สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016 ขนทัพนาฬิกากว่า 180 แบรนด์ ชูไฮไลท์นาฬิการะดับมาสเตอร์พีซ

พร้อมจับมือพันธมิตรอัดโปรโมชั่นลดสูงสุดถึง 50% ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2559

     กรุงเทพฯ (25 กรกฎาคม 2559) – สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016 ยิ่งใหญ่ พร้อมขนทัพนาฬิกาหรู เอาใจนักช้อปไฮเอนด์ชาวไทยและนักท่องเที่ยวทั้งในเอเชียและยุโรป โดยทุ่มงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท พร้อมอัด โปรโมชั่นที่สุดแห่งปี ด้วยสิทธิพิเศษมากถึง 9 ต่อ และลดสูงสุด 50% รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2559 คาดหวังยอดซื้อโตกว่า 5 % จากนักช้อปทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

นางสาวชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการ สายงานกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016 ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 สืบเนื่องจากความสำเร็จในการจัดงานทุกครั้งที่ผ่านมา โดยศูนย์การค้าพารากอนเป็นเดสติเนชั่นระดับโลกในการช้อปปิ้งที่มอบความคุ้มค่ามากที่สุดแห่งหนึ่งให้กับลูกค้าที่มาเลือกซื้อนาฬิกาในงานนี้ และในครั้งนี้ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่กว่า 13,000 ตารางเมตร ให้เป็นพื้นที่แห่งกาลเวลาระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Icon of Timepieces กระตุ้นนักช้อปไฮเอนด์ที่ชื่นชอบการสะสมนาฬิกาและสำหรับการลงทุน ได้เลือกช้อปอย่างครบครัน พร้อมจัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้อย่างกว้างขวางทั้งสื่อสิ่งพิมพ์, สื่อออนไลน์ รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและผนึกกำลังกับพันธมิตรบัตรเครดิตยักษ์ใหญ่ มอบโปรโมชั่นที่ครอบคลุมสิทธิประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้านักช้อปทุกท่าน และในปีนี้สยามพารากอน ยังได้ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นอีกด้วย ครั้งนี้เราได้นำนาฬิกาที่มีความหลากหลายรุ่น หลายราคา เพื่อรองรับกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายทุกระดับ ทุกไลฟ์สไตล์

ซึ่งในปีนี้ได้ร่วมมือกับแบรนด์นาฬิกาชั้นนำกว่า 180 แบรนด์ จำนวนกว่า 30,000 เรือน และในครั้งนี้ยังได้เพิ่มพิเศษที่เหนือกว่า เพื่อให้เป็นงานนาฬิกาที่ถ่ายทอดภาพลักษณ์และความแปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากงานนาฬิกาทั่วไป ด้วยการจับมือกับแบรนด์ ไบรทลิ่ง (Breitling) จัดแสดงคอลเลคชั่นใหม่ พานักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาสู่โลกของไบรทลิ่งให้สัมผัสจิตวิญญาณแห่งการบินและนวัตกรรมนาฬิกาสวิสชั้นสูงใจกลางกรุงเทพมหานคร ด้วยการเนรมิตพาร์คพารากอนเป็นสนามบินย่อยๆ โดยการนำเครื่องบินเจ็ทต้นแบบความยาวถึง 12 เมตร มาจอดที่พาร์คพารากอนเป็นที่แรกและที่เดียวในเอเชีย

นอกจากนี้ยังคาดหวังว่างาน สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016 จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาการจัดงานครั้งนี้ โดยคาดหวังนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศแถบเอเชีย อาทิ จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวจากแถบทวีปยุโรปจะเข้ามาใช้บริการ ซึ่งสอดคล้องกับการรายงานสถิติของกรมการท่องเที่ยว ที่ได้รวบรวมสถิตินักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ปี 2558  สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และคาดว่าทำให้เกิดเงินสะพัดในการช้อปปิ้งครั้งนี้รวมมูลค่ากว่า 350 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ระดับประเทศต้อนรับไตรมาส 3 ของปี 2559

โดยยอดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าสยามพารากอนในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา 3 อันดับแรกได้แก่ 1. จีน, 2. เกาหลี  3.สิงคโปร์ 

ด้าน นายจักรกฤษณ์  กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “งานสยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2016 เป็นงานที่รวบรวมนาฬิการะดับเวิล์ดคลาสซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตของตลาดนาฬิกาทั้งประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย ปีนี้  WATCH GALLERIA พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ได้รวบรวมนาฬิการะดับเวิลด์คลาส ที่นักสะสมนาฬิกาพลาดไม่ได้ จากแบรนด์ชั้นนำที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ลิมิเต็ด อิดิชั่น และนาฬิกา ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนรักนาฬิกา จากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำของโลกที่ร่วมนำเสนอเรือนเวลาภายในงาน ได้แก่  BREITLING, BAUME&MERCIER, CORUM, FREDERIQUE CONSTANT, GRAHAM, GUCCI, GLASHUTTE ORIGINAL, HUBLOT, MAITRES DU TEMPS, MONTBLANC, NOMOS GLASHUTTE, LONGINES, ORIS , PERRELET, TAG HEUER, ZENITH และอีกมากมายส่งตรงจากงาน Basel World และ SIHH ซึ่งเป็นงานแสดงนาฬิการะดับโลกที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มาให้ได้สัมผัสก่อนใคร ภายในงานได้มีการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่, รุ่นเอ็กซ์คลูซีฟจาก แบรนด์นาฬิกาให้ชมตลอดระยะเวลาการจัดงาน รวมไปถึง PARAGON REPORT ที่รวบรวมข้อมูลเทรนด์อัพเดทคอลเลคชั่นนาฬิกา พร้อมข้อเสนอพิเศษที่เหนือระดับและคุ้มค่าที่สุดให้ลูกค้าในงานนี้โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ภายในงานยังมีนิทรรศการสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเหล่าแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลก ที่รับประกันได้ว่าจะเป็นประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับคนไทย โดยนำเอาคอนเซ็ปต์การจัดนิทรรศการที่งาน Basel World 2016 มาจัดแสดงภายในงาน ประกอบด้วย แกรนด์ ไซโก้ (Grand Seiko) กับนิทรรศการ Grand Seiko Avant-Garde Exhibition ที่เชื่อมโยงศิลปะและพลังวิเศษแห่งการสร้างสรรค์ ที่ได้นำเอาคอนเซ็ปต์นิทรรศการเดียวกันกับที่จัดขึ้นในงาน BASEL WORLD 2016 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาจัดแสดงกับภาพถ่ายโดย 2 ช่างภาพร่วมสมัยชื่อดังชาวญี่ปุ่น   Mr. Daido Moriyamo และ Mr. Nobuyashi Araki  ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ศิลปะแห่งเครื่องบอกเวลา รุ่น Black Ceramic และ กุชชี่ (GUCCI) จัดงานนิทรรศการยิ่งใหญ่แห่งปี Travelling Exhibit นับเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ Gucci Timepiece จะเปิดคลังมหาสมบัติแห่งงานศิลป์อันทรงคุณค่า “Cabinet of Curiosity” โชว์ความหรูหราของทุกคอลเลคชั่นในเมืองไทยและสะท้อนถึงภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ ภายใต้การสร้างสรรค์ของ Creative Director คนใหม่ อเลสซานโดร มิเคเล่ ที่ได้รับการยอมรับ จากทั่วโลก โดยนิทรรศการจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 25 ก.ค.- 15 ส.ค. ศกนี้ ณ ฮอลล์ ออฟ เฟม ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน

