWater