ADS


Breaking News

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดพิธีมอบรางวัลดีมาร์ค ประจำปี 2559 (DEmark 2016)

เผยโฉมผู้ชนะ 67 รายการ มีผลงานออกแบบดีเยี่ยมทั้งดีไซน์และคุณภาพ เตรียมโกอินเตอร์อวดผลงานสู่สายตาชาวโลกในงาน Good Design Exhibition 2016
กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อการค้า จัดพิธีมอบรางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบดีประจำปี 2559 หรือ Design Excellence Award 2016 (DEmark Award 2016) ให้แก่ผู้ประกอบการและนักออกแบบไทยที่มีผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ดี ทั้งในด้านดีไซน์ที่สวยงาม และคุณภาพประโยชน์ใช้สอยต่อผู้บริโภค จำนวน 67 รายการ จาก 54 บริษัท โดยรองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พร้อมเตรียมส่งผลงานไปอวดศักยภาพฝีมือการออกแบบสินค้าของ ผู้ประกอบการไทยสู่สายตาตลาดโลกในงาน Good Design Exhibition 2016 ณ โตเกียว มิดทาวน์ ฮอลล์ (Tokyo Midtown Hall) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม ถึง 3 พฤศจิกายน 2559
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “โครงการรางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบดี จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีจากความมุ่งมั่นตั้งใจ ของกรมฯ ที่ต้องการผลักดันเศรษฐกิจการค้าการส่งออกของประเทศไทยให้ขยายตัว และเติบโตโดดเด่นในตลาด ระดับสากลอีกทั้งเพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศและรายได้ของประชาชนให้สูงขึ้นตามแนวนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเปลี่ยนผ่านรูปแบบเศรษฐกิจของประเทศสู่เศรษฐกิจสร้างมูลค่า (Value Based Economy) ดังที่กรมฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในการมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศที่เชื่อมโยง กับเศรษฐกิจโลก ด้วยการส่งเสริมการพัฒนาด้านนวัตกรรม นำการออกแบบสร้างสรรค์เข้ามาต่อยอดในธุรกิจ ซึ่งโครงการรางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบดี (Design Excellence Award) หรือ DEmark นั้นถือเป็นหนึ่งใน กลยุทธ์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อผลักดันประเทศไทยสู่ยุค 4.0 ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 แล้ว โดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ดีไซน์หมุนโลกธุรกิจ (Design Driven Business)” เพื่อสร้างความตระหนักถึง ความสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าให้มีความโดดเด่น แตกต่าง ปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของ ผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ SMEs ให้เป็นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่นำกระบวนการออกแบบเข้ามาเป็น ส่วนสำคัญในกระบวนการผลิต เพื่อสร้างมูลค่าสินค้าสู่ความได้เปรียบทางการแข่งขันในเวทีการค้าระดับโลก โดยมีตราสัญลักษณ์รางวัลดีมาร์คเป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพสินค้าที่มีการออกแบบดีอันเป็นที่ยอมรับทั้งใน ประเทศไทยและในระดับสากล นอกจากนี้ตราสัญลักษณ์ดีมาร์คยังทำหน้าที่เป็นช่องทางในการเปิดโอกาสให้ ผู้ประกอบการและนักออกแบบไทยไปสู่การยอมรับในเวทีการค้าระดับนานาชาติ ซึ่งที่ผ่านมากรมฯได้รับความ ร่วมมือเป็นอย่างดีจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Jetro) และ Japan Institute of Design Promotion (JDP) ในการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากรางวัล G-Mark ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรางวัลด้านการออกแบบ ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมพิจารณาตัดสินคัดเลือกผู้ได้รับรางวัล และผลักดันให้รางวัลดีมาร์คเป็นรางวัล ที่ได้มาตรฐานระดับสากล”
นอกจากนี้ในปีนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยังได้ร่วมมือจากองค์กรภาคเอกชนอย่าง บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ในการร่วมลงนามข้อตกลง (MOU) การเปิดร้าน Objects of Desire Store (O.D.S) ณ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อเพิ่มช่องทางค้าปลีกให้กับแบรนด์สินค้าไทยที่ได้รับรางวัลดีมาร์คและรางวัลการันตี ด้านการออกแบบอื่นๆ ในกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านมารวมไว้ให้ได้เลือกซื้อกันในที่เดียวกว่า 160 แบรนด์ รองอธิบดี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเสริม
ม.ล.คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริม การค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “โครงการรางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบดีประจำปี 2559 หรือ DEmark 2016 นี้มีจำนวนผู้ประกอบการและนักออกแบบไทยส่งผลงานเข้าร่วมประกวดทั้งสิ้น 616 รายการ จาก 330 บริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนคิดเป็น 14% โดยมีผู้ได้รับคัดเลือกตัดสินให้ชนะรางวัลดีมาร์ค 2016 จำนวนทั้งสิ้น 67 รายการ จาก 54 บริษัท แบ่งเป็นผู้ชนะจากสาขาเฟอร์นิเจอร์ 9 รายการ, สาขาสินค้าไลฟ์สไตล์ 26 รายการ, สาขาแฟชั่นและสิ่งทอ 4 รายการ, สาขาอุตสาหกรรม 9 รายการ, สาขาบรรจุภัณฑ์สินค้าอาหารและสินค้า สุขภาพและความงาม 6 รายการ และสาขากราฟฟิกดีไซน์  13 รายการ ซึ่งมีผู้ประกอบการและนักออกแบบหน้าใหม่ ที่เพิ่งส่งผลงานเข้าประกวดเป็นปีแรกได้รับรางวัลเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ SMEs ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ผู้ประกอบการและนักออกแบบไทยให้ความสำคัญต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ด้วยการออกแบบสร้างสรรค์ นวัตกรรมสินค้าให้มีความโดดเด่น แตกต่าง บนพื้นฐานการวิเคราะห์แนวโน้มความต้องการผู้บริโภคในอนาคต และ จึงเข้าสู่กระบวนการผลิตสินค้าที่สามารถตอบสนองได้ทั้งความต้องการด้านอารมณ์ ความรู้สึกจากดีไซน์ที่สวยงาม และคุณภาพประโยชน์ใช้สอยที่ดีจนอาจกล่าวได้ว่าประเทศไทยเป็นผู้ผลิตสินค้าแนวดีไซน์อันดับหนึ่งของอาเซียนและอันดับต้นๆของโลกก็ว่าได้ ทั้งนี้เกณฑ์การตัดสินรางวัลดีมาร์ค 2016 ได้พิจารณาจากทั้งแนวคิดในการออกแบบ, ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (Creativity) คุณค่าด้านนวัตกรรม (Innovation), ความเป็นต้นแบบที่แตกต่างจากที่เคย มีมา (Originality), ประโยชน์ใช้สอยที่ดี (Utilization) ความสะดวกสบาย, การตอบสนองความต้องการผู้บริโภค (Satisfying Consumer’s Needs), ความปลอดภัย (Safety), การใช้เทคโนโลยีหรือวัสดุในการผลิตใหม่ และการคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม และ สิ่งแวดล้อม (Social Responsible and Environmentally-Friendly) ตลอดจนสินค้านั้นช่วยส่งเสริมให้ผู้ใช้มีความคิดสร้างสรรค์อย่างไร ดังนั้นสินค้าที่ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลดีมาร์ค จึงล้วนเป็นสินค้าที่ผ่านการคัดกรองแล้วว่ามีการออกแบบดีทั้งดีไซน์และการใช้งาน (Functional and Emotional) อีกทั้งสินค้านั้นๆ ยังช่วยส่งผ่านจินตนาการไอเดียสร้างสรรค์ต่อไปยังผู้บริโภคอีกด้วย เพื่อกระตุ้นให้เกิดสังคม แห่งการสร้างสรรค์ทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้ โดยในปีนี้สินค้ารางวัล DEmark 2016 ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล G-Mark รางวัลด้านการออกแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลจากประเทศที่ญี่ปุ่นทั้งสิ้น 36 รายการ จาก 32 บริษัท โดยผลงานดังกล่าวจะถูกส่งไปจัดแสดงภายในงาน Good Design Exhibition 2016 ณ โตเกียว มิดทาวน์ ฮอลล์ (Tokyo Midtown) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม ถึง 3 พฤศจิกายน 2559 เพื่ออวดศักยภาพฝีมือการออกแบบของคนไทยอันเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการไทยจะได้เปิดตลาดสู่การรับรู้ และ การเจรจาธุรกิจกับนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีความต้องการสินค้าที่เน้นการออกแบบอันเป็นการนำรายได้ เข้าสู่ประเทศ นอกจากนี้ผลงานที่ได้รับรางวัล DEmark 2016 ทั้ง 67 รายการ ยังมีการจัดแสดงและจำหน่าย ภายในงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน (Bangkok International Gift Fair 2016 and Bangkok International Houseware Fair 2016 : BIG & BIH - October 2016) ณ อาคาร 104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 19 – 23 ตุลาคมนี้อีกด้วย”