สำหรับนาฬิกาที่ได้รับความนิยมและน่าจับตามองในปีนี้ คือ  นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ หรือนาฬิกาอัจฉริยะ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากทั่วโลกและมีการเติบโตของยอดจำหน่ายสูงสุดในภาพรวมของตลาดนาฬิกาโลก เนื่องจากราคาไม่สูงสามารถจับต้องได้ และเป็นนาฬิกาที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยนาฬิกาสมาร์ทวอทช์มีความสามารถพิเศษมากกว่าการบอกเวลา และมีความสามารถในหลายๆ ด้าน นอกจากนี้ ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำหลายแบรนด์ได้นำนาฬิการุ่นคลาสสิคที่เคยได้รับความนิยมในอดีต  และรุ่นยอดนิยมมาผลิตอีกครั้ง เพื่อให้นักสะสมได้เลือกสรรในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายมากขึ้น ส่วนวัสดุที่ได้รับความนิยมในปีนี้เป็น สตีล และไทเทเนียม โดยสีที่มาแรง คือ สีฟ้า สีเขียว สีเยลโล่โกลด์ และสีโรสโกลด์

โดยภาพรวม วอทช์ แกลอเรีย (WATCH GALLERIA) ในปี 2559 ใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในการทำการตลาด การขยายสาขาและปรับโซนนิ่งใหม่ แบ่งเป็น สาขาบางกะปิ, นครราชสีมาและบลูพอร์ท ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการจัดทำโซนสมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) ใน 3 สาขาหลัก ได้แก่ พารากอน,  ดิ เอ็มโพเรียมและบางกะปิ จากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำ อาทิ TAG HEUER (เฉพาะสาขาพารากอน), Suunto, Casio, Fitbit และ Fossil Q ด้วยเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ประกอบกับผู้ประกอบการแบรนด์นาฬิกาชั้นนำทยอยออกคอลเลคชั่นใหม่ ด้วยราคาและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปี 2559 วอทช์ แกลอเรีย ตั้งเป้าเติบโตขึ้น 10-12%

    การจัดงาน สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016 ในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะสร้างความสนใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบและนักสะสมนาฬิกาชาวไทยและต่างประเทศตลอดจนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มประเทศแถบเอเชียและชาวไทยได้เป็นอย่างดี คาดว่าจะมียอดผู้เข้าร่วมชมงานราว 120,000 คนตลอด 22 วันของการจัดงาน” นายจักรกฤษณ์กล่าวสรุป

ทั้งนี้สยามพารากอนยังได้เตรียมมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษและของรางวัลมากมาย ถึง 9 ต่อ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดพิเศษสูงสุดกว่า 50% พิเศษสำหรับสมาชิกบัตร เอ็ม การ์ด (M Card) และแพลตตินัม เอ็ม การ์ด (Platinum M Card) รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด  8% พร้อมรับสิทธิลดเพิ่ม 12.5% เมื่อใช้คะแนนสะสม M Point เท่ากับยอดซื้อ อีกทั้งโปรแกรมผ่อน 0% นาน 10 เดือน พร้อมรับ Cash back/ on top จากบัตรเครดิตชั้นนำสูงสุด 25+20% นอกจากนี้เมื่อช้อปฯ นาฬิกาครบ 300,000 – 500,000 บาท รับทันทีบัตรจอดรถที่สยามพารากอน  ฟรี 6 เดือน และช้อปครบ 800,000 บาทขึ้นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด รับทันทีบัตรจอดรถที่สยามพารากอนฟรี 1 ปี พร้อมกันนี้ยังแลกรับ E-Voucher สูงสุด 10,000 บาทผ่าน www.facebook.com/watchgalleria เพื่อใช้เป็นส่วนลดทันที และรางวัลอื่นๆ มากมาย ตลอดจนข้อเสนอชั้นสุดพิเศษอีกมากมายที่นำมามอบให้เฉพาะงานนี้เท่านั้น

รายชื่อผู้บริหาร (จากซ้าย)

- มร.ฮารุมิตซึ อากาชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก ประเทศไทย จำกัด 
Harumitsu Akashi, Managing Director, SEIKO THAILAND CO.,LTD

- คุณตุนท์  มหาดำรงค์กุล ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายการตลาด บริษัท โทรคาเดโร ไทม์ 
Toon Mahadumrongkul, Chief Executive Marketing & Sale, TROCADERO TIME CO., LTD.

- คุณจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด 
Jakkrit Keeratichokchaikun, Senior Vice President Chief Merchandising Officer, the Mall Group

- คุณชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการ สายงานกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์  จำกัด 
Chanika Kaewreun, deputy managing director of marketing events and business relations of Siam Piwat Co., Ltd.

- คุณยูกิ ศรีกาญจนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพนดูลัม จำกัด 
Yuki-Srikarnchana. Managing Director, Pendulum CO., LTD. 

- คุณศาศวัต ตัณมานะศิริ ผู้บริหาร บริษัท ที เอส แอล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 
Sasawat  Tanmanasiri, Vice President, TSL INTERNATIONAL CO.,LTD

     “สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม ศกนี้ ณ ฮอลล์ ออฟ เฟม, วอทช์ บูติก ,คริสตัล คอร์ท และ วอทช์ แกเลอเรีย พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ชั้น M และแฟชั่น ฮอลล์,  พื้นที่ฝั่งสตาร์ โดม ชั้น 1 สยามพารากอน สอบถามรายละอียดเพิ่มเติมโทร. 0-2610-8000

Masterpiece
อูโบลท์” รุ่น เอ็มพี-05 ลา เฟอร์รารี่ (Hublot  : MP-05 La Ferrari) ราคา   16,200,000 บาท แสดงแบบโดย เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ
หนึ่งในผลงานที่ตอกย้ำสายสัมพันธ์และความเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นและยาวนานระหว่างอูโบลท์ และ เฟอร์รารี่ แบรนด์ซูเปอร์คาร์ โดยผลงานรุ่นนี้เป็นหนึ่งในสุดยอดนวัตกรรมบอกเวลาที่มีความพิเศษสูง ถ่ายทอดแบรนด์ ดีเอ็นเอของความเป็นเฟอร์รารี่อันได้แก่ 'สปอร์ต, เพอร์ฟอร์แมนซ์ และเทคโนโลยี' ได้อย่างดีเยี่ยม และด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัยฉีกกฏทุกเรือนเวลากับหน้าปัดจำลองเสมือนจริงมาจากเครื่องยนต์ของรถยนต์เฟอร์รารี่ โดยเลือกสรรวัสดุล้ำค่าอย่างทองคำมาขึ้นตัวเรือน โดยออกแบบคล้ายทรงสี่เหลี่ยมคางหมู โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องยนต์พลังแรงของ เฟอร์รารี่ นั้นคือขุมพลังของกระปุกลานจำนวนมากถึง 11 ชุดที่สามารถปล่อยพลังขับเคลื่อนให้กลไกเวลาทำงานอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 50 วัน และนั่นจึงเป็นสถิติที่ เอ็มพี-05 ลา เฟอร์รารี่ กลายเป็นนาฬิกากลไกไขลานทูร์บิญองที่สามารถสำรองพลังงานได้นานที่สุดในโลก
แมเตรอส์ ดู ตอมป์ส รุ่น แชปเตอร์ ทรี รีวีล  (Maîtres du Temps : Chapter Three Reveal) ราคา 3,710,000 บาท
	ประดิษฐกรรมเรือนเวลาที่ผลิตจาก White Gold  18 กะรัต  ประกอบด้วยชิ้นส่วน 49 ชิ้น  ขนาด 42 มม.  กระจกแซฟไฟร์คริสตอลด้านบนและด้านหลังพร้อมสารเคลือบป้องกันแสงสะท้อน  ปุ่มกดเพื่อแยกกระบอกหมุนจากระบบบอกเวลาเมื่อมีการตั้งเวลาประเทศที่สอง  เม็ดมะยมสามตำแหน่งพร้อมปุ่มกด  เข็มผลิตจาก White Gold 18 กะรัต  ปั๊มเข้ารูป ลบเหลี่ยมด้วยมือและขัดเงาที่หัว  เข็มนาทีดัดโค้ง ส่วนสายเป็นหนังจระเข้เย็บมือพร้อมหัวเข็มขัดผลิตจาก White Gold 18 กะรัต เช่นกัน
มงต์บลองค์ 4810 เอ็กโซ ทูร์บิญอง สลิม 110 เยียร์ส เอดิชั่นส์ (Montblanc 4810 ExoTourbillon Slim 110 Years Editions) ราคา 1,660,200 บาท
	แนวคิดหลักเรื่องการข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกปรากฏชัดในนาฬิกา Montblanc ExoTourbillon Slim 110 Years Editions แบบมีการวาดแผนที่ของทวีปเอเชียขนาดจิ๋วด้วยมือลงบนหน้าปัด  นาฬิกาทั้ง 110 เรือนมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครเพราะแผนที่ทุกภาพถูกวาดด้วยมือทีละครั้ง ช่วงล่างของหน้าปัดตกแต่งด้วยลายคลื่นเจนีวาเพื่อช่วยทำให้ตัวกลไก ExoTourbillon ที่ 6 นาฬิกายิ่งดูโดดเด่น และตัวเลข XII ชุบโรเดียมกับเข็มเจาะโปร่งชุบโรเดียมจะช่วยทำให้มองแผนที่ได้ชัดเจนมากขึ้น
แฟรงค์ มูลเลอร์ รุ่น แวนการ์ด เลดี้ (Franck Muller : Vanguard Lady) ราคา  1,476,000 บาท
	Vanguard Lady ตัวเรือนทรงซินทรี เคอร์เว็กซ์ ขนาดตัวเรือนเหมาะสำหรับข้อมือคุณสุภาพสตรี เพิ่มความเป็นประกายสะดุดสายตาด้วยหน้าปัดลวดลายรัศมีแห่งดวงอาทิตย์ หน้าปัดประดับตัวเลขบอกเวลาแบบแยกชิ้นนูนสูงเหนือหน้าปัด และตัดขอบตัวเลขด้วยสีสันแห่งความสนุกได้แก่ สีฟ้า สีชมพู สีม่วง บ่งบอกความสง่างามของอิสตรีอย่างแท้จริง มาพร้อมตัวเรือนสเตนเลสสตีล ภายในบรรจุกลไกควอตซ์อันเที่ยงตรง หรือกลไกอัตโนมัติ ในรูปแบบตัวเรือนทองพิงค์โกลด์อันเริดหรูรับกับหน้าปัดสีขาวสวย หรือเพิ่มความงดงามอีกระดับกับขอบหน้าปัดประดับเพชร
ไอดับบลิวซี รุ่น บิ๊ก ไพล็อทส (IWC : Big Pilot’s) ราคา 1,620,000 บาท
	เป็นรุ่นที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับนักบินตั้งแต่ปี 1940 ความพิเศษของเรือนนี้คือ ได้ถูกปรับไซส์ให้เล็กลงที่ 44 มิลลิเมตร เพื่อให้สวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ส่วนฟังก์ชั่นของนาฬิกาที่พิเศษกว่ารุ่นอื่นๆ ได้แก่ กระจกแซฟไฟร์ ที่สามารถป้องกันแรงกดอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และตัวเรือนนาฬิกายังมีชิ้นส่วนที่สามารถป้องกันสนามแม่เหล็ก ทำให้นาฬิกาไม่ถูกรบกวนและเดินเที่ยงตรงยิ่งขึ้น
เกรแฮม รุ่น โครโนไฟเตอร์ โอเวอร์ไซส์ ซูเปอร์ไลท์ คาร์บอน สเกลเลตัน (Graham : Chronofighter Oversize Superlight Carbon Skeleton) ราคา 416,000  บาท
	นวัตกรรมใหม่ในการผลิตตัวเรือนนาฬิกาจากคาร์บอนไฟที่ทำให้นาฬิกามีน้ำหนักเบากว่า 100 กรัม หน้าปัดเป็นแบบสเกลเนตัน เห็นการทำงานของกลไก กระเดื่องไก ขอบตัวเรือน และหัวเข็มขัดก็ยังทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ด้วยเช่นกัน
โฆรุ่ม รุ่น แอดมิรัลส คัพ ลีเจนด์ 47 เวิลด์ทามเมอร์ (Corum : Admiral’s Cup Legend 47 worldtimer) ราคา 632,700 บาท
