บริษัท อุตสาหกรรมพรมไทย จำกัด (มหาชน) (TCMC) ตั้งเป้ายอดขายรวมปี 2560 โตเท่าตัว คว้ากิจการ ดีเอ็ม มิดแลนด์ส (DM Midlands) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ใน สหราชอาณาจักร เสริมทัพแกร่งพร้อมปูพรมตั้งเป้าการเติบโตก้าวกระโดด
ด้วยธุรกิจใหม่หลากหลายมากขึ้นชูกลยุทธ์ควบรวมกิจการหลังจากสามปีที่ผ่านมาเทคโอเวอร์ต่อเนื่อง 3 บริษัท มั่นใจปีนี้จะพิชิตรายได้เพิ่มกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับรายได้ของปีที่ผ่านมา
นายพิมล ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหารบริษัท อุตสาหกรรมพรมไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายพรมภายใต้ตราสินค้า ‘ ไทปิง ’ และ ‘ รอยัลไทย ’ เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ทำการเข้าซื้อกิจการ ดีเอ็ม มิดแลนด์ส ลิมิเต็ด (DM Midlands Limited) หรือ ดีเอ็มเอ็ม (DMM) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ในสหราชอาณาจักร โดยใช้งบ 1.6 พันล้านบาท ทำให้ทาง บมจ.อุตสาหกรรมพรมไทย จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน ดีเอ็มเอ็ม โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 75 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 25 เปอร์เซ็นต์จะยังถือโดยผู้ถือหุ้นรายเดิม สองท่าน คือ มร. เดวิด ลี และ มร. มาร์ค สมิทธ์ (Mr. David Lee and Mr. Mark Smith) ในสัดส่วน คนละ 12.5 เปอร์เซ็นต์ โดยการเข้าซื้อครั้งนี้จะมีผลสมบูรณ์ในวันที่ 1 พฤศจิกายน หลังจากได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการประชุมวันที่ 25 ตุลาคมนี้
หลังการควบรวมกิจการทาง บมจ.อุตสาหกรรมพรมไทย (TCMC) จะสามารถนำรายได้ของบริษัทใหม่ รายงานเข้าพอร์ตภายในไตรมาสที่4 ซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2558 และในปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มอีกเท่าตัวเมื่อเทียบกับรายได้ของปีนี้ เพราะรายได้ของ ดีเอ็มเอ็ม บริษัทเดียวก็มีรายได้ กว่า 3 พันล้านบาทต่อปี (รายงานตัวเลขจากปี2558) และหากรวมรายได้จาก อัลสตันส์ ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ในประเทศอังกฤษที่ทำรายได้กว่า 30 ล้านปอนด์ต่อปี (1.5 พันล้านบาท) และ ที.ซี.เอซ ซูมิโนเอะ ของญี่ปุ่น ที่ทำธุรกิจผ้าหุ้มเบาะและพรมในรถยนต์ ที่ทางบริษัทได้ซื้อกิจการไปก่อนหน้าและรายได้ของการผลิตพรม ของ บมจ.อุตสาหกรรมพรมไทย (TCMC) เองทำให้รายได้ในปีนี้จะโตแบบก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับเมื่อ 4 ปีก่อน หลังจากที่ทางบริษัทได้เริ่มใช้กลยุทธ์การควบรวมกิจการ (M&A) ในช่วงสามปีที่ผ่านมา
“ ด้วยสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง ทีซีเอ็มซี พร้อมจะสร้างความก้าวหน้าให้กับบริษัทและทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้น และสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจผ่านกลยุทธ์การควบรวมกิจการ ไปสู่ธุรกิจใหม่โดยไม่จำกัดรูปแบบธุรกิจและไม่จำกัดพรมแดน แต่จะมุ่งเน้นธุรกิจที่สอดคล้องกันที่สามารถพัฒนาต่อ ให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทและยกระดับการเจริญเติบโตของประเทศ สร้างสุนทรีย์ในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ทีซีเอ็มซี พร้อมที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด และยั่งยืนในก้าวต่อ ๆ ไป ” นายพิมลกล่าว พร้อมเสริมว่าหลังควบรวมกิจการกับทาง ดีเอ็มเอ็ม ทางบมจ.อุตสาหกรรมพรมไทยจะมุ่งเน้นทำการตลาดให้กับทาง ดีเอ็มเอ็ม โดยเฉพาะในตลาดเอเชีย-แปซิฟิค และตะวันออกกลาง พร้อมกันนี้จะช่วยบริหารแหล่งวัตถุดิบเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการเสริมความเจริญเติบโตของทั้งสองฝ่าย
