“เต็ดตรา แพ้ค” ชี้ผู้บริโภคนิยมดื่มน้ำผลไม้แท้ 100% สะท้อนเทรนด์รักสุขภาพ ย้ำตลาดน้ำผลไม้ไทยอนาคตไกล
กรุงเทพ 28 กันยายน 2559 – เต็ดตรา แพ้ค บริษัทผู้นำด้านกระบวนการผลิตและบรรจุอาหาร ด้วยโซลูชั่นครบวงจรระดับสากล เปิดเผยว่าการเจริญเติบโตของเซกเมนต์น้ำผลไม้แท้ 100% ของไทยมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในอาเซียน และยังคงมีศักยภาพสูง โตได้อีกถึงร้อยละ 6 ในปีนี้ แม้ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดน้ำผลไม้แท้ 100% ทั่วโลกที่ยังเติบโตได้ดี ระบุผู้ผลิตต้องให้ความสำคัญกับเทรนด์การบริโภคของกลุ่ม Millennials ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคทรงอิทธิพลที่เน้นเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และมีฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวก เข้ากับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2559 คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดน้ำผลไม้ของไทยจะอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท หรือสูงขึ้นร้อยละ 5 จากปีก่อนหน้า โดยกลุ่มน้ำผลไม้แท้พรีเมียม 100% จะยังคงโตต่อเนื่องที่ร้อยละ 6 ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียนในแง่ของปริมาณการบริโภค โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลให้น้ำผลไม้แท้ 100% โตในไทย มาจากนวัตกรรมการผลิตที่ก้าวหน้าและเทรนด์รักสุขภาพ เห็นได้ชัดจากความนิยมในการดื่มน้ำมะพร้าวและน้ำมะเขือเทศที่เพิ่มขึ้นในไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยน้ำมะเขือเทศมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 50 ต่อปี ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นรสดั้งเดิม และรสชาติใหม่ที่มีการผสมผลไม้ชนิดอื่นเข้าไป ในขณะที่น้องใหม่มาแรงอย่างน้ำมะพร้าว 100% ได้โชว์ศักยภาพด้วยมูลค่าตลาดกว่า 300 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรกและยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเจ้าตลาดอย่างน้ำส้มยังคงรักษาตำแหน่งผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ยอดนิยมทั่วโลกอันดับหนึ่งไว้ได้
สาเหตุหนึ่งที่คาดการณ์กันว่าตลาดน้ำผลไม้ 100% ในประเทศไทยยังสามารถโตได้อีก มาจากการที่ปัจจุบัน ผู้บริโภคชาวไทยดื่มน้ำผลไม้เพียง 4 ลิตรต่อปีเท่านั้น ซึ่งยังห่างจากตลาดตะวันตกอย่างแคนาดา หรือแม้กระทั่งออสเตรเลียที่มีอัตราการบริโภคที่ 10 ลิตรต่อคนต่อปีอยู่มาก แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตและอัตราการบริโภคของไทยที่ยังพุ่งสูงได้อีก
การที่ผู้บริโภคในประเทศไทยหันมาใส่ใจในสุขภาพ ด้วยการดื่มน้ำผลไม้แท้ 100% เพิ่มขึ้นนั้น สอดคล้องกับ Tetra Pak 100% Juice Index Report ซึ่งเป็นรายงานที่เกิดจากการรวบรวมข้อมูลการตลาดเชิงลึกจากหลากหลายประเทศ และผลการสำรวจพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคกว่า 7,000 คน จาก 7 ตลาดใหญ่หลักๆ ได้แก่ จีน บราซิล เยอรมนี ญี่ปุ่น รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ที่ชี้ว่าน้ำผลไม้แท้ 100% ยังคงเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของผู้คนทั่วโลก โดยมีผู้บริโภคมากกว่าร้อยละ 40 ที่ดื่มน้ำผลไม้แท้ 100% เป็นประจำทุกวัน ซึ่งหลากหลายแบรนด์ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยเอง ต่างก็หันมาให้ความสนใจกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างเต็มที่
คุณรัตนศิริ ติลกสกุลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เป็นเรื่องดีอย่างยิ่งที่แบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยเองมองเห็นโอกาสในไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค รวมถึงความกังวลเรื่องของน้ำตาลในเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันการเจริญเติบโตของน้ำผลไม้แท้ 100% ของประเทศไทยให้โตที่สุดในอาเซียน กระแสการหันมาดูแลสุขภาพนั้น จะช่วยผลักดันให้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค และฉีกภาพของน้ำผลไม้แบบเดิมๆ ไปสู่เมนูใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่า ไม่ว่าจะเป็นน้ำผักผสมน้ำผลไม้หรือน้ำผลไม้รสชาติแปลกใหม่อื่นๆ เป็นต้น ซึ่งนอกจากการคำนึงถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบันได้อย่างดีที่สุดแล้ว ก็ต้องสร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภคควบคู่ไปด้วย เพราะว่าเรื่องของไลฟ์สไตล์เป็นสิ่งที่สำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน”
การทำการตลาดน้ำผลไม้แท้ 100% ให้ประสบความสำเร็จนั้น ผู้ผลิตจำเป็นจะต้องปรับวิธีทางการตลาดให้ต่างจากเดิม และเน้นย้ำการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดย Tetra Pak 100% Juice Index Report เผยสามเทรนด์ทางการตลาดที่มาแรงสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ อันได้แก่