	นาฬิกาสัญชาติสวิสเรือนหรูที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่อง CO 637 ระบบอัตโนมัติ สำรองพลังงานได้ 48 ชั่วโมง เดินด้วยความถี่ 4HZ,  รอบแรงสั่นสะเทือน 28,000 ครั้งต่อชั่วโมง การทำงานเป็น ชั่วโมง นาที มีเข็มวินาทีเล็ก มีแกนตั้งเวลาต่างประเทศพร้อมระบุสถานที่ตั้ง ตัวเมือง มีหน้าปัดย่อยสำหรับตั้งเวลาโลก มีเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกาซึ่งใช้เป็นตัวตั้งเวลาต่างประเทศ ตัวเรือนขนาด 47 มม. หนา 17.20 มม. วัสดุไททาเนียม เกรด 2 ทองคำชมพู 5N 18 กะรัต กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมฉาบกันสะท้อนแสง กันน้ำได้ 100 เมตร หน้าปัดแซฟไฟร์รมควัน สีเทาดำ ประดับธงสีสัญลักษณ์ทางทะเลตรงตำแหน่งชั่วโมง มาพร้อมสายยางสีดำ
โบม เอต์ แมร์ซิเยร์ รุ่น เคปแลนด์ (Baume & Mercier  : Capeland) ราคา 688,500 บาท
	สะท้อนภาพแห่งความทะมัดทะแมงอย่างเอกบุรุษด้วยตัวเรือนทองชมพูสีเข็ม 18 k ขนาด 44 มิลลิเมตร หนา 16.5 มิลลิเมตร ผ่านงานขัดเงาและขัดด้านแบบ satin-finished ที่ขอบตัวเรือน ผนึกด้วยกระจกคริสตัลแชพไฟร์ทรง “cheve” เคลือบด้วยสารกันแสงสะท้อน ทั้งบนหน้าปัดและฝาหลังซึ่งยึดเข้ากับตัวเรือนด้วยสกรู 4 ตัว แสดงเวลาอย่างชัดเจนด้วยหน้าปัดสีเทาขี้เถ้า โค้งนูนเล็กน้อย  ประกอบทับทิม 27 เม็ด ติดตั้งโรเตอร์ฉลุเปลือยและแกะสลักลวยลาย “Cotes de Geneve” ลายก้นหอย และสัญลักษณ์ PHI ของแบรนด์  สำรองพลังงานได้นาน 48 ชั่วโมง กันน้ำได้ลึก 50 เมตร เสริมด้วยความคลาสลิกสายหนังจระเข้สีน้ำตาลเข้ม
ไบรทลิ่ง ฟอร์ เบนท์ลีย์ บี06 มิดไนท์ คาร์บอน (Breitling for Bentley B06 Midnight Carbon) ราคา 444,400 บาท
	ความสวยงามแห่งสีดำที่บรรจบกับความพิเศษสุดทางเทคนิค ทั้งตัวเรือนและขอบตัวเรือนทำจากสตีลขัดด้านซาติน ตกแต่งด้วยลวดลายลูกบิดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตะแกรงหม้อน้ำชื่อดังของเบนท์ลีย์ เคลือบด้วยกระบวนการเคลือบฐานคาร์บอนทนทานสูงสีดำ หน้าปัดยังมอบเวทีของภาพที่ตัดกันอย่างโดดเด่นระหว่างพื้นหลังเปลือกหอยมุกสีดำแวววาว กับบรรดาหน้าปัดย่อยแบบด้าน และเครื่องหมายแสดงสีแดงและสีขาว เอกลักษณ์ของความเป็นต้นตำรับและทรงพลังนี้ยังคงปรากฏอยู่บนด้านหลังของนาฬิกา กับโรเตอร์ขึ้นลานสลักรูปแบบ 360 องศาโดดเด่น สะท้อนถึงรูปทรงของขอบล้อ และสามารถมองเห็นได้ผ่านฝาหลังกระจกคริสตัลแซพไฟร์ใสผลิตเพียง 500 เรือนเท่านั้น
Luxury
ลองจินส์ รุ่น อีเควสเทรียน (LONGINES : Equestrian Collection) ราคา 245,700 บาท
	ฉลองความสง่างามแห่งโลกกีฬาขี่ม้า กับคอลเลคชั่น “ลองจินส์ อีเควสเทรียน” ลองจินส์รุ่นนี้ทำงานด้วยเครื่องควอตซ์  ตัวเรือนทำจาก สแตนเลสสตีลแท้ขัดเงาขนาด 30 มม.ล้อมเพชร สวยงามโดดเด่นด้วยหน้าปัดมุก  Mother of pearl   ตำแหน่งบอกเวลาเป็นเพชร 12 เม็ด บอกเวลาด้วยเข็มชุบโรเดียมหรือบลูด์สตีล เสริมให้ข้อมือของหญิงคนรักกีฬาขี่ม้า ได้เต้นรำไปตามจังหวะของเวลาและผสานกับการก้าวของม้าอย่างผ่าเผย
แกรนด์ ไซโก รุ่น แบล็ค เซรามิก โครโนกราฟ จีเอ็มที ลิมิเต็ด เอดิชั่น (GRAND SEIKO : Black Ceramic Chronograph GMT Limited Edition) ราคา 399,500 บาท
	นาฬิกา Grand Seiko Black Ceramic Chronograph GMT Limited Edition ถือเป็นนาฬิกา Grand Seiko รุ่นแรกที่ผลิตด้วยเซรามิกสีดำ ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติทนทานต่อการขีดข่วนสูง ทนทาน แต่น้ำหนักเบา ผนวกกับความแข็งแกร่งของไทเทเนียมแบบความหนาแน่นสูง (High-Intensity Titanium) เหมาะสำหรับการใช้ทำตัวเรือนและขอบตัวเรือนเป็นอย่างยิ่ง งามสง่าด้วยหน้าปัด อันได้แรงบันดาลใจมาจากงานในเทศกาล "ออนบาชิระ" ถือเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ 6 ปี และจัดมายาวนานร่วม 1,200 ปี ของศาลเจ้า Suwa ซึ่งอยู่ใกล้กับที่ตั้งของสตูดิโอผลิตนาฬิกา แกรนด์ ไซโก
ชาริโอล์ เซ็นต์ โทรเพซ์ 35 (Charriol ST-TROPEZ™ 35) ราคา  299,900  บาท
	ด้วยรูปลักษณ์หน้าปัดที่ใหญ่ขึ้นถึง 35 มม ยิ่งช่วยอวดความงามของผ้าใบบนหน้าปัดนาฬิกา มาพร้อมฟังก์ชั่นปฏิทินจันทรคติ ประดับตกแต่งด้วยไข่มุกมาเตอร์ ออฟเพิร์ล สุดหรูหรา เพื่อเป็นการอุทิศให้กับดวงจันทร์ที่ส่องแสงสว่างไสวในทุกค่ำคืน นาฬิกาขนาด 35 มม. มาพร้อมกับขอบหน้าปัดขัดเงา บรรจงสลักโลโก้สุดหรู CHARRIOL ลงบนขอบหน้าปัด มาพร้อมสายเคเบิ้ลเอกลักษณ์หนึ่งเดียวระดับไอคอนิดของแบรนด์ และตัวล็อคข้อสาย เรือนเวลาโดดเด่นด้วยสายสเตนเลสสตีลเงางาม สีทองงามอร่าม และสีโรสโกลด์ เคลือบ พีวีดี
กุชชี่ รุ่น ไดอามานทิซซิม่า (GUCCI : Diamantissima) ราคา 44,000-89,500 บาท
	หนึ่งในคอลเลคชั่นนาฬิกาอันเลื่องชื่อของแบรนด์แฟชั่นระดับเวิล์ดคลาส กุชชี่ (GUCCI)  หลังจากการเปิดตัวคอลเลคชั่นอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่ผ่านมา  ด้วยแรงบันดาลใจจาก "ไดอามานเต" (Diamante) แพทเทิร์นที่เรียบง่ายด้วยการเรียงตัวของสี่เหลี่ยมแบบไขว้สลับกันอย่างสวยงาม เหมือนดั่งเหลี่ยมมุมของเพชร อันเป็นไอคอนเด่นของแบรนด์ ที่ในครั้งนี้จะถูกนำมาสานต่อไอเดียผ่านโมเดลใหม่ล่าสุด เพื่อสะท้อนถึง ‘แนวคิดร่วมสมัยของกุชชี่’ ให้กลับมาสร้างแรงบันดาลใจที่เปี่ยมด้วยอิสระแห่งจินตนาการอีกครั้ง

