เดนท์สุ มีเดียฯ จัดอันดับ 5 ประเด็นร้อนวงการกีฬาไทยที่ถูกพูดถึงผ่านทีวีมากที่สุด ครึ่งปีแรก
กรุงเทพฯ – เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จัด 5 อันดับประเด็นร้อนวงการกีฬาไทยที่ถูกพูดถึงผ่านสื่อโทรทัศน์มากที่สุดในช่วงครึ่งปีแรก โดยการจัดอันดับดังกล่าวทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากทีวีแพลทฟอร์มไวร์แอคชั่น (wireaction) ระหว่างช่วงเดือน มกราคม – มิถุนายน 2559 ซึ่งทำการเก็บรวบรวมคำและประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับวงการกีฬาไทยที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดผ่านทางสื่อโทรทัศน์ช่อง 3, 5, 7 และ 9 สามารถแยกได้ตามหมวดหมู่ต่างๆ ดังนี้ เหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับกีฬา, ประเภทกีฬายอดนิยม, นักกีฬาสุดฮอต, และความเคลื่อนไหววงการกีฬาผ่านแฮชแทคทีมไทยแลนด์ (#teamthailand)
มร.โยอิชิ นิวะ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด เผย 5 อันดับ ‘เหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับกีฬา’ ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด อันดับหนึ่ง ได้แก่ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 2016 รองลงมา การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2016 ถัดมา การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาลปี 2015 – 2016 ตามมาด้วย การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีกประจำปี 2016 และอันดับสุดท้าย คือ การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ฤดูกาลปี 2015 – 2016
“จะเห็นได้ว่า 2 อันดับแรกของเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับกีฬาที่ถูกพูดถึงมากที่สุด นั่นคือ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 2016 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ ณ กรุงริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล โดยได้รับการพูดถึงเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนถึง 3 เท่าหรือคิดเป็น 343% หากเปรียบเทียบกับปีก่อน และ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2016 ที่เพิ่งจบการแข่งขันไปเมื่อไม่นาน ถือว่ากีฬาประเภทฟุตบอลยังคงได้รับความนิยมจากผู้ชมรายการทีวีส่วนใหญ่ที่ติดตามรับชมการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง” มร.นิวะ กล่าว
มร.นิวะ กล่าวต่อไปอีกว่า 5 อันดับประเภท ‘กีฬายอดนิยม’ ช่วงครึ่งปีแรก ได้แก่ กีฬาวอลเลย์บอล ครองแชมป์อันดับหนึ่งที่ถูกพูดถึงผ่านสื่อโทรทัศน์มากที่สุด รองลงมา คือ กีฬาฟุตบอล ที่อยู่ในกระแสของความนิยม อันดับสาม ได้แก่ กีฬาแบดมินตัน ถือเป็นกีฬาที่ผู้คนให้ความสนใจและร่วมส่งพลังใจเชียร์ น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ ให้ชนะการแข่งขันเพื่อขึ้นเป็นนักแบดมือหนึ่งของโลก ในการแข่งขันแบดมินตันซูเปอร์ซีรี่ส์ ที่สาธารณรัฐสิงคโปร์ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ถัดมา คือ กีฬามวยไทย และ กีฬามวยสากล ตามลำดับ
“ประเภทกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ กีฬาวอลเลย์บอล ซึ่งหากเปรียบเทียบผลการจัดอันดับประเภทกีฬายอดนิยมเมื่อปีก่อน กีฬาวอลเลย์บอลได้รับความนิยมอยู่ในอันดับ 10 กล่าวคือ กีฬาวอลเลย์บอล มีพัฒนาการของทีมให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น จนสามารถครองใจทำให้มีผู้ติดตามรับชมการแข่งขันทุกนัดสูงสุด ณ ขณะนี้และทำให้วงการวอลเลย์บอลไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง”มร.นิวะ กล่าว