- ผสานคุณค่าทางโภชนาการจากผัก – เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมจากน้ำผักได้รับความนิยมพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ซึ่งนิยมนำมาผสมกับน้ำผลไม้เพื่อลดปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มลงและเพิ่มคุณค่าด้านสุขภาพ โดยมีผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ที่มีน้ำผักเป็นส่วนผสมออกสู่ตลาด เพิ่มสูงขึ้นถึงสามเท่าในปี พ.ศ. 2558 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2555
- ส่วนผสมจากธรรมชาติล้วนๆ – กว่า 6 ปีที่ผ่านมา น้ำผลไม้แท้ 100% มีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากน้ำผลไม้เข้มข้น หรือผลิตภัณฑ์มีการปรุงแต่งกลิ่นและสี โดยถีบตัวสูงขึ้นจากร้อยละ 25 ในปี พ.ศ. 2552 สู่ร้อยละ 30 ในปี พ.ศ. 2557 ทั้งนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ที่ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติแท้ๆ โตขึ้นถึงร้อยละ 25 ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2555 – 2558
- ประโยชน์เพิ่มเติมเฉพาะทาง - กว่าร้อยละ 60 ของผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสนใจต่อผลิตภัณฑ์ที่พิสูจน์ได้ว่ามีคุณประโยชน์ด้านสุขภาพเฉพาะทาง โดยผู้ผลิตหลายรายหันมาผลิตน้ำผลไม้แท้ 100% เสริมวิตามิน เพื่อเพิ่มคุณสมบัติดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ ไปด้วย เช่น ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหาร สุขภาพหัวใจ กระดูก และสมอง รวมถึงประโยชน์เสริมด้านผิวพรรณความงาม โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มีจำนวนในตลาดเพิ่มขึ้น นับเป็น 2 ใน 3 ของผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดในปี พ.ศ. 2558
ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปนี้ ได้สร้างโอกาสใหม่ให้กับการเติบโตของเซกเมนต์น้ำผลไม้แท้ 100% โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทรนด์รักสุขภาพได้กระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกายและอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ แม้ว่าปัจจุบันความท้าทายที่ผู้ผลิตยังต้องเผชิญคือพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความกังวลเรื่องปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่ม ซึ่งแบรนด์ต่างๆ ก็ได้พยายามที่จะสื่อสารให้ความรู้แก่ผู้บริโภค เพื่อให้เข้าใจว่าน้ำผลไม้แท้ 100% นั้นไม่มีการเติมน้ำตาล พร้อมเน้นประโยชน์ด้านสุขภาพในหลายๆ ด้านเพื่อสร้างความต้องการสินค้าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Tetra Pak 100% Juice Index Report ยังระบุด้วยว่าพฤติกรรมการบริโภคนอกบ้าน (out of home consumption) ที่เปลี่ยนไปตามวิถีชีวิตในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม Millennials ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลมากที่สุด เป็นสิ่งที่ผู้ผลิตรายต่างๆ ควรจะต้องให้ความสำคัญเพื่อการทำการตลาดที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นการผลิตและบรรจุอาหารและเครื่องดื่มในกล่อง UHT ด้วยเทคโนโลยีแบบปลอดเชื้อ (Aseptic Technology ) ที่ช่วยรักษาคุณค่าทางสารอาหารธรรมชาติได้อย่างครบถ้วน โดยปราศจากสารกันเสีย และตอบโจทย์เรื่องของความสะดวกในการดื่มของผู้บริโภค จึงเป็นหนึ่งในโซลูชั่นที่แบรนด์ต่างๆ หันมาเลือกใช้อย่างแพร่หลาย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำผลไม้แท้ 100% และรายงานฉบับเต็มได้ที่ http://www.tetrapak.com/juiceindex
# # #
เกี่ยวกับ เต็ดตรา แพ้ค
เต็ดตรา แพ้ค เป็นบริษัทผู้นำของโลกในด้านกระบวนการผลิตและบรรจุอาหาร เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ขายสินค้าและลูกค้าของเรา ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย เป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตอบสนองความต้องการของผู้คนนับล้านในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานเกือบ 23,000 คน ซึ่งพร้อมปฏิบัติงานและให้บริการอยู่ในกว่า 80 ประเทศ เต็ดตรา แพ้ค เชื่อมั่นในความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบและแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน คำขวัญของเต็ดตรา แพ้ค ที่ว่า “ปกป้อง ทุกคุณค่า™” (PROTECTS WHAT’S GOOD™) นั้น สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของเราที่จะทำให้อาหารปลอดภัยและมีอยู่พร้อมสำหรับการบริโภคในทุกๆ ที่ทั่วโลก
สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “เต็ดตรา แพ้ค” ได้ที่ www.tetrapak.com/th