Trend
วิกทอริน็อกซ์ สวิส อาร์มี รุ่น แอร์บอส มาช 9 (Victorinox Swiss Army : AIRBOSS MACH 9) ราคา 101,900 บาท
	Victorinox Swiss Army เปิดตัวคอลเล็กชั่นล่าสุด Limited edition ของปี 2016 รุ่น AIRBOSS MACH 9 ตัวเรือน ไทเทเนี่ยมพ่นทรายขนาด 42 มม. ป้องกันรอยขีดข่วน หน้าปัดเคลือบสารกันแสงสะท้าน 3 ชั้น กันน้ำ 100 เมตร (10 ATM/330 ฟุต) สกรูบนฝาหลังสแตนเลส หน้าปัดและสายนาฬิกาสีเทา ตัวเลขหน้าปัด + เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีเคลือบด้วยสารเรืองแสงบนเข็มนาฬิกา นาฬิกาแบบทหารพิมพ์สีแดงภายใต้กระจกหน้าปัดนาฬิกา
แทค ฮอยเออร์ รุ่น คาร์เรร่า คาริเบอร์ ฮอยเออร์ 01 (TAG HEUER : CARRERA-CALIBRE HEURE 01) ราคา 199,500 บาท
	ทำงานด้วยระบบกลไกโครโนกราฟที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ โดยใช้ชื่อว่า “Heure 01” เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง “ “EdouardHeure01”  ด้วยการดีไซน์ใหม่ที่ออกแบบมาให้ดูโปร่ง เผยให้เห็น รายละเอียดของระบบกลไกการทำงานของโครโนกราฟ พร้อมด้วยหน้าต่างแสดงวันที่แบบเปลือยบนหน้าปัด ฝาหลังเปลือย แสดงให้เห็นคอลัมวีลสีแดง ลูกตุ่มโปร่งและสะพานชุดจับเวลาสีดำ ที่สามารถดึงดูดสายตาให้มองลึกลงไปถึงระบบกลไกภายในที่ซับซ้อนและผลิตขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน
ราโด รุ่น เซนทริกซ์ โอเพ่น ฮาร์ท (Rado : Centrix Open Heart) สนนราคา 82,000- 83,800 บาท
	ดีไซน์เปิดให้เห็นความพิถีพิถันตัวเครื่องด้านใน โดยได้แรงบันดาลใจในการสรรสร้างจากตำนานความรักสุดแสนโรแมนติกจากตำนานจีนโบราณ เรื่อง “เจ็ดนางฟ้า” หรือที่เรารู้จักกันดีในเรื่องราวตำนานความรักของ “หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า”    ตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบออโตเมติก , พลอย 25 เม็ด, 3 เข็ม และสามารถสำรองเวลาสูงสุดถึง 80 ชม. ตัวเรือนทำจาก สแตนเลสสตีลขัดเคลือบ PVD สีชมพูกุหลาบ (โรสโกลด์) ฝาหลังสแตนเลสสตีล พร้อมกระจกแซฟไฟร์คริสตัลทั้งสองด้าน  หน้าปัดเป็นสแตนเลสสตีลขัดเคลือบ PVD สีชมพูกุหลาบ ตัดกระจกแซฟไฟร์ขอบโค้ง กันน้ำระดับ 3 บาร์ (30 เมตร)
เฟรดเดอริค คองสตรงค์ ฮาร์ทบีท เมนูแฟกเจอร์ (FREDERIQUE CONSTANT : Heart Beat Manufacture) ราคา 172,000 บาท
	ตัวเรือน    ตัวเรือนสเตนเลสสตีล แบบ 3 ส่วน ขัดเงา, ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 41 มม.  กระจกคริสตัลแซพไฟร์โค้งนูน  ฝาหลังเปลือยด้วยกระจกใส กันน้ำได้ลึก 50 เมตร  ประดับทับทิม 26 เม็ด หน้าปัดสีเงิน, พร้อมพิมพ์ตัวเลขโรมันเข็มชี้สีดำขัดเงาด้วยมือ  สำรองพลังงานได้นาน 42ชั่วโมง
ไซโก รุ่น จิมเบ ลิมิเต็ด เอดิชั่น (SEIKO : Zimbe Limited Edition)   ราคา 23,600 บาท
	ขอบตัวเรือนเซาะร่องให้ความรู้สึกดั่งเกลียวคลื่น เงางามตัดกับตัวเรือนและสายอย่างลงตัว ขีดเครื่องหมาย จุดหลักแสดงชั่วโมงเคลือบด้วยสารเรืองแสง Lumibrite (ลูมิไบร์ท) อ่านค่าเวลาได้ชัดเจน แม้อยู่ในสภาวะแสงน้อย เข็มแสดงเวลาขนาดใหญ่ พร้อมเข็มวินาที สีส้ม ตัดสีส้มบนหน้าปัดสีเทาที่ได้แรงบันดาลใจจากสีของฉลามวาฬ กระจกหน้าปัด Sapphire Crystal ป้องกันรอยขีดข่วน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังคุณภาพคาลิเบอร์ 4R36  เสริมประสิทธิภาพด้วยทับทิมช่วยลดแรงสึกกร่อนในตัวเครื่องถึง 24 เม็ด มาพร้อม AIR DIVER’S ปกป้องตัวเรือนจาก Helium Gas เมื่ออยู่ใต้ท้องทะเลลึก นอกจากนั้นกันน้ำลึกได้ถึง 200 เมตร แถมฟรีสายยางคุณภาพสูง(Rubber Band) และกล่องพิเศษเฉพาะรุ่น  ผลิตอย่างพิถีพิถัน และสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะในประเทศไทย ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 1,299 เรือน เท่านั้น