ด้าน มร. เดวิด ลี (Mr. David Lee) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดีเอ็ม มิดแลนด์ส ลิมิเต็ด กล่าวว่า มีความยินดีที่ได้บรรลุข้อตกลงร่วมทุนกับทางบมจ.อุตสาหกรรมพรมไทย ความเป็นพันธมิตรทางยุทธศาตร์ ระหว่างกัน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของ ดีเอ็มเอ็ม และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนา ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ด้านการตลาด ทำให้สินค้าของบริษัทเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ไม่ใช่เพียงแค่ตลาดใน สหราชอาณาจักร “ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ดีเอ็มเอ็ม กับ ทีซีเอ็มซี จะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น ยิ่งขึ้นและช่วยให้ ดีเอ็มเอ็ม เติบโตอย่างมั่นคงในก้าวต่อๆไป” นายลีกล่าว
นายมาร์ค สมิทธ์ ผู้อำนวยการด้านการออกแบบ บริษัท ดีเอ็ม มิดแลนด์ส ลิมิเต็ด กล่าวว่า หวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอย่างมั่นคงหลังจากการควบรวมครั้งนี้ ทางบริษัทได้เล็งเห็นถึงความตั้งใจจริงของฝ่ายไทย ที่จะร่วมพัฒนาและทำการขยายตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ของทางบริษัท ทั้งยังจะช่วยส่งเสริมพัฒนาด้านการออกแบบ และหาแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ดีเอ็มเอ็ม ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเก้าอี้โซฟา ให้แก่ลูกค้าในสหราชอาณาจักรเป็นหลัก โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายค้าส่งเป็นอันดับที่ 2 มียอดขายเฉลี่ย 3 พันล้านบาทต่อปี มีส่วนแบ่งการตลาด 8 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าตลาดผู้ผลิตและจำหน่ายเก้าอี้โซฟาค้าส่งภายในสหราชอาณาจักร การเข้าซื้อกิจการ ดีเอ็มเอ็ม ในครั้งนี้ทำให้ บมจ.อุตสาหกรรมพรมไทย (TCMC) กลายเป็นผู้ผลิตโซฟารายใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ
ปัจจุบัน ดีเอ็มเอ็ม ได้ ประกอบธุรกิจหลัก ในสามด้าน คือ แอชลีย์ แมเนอร์ (Ashley Manor) ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตและผู้จำหน่ายโซฟา ในสหราชอาณาจักร เอเอ็มเอกซ์ ดีไซน์ (AMX Design) ดำเนินธุรกิจโซฟาหนัง และโซฟาหนังปรับเอนได้ โดยมีแหล่งผลิตจากต่างประเทศเป็นหลัก อาทิ สเปน จีน เวียดนาม และมาเลเซีย และนำกลับไปขายในตลาดอังกฤษและประเทศแถบสหราชอาณาจักร ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ส่งออกภายใต้ แบรนด์ อเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์ หรือ เอ แอนด์ เจ (Alexander & James) ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 โดยทางบริษัทต้องการโปรโมทให้ A&J เป็นแบรนด์หลักที่จะเข้าเจาะระดับบนในประเทศอังกฤษและในต่างประเทศ โดยแบรนด์นี้จะเน้นด้านการออกแบบ (design) ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและใช้กำลังคนในการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้า ปัจจุบันสินค้าภายใต้แบรนด์ อเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์ ได้จำหน่ายแล้วในหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ จีน ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และประเทศแถบตะวันออกกลาง และ มีแผนจะนำเข้าไทยในเร็วๆนี้