มร.นิวะ กล่าวว่า ’นักกีฬาสุดฮอต’ 5 อันดับ ของวงการกีฬาไทย อันดับหนึ่ง ได้แก่ น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันสาวไทยคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์ซูเปอร์ซีรีส์สามรายการติดต่อกันในช่วงระยะเวลาสามสัปดาห์ซึ่งทำให้คะแนนสะสมขึ้นนำจนได้เป็นนักแบดมินตันหญิงมือหนึ่งของโลกประเภทหญิงเดี่ยว และได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 2016 นี้อีกด้วย รองลงมา โค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ทำผลงานโดดเด่นในการคุมทีมทำให้คนไทยทั้งประเทศมั่นใจในการนำทัพสู้ศึกการแข่งขันฟุตบอล คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 รวมถึงการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2018 รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้ายที่กำลังเตรียมความพร้อมทีมเพื่อลุยสู้ศึกแข่งขันอยู่ขณะนี้ อันดับสาม ได้แก่ โปรเม เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟหญิงดาวรุ่งไทยที่ติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก ตามด้วย โปรแหวน พรอนงค์ เพชรล้ำ และ โปรช้าง ธงชัย ใจดี ที่กำลังฟอร์มร้อนแรงอยู่ในตอนนี้ ตามลำดับ
ด้าน ‘ความเคลื่อนไหววงการกีฬาไทยผ่านแฮชแทคทีมไทยแลนด์ (#teamthailand)’ ที่มีการพูดถึงผ่านทางสื่อโทรทัศน์ช่องฟรีทีวีมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ ฟุตบอลทีมชาติไทย รองลงมา นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ตามมาด้วย ฟุตซอลทีมชาติไทย ทีมนักตบลูกยางแบดมินตันทีมชาติไทย และ มวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าวงการกีฬาไทยยังคงเป็นที่จับตามองและอยู่ในกระแสความนิยมอย่างต่อเนื่อง มร.นิวะกล่าวเสริม
จากผลการจัดอันดับดังกล่าวของเดนท์สุ มีเดียฯ เน้นย้ำถึงศักยภาพของทีวีแพลทฟอร์มไวร์แอคชั่น (Wireaction) ที่เป็นเทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้องค์กรทุกภาคส่วนสามารถวางแผนการตลาดได้มีประสิทธิภาพ และรวมถึงจะเข้ามาช่วยกำหนดทิศทางและแนวโน้มของเทรนด์ความนิยมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันในได้อย่างหลากหลายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น มร.นิวะ กล่าวทิ้งท้าย
นายสรรค์ฉัตร จันทร์สระแก้ว กรรมการบริหาร บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังคงให้ความสนใจและนิยมรับชมรายการประเภทกีฬาเป็นอย่างมาก ส่งผลให้อุตสาหกรรมธุรกิจสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยมีแน้วโน้มการเติบโตที่สดใสต่อเนื่อง และผลการจัดอันดับดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เดนท์สุ มีเดียฯ เล็งเห็นความสำคัญที่จะสร้างสรรค์โครงการทีมไทยแลนด์ หนึ่งไทยเล่น ล้านไทยเชียร์ นี้ขึ้น โดยเดนท์สุ มีเดียฯ ได้ผนึกพลังร่วมกับทุกภาคส่วนของวงการกีฬาไทย นำโดย คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และรวมด้วยตราสินค้าต่างๆ เปิดตัวโครงการทีมไทยแลนด์ฯไปเมื่อเร็วๆนี้
นายสรรค์ฉัตร กล่าวเพิ่มเติมว่า เดนท์สุ มีเดียฯ คือผู้นำธุรกิจด้านสปอร์ตและคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง (Sport and Content Marketing) เราจึงริเริ่มโครงการทีมไทยแลนด์นี้ขึ้นเพื่อบูรณาการกีฬาเข้ากับกิจกรรมเพื่อสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นร่วมกัน (Shared Value) ยิ่งไปกว่านั้น โครงการทีมไทยแลนด์ฯ เป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดธุรกิจด้านสปอร์ตและคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งของเดนท์สุ มีเดียฯ ที่ได้นำความรู้และความเชี่ยวชาญผสานเข้ากับวงการกีฬาเพื่อสร้างคุณค่าควบคู่ไปกับการพัฒนาวงการกีฬาอย่างบูรณาการ (Sports Ecosystem) เพื่อผลักดันและพัฒนาวงการกีฬาไทยและนักกีฬาทีมชาติในภาพรวมให้ดียิ่งขึ้น
โครงการ “ทีมไทยแลนด์” หนึ่งไทยเล่น ล้านไทยเชียร์ เป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยพัฒนาวัฒนธรรมการกีฬา (Sport Cultural) รวมและยกระดับวงการกีฬาแบบบูรณาการ (Sports Ecosystem) ให้แก่องค์กรและนักกีฬาทีมชาติไทยในภาพรวมให้ดียิ่งขึ้น