Masterpiece
BREITLING รุ่น EXOSPACE B55  (ไบรทลิ่ง รุ่น เอ็กโซสเปซ บี55) ราคา 301,300  บาท
	สมรรถนะคือแนวทางหลักของไบรทลิ่งในการสร้างแต่ละก้าวของความก้าวหน้าทางเทคนิค และยังเป็นพลังขับเคลื่อนหลักสำหรับแบรนด์ในการพัฒนานาฬิกาโครโนกราฟเชื่อมต่อเป็น รุ่นแรกขึ้น โดยการเปลี่ยนนาฬิกาให้กลายเป็นอุปกรณ์ที่สามารถขยายการเชื่อมต่อไปยัง สมาร์ทโฟน แต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูง และมีฟังก์ชั่นโครโนกราฟที่ยังคงเป็นหัวใจหลักของนาฬิกา ขณะที่การเชื่อมต่อนั้นออกแบบมาเพื่อปรับปรุงฟังก์ชั่นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การสื่อสารแบบสองทางจึงทำให้อุปกรณ์ทั้งสองชิ้นนี้กลายเป็นอุปกรณ์คู่ที่สามารถเติมเต็มการทำงานซึ่งกันและกัน โดยแต่ละชิ้นก็จะทำหน้าที่ที่ตนทำได้ดีที่สุด และเพราะคุณสมบัติหลักสำคัญของสมาร์ทโฟนคือการใช้งานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ ผ่านหน้าจอ และจุดสัมผัสหรือตัวประสาน ดังนั้น เจ้าของ เอ็กโซสเปซ  บี55 จึงยังสามารถใช้โทรศัพท์ของพวกเขาในการปรับตั้งฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
CORUM รุ่น Coin Black Dial (โฆรุ่ม รุ่น คอย แบล็ก ไดแอล) ราคา 839, 900บาท แสดงแบบโดย คุณจินณ์ปภัชร์ พงษ์นฤสรณ์
	สุดยอดทรัพย์สินที่เพิ่มมูลค่าผ่านกาลเวลา โฆรุ่ม นาฬิกาเหรียญทองคำ ระบบไขลาน ติดตั้งอยู่บนชุดกลไก CO293 สำรองพลังงานได้ 27 ชั่วโมง แสดงเวลา ชั่วโมง และนาที ตัวเรือนขนาด 36 มม. ทำจากทองคำ 18 กะรัต เม็ดมะยมประดับเพชร 0.17 กะรัต กันน้ำได้ 30 เมตร หน้าปัดทำจากทองคำ 22 กะรัต เคลือบพีวีดีรมควัน สีเทาดำ สายหนังจระเข้สีดำคริสตัล แซฟไฟร์ กันน้ำได้ 300 เมตร  สายหนังจระเข้สีดำ และหัวเข็มขัดรัดสายใช้วัสดุพิงค์โกลด์
HUBLOT รุ่น Classic Fusion Tourbillon Skull (อูโบลท์ รุ่น คลาสสิก ฟิวชั่น ทูร์บิญอง สกัล) ราคา 4,500,000 บาท   แสดงแบบโดย คุณกฤตย์ โอสถานุเคราะห์
	อูโบลท์ นำเสนอผลงานรุ่นพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ อูโบลท์ สกัล (Hublot Skull) ที่มาพร้อมความพิเศษของกลไกทูร์บิญอง ผสานรูปแบบของงานดีไซน์ตัวเรือนและฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างโฉบเฉี่ยวและร่วมสมัย โดยใช้วัสดุอลูมิเนียมเคลือบด้วยเซรามิกสีดำเสริมสร้างลุคที่ดูหรูหราและโดดเด่น ก่อนที่จะมีการนำมาขัดแต่งขึ้นลายแบบด้านด้วยมือ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเรือน ซึ่งมีการจัดอันดับความแข็งที่สูงถึงประมาณ 1000 วิคเกอร์ โดยมีคุณสมบัติพิเศษสามารถต้านทานต่อการกัดกร่อนและแรงเสียดทานได้เป็นอย่างดี และยังมีน้ำหนักเบาเป็นสองเท่าของเซรามิกด้วย คลาสสิกฟิวชั่น ทูร์บิญอง สกัล บรรจุกลไก ไขลาน ทูร์บิญองแบบสเกเลตัน สำรองพลังงานได้นานถึง 5 วัน  ผลิตขึ้นมาเพียง 50 เรือน พร้อมหมายเลขกำกับตัวเรือนเบอร์ 9 ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในเมืองไทย
GLASHÜTTE ORIGINAL รุ่น Panomatic Lunar (กลาสฮุตเตอร์ ออริจินอล รุ่น พาโนมาติก ลูน่าร์) แสดงแบบโดย คุณมธุนาฏ ซอโสตถิกุล
	ตัวเรือนแสตนเลสสตีลขนาด 40 มม. กลไกออโตเมติก in-house ผลิตในโรงงานของตนเอง มาพร้อมช่องบอกวันที่ขนาดใหญ่ และ ช่องแสดงข้างขึ้นข้างแรม แสดงเวลาที่หน้าปัดและหน้าปัดย่อยในตำแหน่งเยื้องศูนย์ อันเป็นลักษณะเฉพาะของแบรนด์ กระจกแซฟไฟร์คริสตัล ฝาหลังเผยให้เห็นการทำงานของตัวเครื่อง มาพร้อมสายหนังจระเข้นูบัค
MONTBLANC รุ่น Heritage Spirit Perpetual Calendar Sapphire (มงต์บลองค์ รุ่น เฮอริเทจ สปิริต เพอร์เพ็ตชวล คาเลนดาร์ แซพไฟร์) ราคา 1,620,000 บาท แสดงแบบโดย คุณต่อสวัสดิ์ สวัสดิ์-ชูโต
	เครื่องบอกเวลาที่มาพร้อม Grand Complication หรือระบบกลไกที่ซับซ้อน ซึ่งมีระบบปฏิทินถาวรพ่วงมาเป็นพิเศษ เรือนนี้ทำงานด้วยเครื่องไขลานอัตโนมัติ Calibre MB 29.15 พลังงานสำรอง 42 ชั่วโมง ตัวปรับเวลาขนาดเล็กที่ยึดติดอยู่ที่ด้านในชิ้นกลางของตัวเรือนทองคำ 18K หน้าปัดโปร่งใส ซึ่งจะเผยให้เห็นระบบกลไกที่มีความซับซ้อนสูงของนาฬิการุ่นนี้เป็นพิเศษ ตัวบอกค่าของปฏิทินก็มองเห็นชัดเจนเมื่อเป็นตัวสีดำตัดกับพื้นผิวสีอมเงินของหน้าปัดย่อยที่ขัดลายวงกลม  วันของสัปดาห์จะปรากฏให้เห็นที่ 9 นาฬิกา และวันที่ที่ 3 นาฬิกา  ในหน้าปัดย่อยที่ 12 นาฬิกาจะมีเข็มชี้บอกเดือน และเพื่อเป็นการเก็บรักษามนตร์วิเศษทั้งหมดของหน้าปัดโปร่งใสเอาไว้ มงต์บลองค์เลือกที่จะเปิดจานแสดงดิถีพระจันทร์ออกมาให้เห็นทั้งแผ่น  ด้วยความตั้งใจที่อยากให้บรรดาคนรักระบบกลไกของเครื่องบอกเวลาที่เหนือใครได้ทุกสิ่งตรงกับความคาดหวังในแง่ของทั้งการออกแบบและคุณภาพที่ดีที่สุด ผ่านทดสอบการใช้งาน 500 ชั่วโมง
Luxury
FREDERIQUE CONSTANT รุ่น Lady Heart Beat New Delight (เฟรดเดอริค คองสตองท์ รุ่น เลดี้ ฮาร์ท บีท นิว ดีไลท์) ราคา 217,00 บาท
