ADS


Breaking News

ซิป้าเดินหน้ายุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิทัลตามนโยบายกระทรวงดีอี ผลักดันแพลตฟอร์มท่องเที่ยวหนุนธุรกิจขนาดเล็ก ขจัดปัญหาขาดโอกาสทางการค้า

ประเทศไทยถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจมากในขณะนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยไม่ขาดสาย โดยกรมการท่องเที่ยวได้สำรวจสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยปี 2559 ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม พบว่ามีนักท่องเที่ยวมากถึง 22,412,610 คน มากกว่าช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมากกว่าร้อยละ 11.75 ดังนั้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจึงเป็นอุตสาหกรรมที่หลายคนอยากเข้าไปจับจองพื้นที่ โดยเฉพาะการให้บริการด้านที่พักอาศัย ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่าปี 2559 จะมีเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจโรงแรมประมาณ 537,000 - 544,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 4.7 - 6.0 จากปี 2558 ที่คิดเป็นมูลค่า 513,000 ล้านบาท
ขณะที่ด้านสถานการณ์ท่องเที่ยวต่างประเทศล่าสุด พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกันยายน 2559 มีจำนวน 2.4 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 17.8 ต่อปี ทำให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 24.8 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 12.4 ต่อปี สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 1,230.2 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 16.1 ต่อปี และยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้สูงตาม โดยผู้ประกอบการต้องเผชิญกับความท้าทาย อาทิ ทำอย่างไรให้เข้าถึงฐานนักท่องเที่ยวได้อย่างสูงสุด นอกจากนี้ธุรกิจประเภทที่พักจำเป็นต้องกำหนดราคาห้องพักแต่ละช่องทางอย่างสอดคล้องกัน รวมถึงจำเป็นต้องสร้างความสมดุลของรายได้ในแต่ละช่องทางควบคู่กันไปด้วย ดังนั้นธุรกิจที่พักจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการวางแผนขายห้องพักล่วงหน้า เพื่อนำมาสู่การคาดการณ์รายได้ที่แม่นยำและลดความเสี่ยงในการบริหารจัดการ ไม่เพียงเท่านี้เรายังต้องการระบบการค้นหาจากเสิร์ชเอนจินที่ครอบคลุมเพื่อให้ผู้ประกอบการได้ประโยชน์จากการสืบค้น โดยสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า ซึ่งเดินหน้าตามกรอบยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิทัลสนองนโยบายกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ที่ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจึงได้มีการดำเนินโครงการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในระดับสากล Tourism Thailand Open Platform (ToTOP)   
นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับโครงการ ToTOP ซิป้าได้ใช้เวลาถึง 2 ปี ในการดำเนินการประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ คือ การกำหนดระบบ Standard Code หรือรหัสมาตรฐานของธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งทางซิป้าได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ในการเข้ามาแก้ไขปัญหาการค้นหาในระบบไอที ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะสามารถนำไปใช้และสร้างเป็นมาตรฐานให้เกิดขึ้นเป็นแห่งแรกของโลกและจะขจัดปัญหาข้อผิดพลาดในการค้นหา เพื่อให้การซื้อขายบริการและที่พักมีประสิทธิภาพ ต่อมาคือ ระบบ Hotel Channel Manager หรือระบบการบริหารจัดการธุรกิจที่พักในการทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์ ที่จะเข้ามาช่วยในการควบคุมราคา จำนวนห้องพักให้กับผู้ใช้ ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการธุรกิจที่พักง่ายขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ ระบบดังกล่าว ยังมีข้อดีในการเรื่องของรูปแบบการขายซึ่งจะมีให้ผู้ประกอบการเลือกได้ คือ การขายโดยกำหนดราคาเดียวเท่ากันทุกช่องทางกันและการขายแบบคู่ค้าที่มีการทำสัญญาล่วงหน้า
และสุดท้าย คือ ระบบการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มช่องทางด้านการตลาดด้านท่องเที่ยวในรูปแบบธุรกิจกับธุรกิจ (Tourism Thailand Open Platform B2B) โดยระบบดังกล่าวจะเข้ามาช่วยให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวไทยได้เสนอขายสินค้าประเภท โรงแรม ทัวร์แพคเกจ Package Tour ทัวร์วันเดียว Sightseeing Tour รถรับส่ง Car Transfer สนามกอล์ฟ Golf Package  ผ่านช่องทางออนไลน์ในรูปแบบ B2B และการเชื่อมต่อ API ผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าได้แบบ One Stop Services เนื่องจากในปัจจุบันตลาดกลางเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้ขายรายย่อยที่จะเข้าถึงผู้ซื้อและขายทั่วทุกมุมโลก และที่ผ่านมาการซื้อขายสินค้าประเภทนี้ถูกกุมชะตาจากบริษัทเอเยนต์ ซึ่งมักเป็นการติดต่อระหว่างเอเยนต์ต้นทางและปลายทาง ทำให้ธุรกิจรายย่อยของไทยเข้าถึงได้ยากและขาดโอกาสทางการตลาด ดังนั้นการมีแพลตฟอร์มที่รวบรวมสินค้าและบริการของผู้ประกอบการการท่องเที่ยวไทยขึ้นมา จึงเป็นทางเลือกให้เอเยนต์ต่างๆทั่วโลก  
นอกจากนี้ ซิป้าคาดหวังว่าการดำเนินโครงการ ToTOP จะเป็นส่วนช่วยนำไอทีมารองรับปัญหาการท่องเที่ยวไทย และเกิดประโยชน์กับประเทศไทยในระยะยาว และช่วยเหลืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวตั้งแต่ขนาดเล็กจนใหญ่ ซึ่งมองว่าไอทีจะเข้าไปดำเนินการตรงนี้ได้และนี่เป็นส่วนหนึ่งที่ซิป้าได้ลงลึกเข้าไปในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง โดยเข้าไปค้นหาปัญหาและหาทางแก้ไขให้ถูกจุดที่สุด อย่างไรก็ดีการสร้างแพลตฟอร์มเหล่านี้ยังไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความร่วมมือจากองค์กรที่เกี่ยวข้องอย่างมาก โดยซิป้าหวังว่าการดำเนินการครั้งนี้จะเป็นส่วนช่วยสร้างความตื่นตัวไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆต่อไป   
      สำหรับระบบการทำงานของแพลตฟอร์มท่องเที่ยว (ToTOP)  มีลักษณะใกล้เคียงกับระบบเสิร์ชเอ็นจิ้นในรูปแบบต่างๆ คือการพิมพ์ชื่อ ค้นหาชื่อและตำแหน่งของโรงแรมซึ่งมีความเป็นมาตรฐาน โดยมีแพลตฟอร์กลางสำหรับการอัพเดทชื่อเว็บไซต์จองโรงแรม เป็นแพลตฟอร์มตัวกลางรวมข้อมูลล่าสุดของทุกเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมไปถึงระบบการตั้งค่าการให้ส่วนแบ่งต่างๆ ที่มีปัญหากรณีเกิดธุรกิจตัวกลางรับทำหน้าที่กรอกข้อมูลและเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการซื้อขายในเว็บต่างๆ ซึ่งซิป้ามีหน้าที่พัฒนาระบบแพลตฟอร์มให้มีความสมบูรณ์ โดยร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอีที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยเข้าถึงนักท่องเที่ยวได้โดยตรง มีโอกาสทางการตลาด จึงต้องมีแพลตฟอร์มกลางรวบรวมสินค้าของเอสเอ็มอีให้เป็นอีกทางเลือกไม่ปล่อยให้เอเยนต์ปลายทางเป็นผู้คุมชะตาการนำเสนอทั้งหมดไว้ หรือดูรายละเอียดโครงการได้ที่ http://thaitotop.com