“ทุกวันนี้คนไทยตื่นตัวเรื่องของกีฬามากขึ้นก่อให้เกิดกระแสความนิยมในการรับชมการแข่งขันกีฬาอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็น กีฬาประเภทฟุตบอล วอลเล่ย์บอล แบดมินตัน มวย ก็ยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้นักกีฬาของไทยก็มีความสามารถเป็นแชมป์ในกีฬาประเภทต่างๆมากยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่า โครงการทีมไทยแลนด์ หนึ่งไทยเล่น ล้านไทยเชียร์ จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างขวัญและกำลังใจมอบให้แก่นักกีฬาไทยในการคว้าชัยและสร้างชื่อให้กับประเทศไทยได้ในทุกๆการแข่งขัน” นายสรรค์ฉัตร กล่าว
สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้โครงการทีมไทยแลนด์ฯ ประสบความสำเร็จได้ ก็คือ ความร่วมมือจากคนไทยทั้งประเทศในการช่วยสนับสนุน และรวมถึงการได้รับการสนับสนุนจากองค์กรทุกภาคส่วนต่อไปภายภาคหน้า และนี่คือโครงการของคนไทยทุกคน “ทีมไทยแลนด์” หนึ่งไทยเล่น ล้านไทยเชียร์ นายสรรค์ฉัตร กล่าวทิ้งท้าย
อนึ่ง โครงการทีมไทยแลนด์ฯ ขอเชิญชวนคนไทยทุกคน ร่วมกันส่งแรงใจเชียร์นักกีฬา กดไลค์ กดแชร์ เพื่อร่วมแสดงพลังส่งไปให้แก่ทัพนักกีฬาไทย โดยทุกท่านสามารถร่วมส่งกำลังใจและแรงเชียร์ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่เพจเฟสบุ๊คทีมไทยแลนด์ https://www.facebook.com/teamthailandofficial/
//จบ//
เกี่ยวกับ บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด คือ ‘มีเดียเอเจนซี่เน็ตเวิร์ค’ ที่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท เดนท์สุ อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น (Dentsu Inc.) และได้มีการควบรวมกิจการเป็นกลุ่มบริษัท เดนท์สุ อีจิส เน็ตเวิร์ค (Dentsu Aegis Network) โดยบริษัท เดนท์สุ มีเดียฯ มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจมีเดียเอเจนซี่ในระดับสากล ปัจจุบันบริษัท เดนท์สุ มีเดียฯ ประกอบด้วย 3 มีเดียแบรนด์ ได้แก่ มีเดีย พาเลท (media palette) มีเดีย แมทริกซ์ (media matrix) และ มีเดีย คิวบิค (media cubic) และ เดนท์สุ 360 (dentsu 360) และ ดี เอ็ม แล็ปบอราทอรี่ (dmLab) เป็นแบรนด์ภายใต้การบริหารของบริษัท เดนท์สุ มีเดียฯ ที่มุ่งเน้นการให้บริการแบบองค์รวม (Holistic Communication Solutions) และ การพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมดิจิทัลอย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าอย่างครบครันและเต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
อนึ่ง บ.เดนท์สุ มีเดียฯ ได้ 2 รางวัลเหรียญทองถูกยกย่องให้เป็น ‘มีเดียเอเยนซี่ยอดเยี่ยม’ (Thailand Media Agency of the Year) และ ‘ดิจิทัลเอเจนซี่ยอดเยี่ยม’ (Thailand Digital Agency of the Year) ของประเทศไทยประจำปี 2558 รวมถึงถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Southeast Asia Integrated Agency of the Year จากงานประกาศผลรางวัล Campaign Asia Pacific’s Agency of the Year 2015 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ ผู้บริหารบริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบด้วย มร. มิตสึยูกิ นากามูระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, คุณสรรค์ฉัตร จันทร์สระแก้ว กรรมการผู้จัดการ (บริหารงานธุรกิจกลุ่มเดนท์สุ 360 และมีเดีย คิวบิค), คุณอาวีพรรณ มาลัยรัตน์ ผู้อำนวยการบริหาร (บริหารงานธุรกิจกลุ่มมีเดีย พาเลท) และคุณกนกพร เตชธรรมานนท์ ผู้อำนวยการวางแผนสื่ออาวุโส (บริหารงานธุรกิจกลุ่มมีเดีย แมททริกซ์)
เกี่ยวกับ ไวร์แอคชั่น (Wireaction)
เดนท์สุ มีเดียฯ ได้พัฒนาทีวีแพลทฟอร์ม ‘Wireaction’ โดยนำมาเป็นเครื่องมือเพื่อบริหารจัดการข้อมูล (Data Management Platform) บันทึกและเก็บรวบรวมข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์ช่องฟรีทีวี ช่อง 3, ช่อง 5, ช่อง 7 และช่อง 9 ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลจากสื่อโทรทัศน์ โดยข้อมูลที่ได้สามารถนำมาวิเคราะห์ เพื่อใช้ประโยชน์ในการคาดการณ์เทรนด์หรือความนิยมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงช่วยในกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อปรับปรุงและวางแผนการให้บริการในอนาคตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น