	ตัวเรือนสตีลชุบทองเยลโล่โกลด์ขัดเงา, ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 34 มม. กระจกคริสตัลแซพไฟร์ ประดับด้วยเพชร (0.56 กะรัต) กันน้ำได้ลึกระดับ 6 ATM (60 เมตร)  กลไกFC-310 ออโตเมติค เพชรรอบหน้าปัดจำนวน 56 เม็ด หน้าปัดหน้าปัดเปลือกหอยมุก ประดับด้วยเครื่องหมายบอกชั่วโมงประดับเพชร (หนัก 0.02 กะรัต) แบบนำมาติดไว้ภายหลังด้วยมือ เข็มชี้ ขัดเงาด้วยมือ  เจาะให้เห็นถึงกลไกภายในตัวเรือนสายสายหนังสีเบจเงาวาว
GRAND SEIKO รุ่น  Black Ceramic Chronograph GMT Limited Edition (แกรนด์ ไซโก รุ่น แบล็ค เซรามิก โครโนกราฟ จีเอ็มที ลิมิเต็ด เอดิชั่น) ราคา 399,500 บาท
	นาฬิกา Grand Seiko Black Ceramic Chronograph GMT Limited Edition ถือเป็นนาฬิกา Grand Seiko รุ่นแรกที่ผลิตด้วยเซรามิกสีดำ ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติทนทานต่อการขีดข่วนสูง ทนทาน แต่น้ำหนักเบา ผนวกกับความแข็งแกร่งของไทเทเนียมแบบความหนาแน่นสูง (High-Intensity Titanium) เหมาะสำหรับการใช้ทำตัวเรือนและขอบตัวเรือนเป็นอย่างยิ่ง งามสง่าด้วยหน้าปัด อันได้แรงบันดาลใจมาจากงานในเทศกาล "ออนบาชิระ" ถือเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ 6 ปี และจัดมายาวนานร่วม 1,200 ปี ของศาลเจ้า Suwa ซึ่งอยู่ใกล้กับที่ตั้งของสตูดิโอผลิตนาฬิกา แกรนด์ ไซโก
GUCCI รุ่น Diamantissima (กุชชี่ รุ่น ไดอามานทิซซิม่า) ราคา 44,000-89,500 บาท
	หนึ่งในคอลเลคชั่นนาฬิกาอันเลื่องชื่อของแบรนด์แฟชั่นระดับเวิล์ดคลาส กุชชี่ (GUCCI) ที่สร้างปรากฏการณ์ครองใจแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกอย่างรวดเร็ว หลังจากการเปิดตัวคอลเลคชั่นอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่ผ่านมา  ด้วยแรงบันดาลใจจาก "ไดอามานเต" (Diamante) แพทเทิร์นที่เรียบง่ายด้วยการเรียงตัวของสี่เหลี่ยมแบบไขว้สลับกันอย่างสวยงาม เหมือนดั่งเหลี่ยมมุมของเพชร อันเป็นไอคอนเด่นของแบรนด์ ที่ในครั้งนี้จะถูกนำมาสานต่อไอเดียผ่านโมเดลใหม่ล่าสุด เพื่อสะท้อนถึง ‘แนวคิดร่วมสมัยของกุชชี่’ ให้กลับมาสร้างแรงบันดาลใจที่เปี่ยมด้วยอิสระแห่งจินตนาการอีกครั้ง
LONGINES รุ่น  Equestrian Collection  (ลองจินส์ รุ่น อีเควสเทรียน) ราคา 59,500 บาท
	ฉลองความสง่างามแห่งโลกกีฬาขี่ม้า กับคอลเลคชั่น “ลองจินส์ อีเควสเทรียน” ลองจินส์รุ่นนี้ทำงานด้วยเครื่องควอตซ์  ตัวเรือนทำจาก สแตนเลสสตีลแท้ขัดเงาขนาด 30 มม.ล้อมเพชร สวยงามโดดเด่นด้วยหน้าปัดมุก  Mother of pearl   ตำแหน่งบอกเวลาเป็นเพชร 12 เม็ด บอกเวลาด้วยเข็มชุบโรเดียมหรือบลูด์สตีล เสริมให้ข้อมือของหญิงคนรักกีฬาขี่ม้า ได้เต้นรำไปตามจังหวะของเวลาและผสานกับการก้าวของม้าอย่างผ่าเผย
MAURICE  LACROIX  รุ่น  Masterpiece Skeleton  (มอริส ลาครัวซ์ รุ่น มาสเตอร์พีซ สเกเลตัน) ราคา 250,000 บาท
	นาฬิกาเรือนนี้จะพาให้เพลิดเพลินไปกับภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของสปริงหลัก ชุดจักรกรอก แกนไขลาน ตลอดจนชิ้นส่วนๆ อื่นๆ ของกลไกอีกมาก ซึ่งทั่วไปมักถูกแอบซ่อนไว้ให้พ้นจากสายตาช่างนาฬิกาที่ทรงฝีมือแห่งมอ-ริส ลาครัวซ์ มั่นใจว่าชิ้นส่วนแต่ละชิ้นผ่านการผลิตที่ได้มาตรฐานและปราศจากตำหนิใดๆ  จะเห็นเพียงความสมบูรณ์แบบเท่านั้นที่กลางใจของนาฬิกาเรือนนี้บรรจุด้วย movement ML134 ซึ่งเป็นเครื่องที่มอริส ลาครัวซ์ผลิตเอง  กลไกไขลานด้วยมือนี้มีสะพานจักรที่ทำเป็นลาย Grand Colimaçon (ก้นหอย) และพ่นทราย โดยเลือกได้ว่าจะเอาเป็นแบบทองคำดำหรือน้ำเงินเคลือบผิวแบบ CVD
ORIS รุ่น El Hierro Limited Edition Limited (โอริส รุ่น เอล แอร์โร ลิมิเต็ด เอดิชั่น) ราคา 77,900 บาท
	นาฬิกาไดฟ์เวอร์รุ่นล่าสุดที่ได้แรงบันดาลใจจากภูเขาไฟใต้น้ำ เลียนแบบหินภูเขาไฟด้วยสีดําและเทา ในขณะที่สีแดงถูกนําไปใช้ที่ขีดบอกเวลาเป็นนาทีของขอบวงแหวนบนหน้าปัด หน้าปัดและเข็มวินาทีจากจุดศูนย์กลางเปรียบเสมือนการไหลของลาวา นาฬิกาทํางานด้วยกลไกจักรกลอัตโนมัติ และกลไกทุกอย่างตามคุณสมบัติของนาฬิกาโอริส ไดฟ์เวอร์ อาควิส รวมทั้งขอบวงแหวนบนหน้าปัดแบบหมุนได้ทิศทางเดียวเคลือบเซรามิค บ่าป้องกันมะยม กันน้ำได้ถึงระดับ 30 บาร์/300เมตร ผลิตจํานวนจํากัด 2,000 เรือนทั่วโลกและ 50 เรือนในไทย
TAG HEUER รุ่น CARRERA-CALIBRE HEURE 01  (แทค ฮอยเออร์ รุ่น คาร์เรร่า คาริเบอร์ ฮอยเออร์ 01) ราคา 199,500 บาท
	ทำงานด้วยระบบกลไกโครโนกราฟที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ โดยใช้ชื่อว่า “Heure 01” เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง “ “EdouardHeure01”  ด้วยการดีไซน์ใหม่ที่ออกแบบมาให้ดูโปร่ง เผยให้เห็น รายละเอียดของระบบกลไกการทำงานของโครโนกราฟ พร้อมด้วยหน้าต่างแสดงวันที่แบบเปลือยบนหน้าปัด ฝาหลังเปลือย แสดงให้เห็นคอลัมวีลสีแดง ลูกตุ่มโปร่งและสะพานชุดจับเวลาสีดำ ที่สามารถดึงดูดสายตาให้มองลึกลงไปถึงระบบกลไกภายในที่ซับซ้อนและผลิตขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน

Trend
CASIO รุ่น EQB-600D (คาสิโอ รุ่น  EQB-600D) ราคา 19,900 บาท
	หน้าปัดแบบมัลติไดเมนชั่นทรงโดม  ลวดลายภายในหน้าปัดใหญ่ดูคล้ายโลกของเรา ซึ่งเกิดขึ้นจากเทคนิคงานหล่ออันล้ำสมัย 3D Globe Dial เข็มนาฬิกาแบบโค้งที่หน้าปัดภายในบ่งบอกถึงเขตเวลาสำหรับเมืองต่างๆ เมื่อเข็มนาฬิกาของหน้าปัดภายในอยู่ที่ครึ่งบนของ 3D Global Dial เป็นการระบุเวลากลางคืน ในโซนเวลานั้นๆ และเมื่อมันมาอยู่ในช่วงครึ่งล่าง จะหมายถึงช่วงเวลากลางวัน ในโซนเวลานั้นๆ นอกจากจากการบอกเวลาคาสิโอยังได้พัฒนา Accurate Time System ซึ่งจะช่วยเสริมฟีเจอร์ในการตั้งเวลา เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ระบบดังกล่าวถูกรวมเข้าไว้ในแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน CASIO Watch+ ซึ่งเชื่อมต่อกับนาฬิกา EQB-600D ระบบยังเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์เวลาของอินเตอร์เน็ตเพื่อให้ข้อมูลด้านเวลา และโยงข้อมูลด้านเวลาเข้ากับข้อมูลในแผนที่ เพื่อค้นหาเวลาได้ถูกต้อง โดยการดึงข้อมูลเขตเวลาจากโลเคชั่นปัจจุบัน และข้อมูลในเรื่องของการปรับเวลา (daylight savings) ด้วย
SEIKO รุ่น Zimbe Limited Edition (ไซโก รุ่น จิมเบ ลิมิเต็ด เอดิชั่น)   ราคา 23,600 บาท
	ขอบตัวเรือนเซาะร่องให้ความรู้สึกดั่งเกลียวคลื่น เงางามตัดกับตัวเรือนและสายอย่างลงตัว ขีดเครื่องหมาย จุดหลักแสดงชั่วโมงเคลือบด้วยสารเรืองแสง Lumibrite (ลูมิไบร์ท) อ่านค่าเวลาได้ชัดเจน แม้อยู่ในสภาวะแสงน้อย เข็มแสดงเวลาขนาดใหญ่ พร้อมเข็มวินาที สีส้ม ตัดสีส้มบนหน้าปัดสีเทาที่ได้แรงบันดาลใจจากสีของฉลามวาฬ กระจกหน้าปัด Sapphire Crystal ป้องกันรอยขีดข่วน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังคุณภาพคาลิเบอร์ 4R36  เสริมประสิทธิภาพด้วยทับทิมช่วยลดแรงสึกกร่อนในตัวเครื่องถึง 24 เม็ด กลไกจักรกลอัตโนมัติเลือกขึ้นลานผ่านเม็ดมะยม แฮ็คเข็มวินาทีเทียบตั้งเวลาได้ละเอียดแม่นยำ  มาพร้อม AIR DIVER’S ปกป้องตัวเรือนจาก Helium Gas เมื่ออยู่ใต้ท้องทะเลลึก เส้นผ่านศูนย์กลาง 44.3 มิลลิเมตร นอกจากนั้นยังเสริมประสิทธิภาพการกันน้ำลึกได้ถึง 200 เมตร แถมฟรีสายยางคุณภาพสูง(Rubber Band) และกล่องพิเศษเฉพาะรุ่น  ผลิตอย่างพิถีพิถัน และสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะในประเทศไทย ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 1,299 เรือน เท่านั้น
Sevenfriday รุ่น  Kuka II  (เซเว่นฟรายเดย์ รุ่น กูก้า ทู) ราคา 43,500 บาท
	นาฬิกาที่มีการติดตั้งฝังชิป NFC อยู่ภายในตัวเรือน เพื่อจัดเก็บข้อมูลและรับประกันพร้อมยืนยันว่าเรือนเวลาเหล่านี้เป็นของแท้ ตัวเรือนสเตนเลสสตีล พร้อมเคลือบด้วยเทคนิค PVD ป้องกันตัวเรือนอย่างดีด้วยยางซิลิโคนคงทนและยืดหยุ่นสูง กระจกหน้าปัดมิเนอรัลกลาสป้องกันรอยขีดข่วนและลดแสดงสะท้อนมาพร้อมสายหนังรับเบอร์คุณภาพสูงสีส้มสดใส สามารถกันน้ำได้ถึง 30 เมตร
Victorinox Swiss Armyรุ่น AIRBOSS MACH 9 (วิกทอริน็อกซ์ สวิส อาร์มี รุ่น แอร์บอส มาช 9) ราคา 101,900 บาท
	Victorinox Swiss Army เปิดตัวคอลเล็กชั่นล่าสุด Limited edition ของปี 2016 รุ่น AIRBOSS MACH 9 ตัวเรือน ไทเทเนี่ยมพ่นทรายขนาด 42 มม. ป้องกันรอยขีดข่วน หน้าปัดเคลือบสารกันแสงสะท้าน 3 ชั้น กันน้ำ 100 เมตร (10 ATM/330 ฟุต) สกรูบนฝาหลังสแตนเลส หน้าปัดและสายนาฬิกาสีเทา ตัวเลขหน้าปัด + เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีเคลือบด้วยสารเรืองแสงบนเข็มนาฬิกา นาฬิกาแบบทหารพิมพ์สีแดงภายใต้กระจกหน้าปัดนาฬิกา ตำแหน่งบอกเวลาที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา  สายหนังแท้สีน้ำตาลอ่อนเครื่อง Valjoux 7750 ระบบการทำงานอัตโนมัติ  ฟังก์ชั่นโครโนกราฟ: ชั่วโมง, นาที, วินาที, วันที่