เปิดมุมมองของการเลือกที่พักอาศัยในสไตล์ “ญารินดา บุนนาค”

     อาจจะไม่ได้มีผลงานเพลงมาให้ติดตามกันในช่วงนี้สำหรับ “ญารินดา บุนนาค” นักร้องเสียงดีที่หลายๆ คนคิดถึง แต่ในฐานะสถาปนิกมืออาชีพ อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณแม่ของลูกชายวัยสองขวบเศษ ญารินดามีมุมมองในการเลือกที่อยู่อาศัยที่น่าติดตามทีเดียว

อัพเดทชีวิตช่วงนี้

     ตอนนี้ทำงานประจำเป็นสถาปนิกค่ะ แล้วก็ทำงานสอนไปด้วย ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลักสูตรนานาชาติ หลักๆ ก็จะสอนนิสิตชั้นปีที่ 4 ค่ะ

ทำไมถึงทำชอบงานสอน

     งานสอนเป็นงานที่สนุกมากค่ะ ชอบตรงที่เวลาสอนเราจะได้เห็นการทดลองไอเดียใหม่ๆ จากนักเรียน จริงๆ เริ่มทำงานสอนมาตั้งแต่ช่วงที่เรียนจบสถาปัตย์กลับมาเมืองไทยใหม่ๆ ค่ะ ทำควบคู่ไปกับงานเพลงแล้วก็งานประจำในฐานะสถาปนิกด้วยตอนนั้น แต่ตอนนี้ก็ทำงานประจำเป็นสถาปนิกเป็นหลัก ควบคู่ไปกับงานสอน เพราะว่าจะได้แบ่งเวลามาดูลูกได้ด้วย

มุมมองเรื่องที่พักอาศัยในฐานะสถาปนิกมืออาชีพ

     ในมุมของสถาปนิก การออกแบบบ้านหรือที่พักอาศัยให้กับลูกค้า มันไม่ใช่แค่การออกแบบตัวบ้านให้สวยหรือสร้างบรรยากาศรายรอบให้ดีอย่างเดียวค่ะ แต่สถาปนิกต้องใช้เวลาเยอะมากในการศึกษานิสัย (habit) และความต้องการของลูกค้า เพราะลูกค้าคือคนที่จะอยู่ในบ้านหรือคอนโดหลังนี้ไปอีกนาน เช่น บางคนชอบนอนในห้องแบบมืดตื๋อ บางคนชอบให้มีแสงอาทิตย์เข้ามาปลุกได้ตอนเช้า บางคนชอบใช้เวลาเยอะในห้องน้ำ หรือบางคนชอบกลับบ้านมาแล้วโดดขึ้นเตียงเลยจึงไม่ให้ความสำคัญกับห้องรับแขก ฯลฯ อาจจะพูดได้ว่าการออกแบบที่พักอาศัยนี่ยากที่สุดในแง่ของการออกแบบอาคารแบบต่างๆ ก็ว่าได้ค่ะ

     ความหมายของบ้านยุคปัจจุบันน่าจะเปลี่ยนไปพอสมควรค่ะ เพราะบ้านไม่ใช่แค่ที่หลับที่นอนที่กินข้าว และที่อยู่อาศัยของครอบครัวอย่างเดียวแล้ว แต่เทคโนโลยีการสื่อสารในปัจจุบันเช่น smart phone smart TV สามารถทำให้บ้านหรือคอนโดมิเนียมที่เราอาศัยอยู่กลายเป็นที่ทำงานที่สังสรรค์และที่ทำกิจกรรมอื่นๆ อีกหลายอย่างที่เบลนด์เข้ามารวมอยู่ด้วยกันในบ้านมากขึ้น

ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน อะไรคือสิ่งสำคัญสำหรับที่พักอาศัยสมัยนี้

     ในมุมมองส่วนตัว อย่างแรกคือเรื่องโลเคชั่นค่ะ ที่ที่เราจะเลือกต้องมีความสะดวกในการเดินทาง ช่วยให้เราเดินทางไปที่ต่างๆได้คล่องตัว ไม่เจอรถติดนานเกินไปก็จะดีค่ะ ต่อมาคือเรื่องของพื้นที่สีเขียว บริเวณบ้านเรามีพอมั้ย หรือถ้าเราอยู่คอนโด คอนโดนั้นมีพื้นที่สีเขียวให้เรามั้ย หรือเราอยู่ใกล้สวนสาธารณะหรือเปล่า เพราะการมีพื้นที่สีเขียวจะเอื้อให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ เปิดโอกาสให้เราได้ทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ไม่ไกลบ้านอันนี้จะช่วยได้มากค่ะ

เทรนด์การออกแบบที่พักอาศัยยุคใหม่

     ปัจจุบันเราไม่จำเป็นที่จะต้องแบ่งแยกโปรแกรมของอาคารต่างๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องอยู่บ้านที่หนึ่ง ออฟฟิศที่หนึ่ง ร้านอาหารอีกที่หนึ่ง แต่เราสามารถ integrate ทุกอย่างเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างไฮบริดมากขึ้น แล้วคนยุคปัจจุบันก็ไม่ได้แบ่งแล้วว่า เวลานี้ทำงาน เวลานี้อยู่บ้าน หรือต้องเข้าออฟฟิศ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น เพราะเราสามารถทำงานผ่านมือถือหรือแล็บท้อปที่ไหนก็ได้ ทำให้เราสามารถจัดสรรค์เวลาตัวเองได้มากขึ้น และมีอิสรภาพมากขึ้นในการจัดการกับชีวิตด้วยเทคโนโลยีในมือ

     ซึ่งเราจะเห็นเลยว่า ในการออกแบบสถาปัตยกรรมจึงเกิดการ integration ของโปรแกรมมากขึ้นกว่าที่เคย ตึกอาคารสมัยใหม่ในโลกทุกวันนี้จึงเกิดอาคารแบบ mix-used มากขึ้น เป็นอาคารที่จะรองรับกิจกรรมหลายๆ แบบเข้าไปในอาคารเดียวกัน เพื่อที่จะให้คนได้ใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ แล้วก็ได้ตามใจตัวเองมากขึ้น

     อย่างโครงการวิสซ์ดอม 101 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม แต่เลือกใช้คอนเซ็ปต์ไฮบริดในการผสมผสานพื้นที่ภายนอกกับภายในอาคาร เพื่อเบลนด์การใช้ชีวิตระหว่างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน ที่พักผ่อนและการทำกิจกรรมทางสังคมเข้าด้วยกัน มีการจัด 65% ของที่ดินให้เป็นพื้นที่เปิดโล่ง 30% ของที่ดินสงวนไว้สำหรับพื้นที่สีเขียว ในขณะที่ก็มีโซนธุรกิจ มีอินเตอร์เน็ตไร้สาย มีร้านค้าร้านอาหารครบครัน ในรูปแบบอาคารที่ดีไซน์ทันสมัย มีความสะดวกและปลอดภัย ที่เก๋คือมีเลนจักรยานและลู่วิ่งลอยฟ้าที่วิ่งไหลผ่านเข้าตัวอาคารได้เลย แล้วก็มีระบบ Smart Home Automation System ที่เราสามารถสั่งการทำงานในบ้านได้จากระยะไกลด้วย

     ในฐานะสถาปนิกมืออาชีพที่ทำงานออกแบบอาคารแบบต่างๆ มานาน มุมมองเรื่องการเลือกที่พักอาศัยและเทรนด์การออกแบบยุคใหม่ของญารินดาถือว่าน่าสนใจ และน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนเอาไปคิดต่อในเวลาที่ต้องเลือกที่พักอาศัยที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองกันนะจ้ะ