ฉลองความสำเร็จเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ประจำปี 2559 เปิดบ้านต้อนรับผู้กำกับและดาราชื่อดังระดับโลกร่วมงาน
กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ฉลองความสำเร็จเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ประจำปี 2559 Thailand International Film Destination Festival 2016 : TIFDF2016 อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมประกาศรางวัล ผู้ชนะเลิศการแข่งขันภาพยนตร์สั้นในประเทศไทยในเทศกาลฯ ภายในงานมีเหล่าศิลปินดาราและผู้กำกับภาพยนตร์ระดับโลกที่ล้วนเคยเข้ามาถ่ายทำผลงานในประเทศไทย อาทิ คัลเลน แม็คออลีฟ (Callan Mcauliffe) ดาราหนุ่มจากภาพยนตร์เรื่อง HACKER ที่เตรียมเข้าฉายในประเทศไทยเร็วๆนี้, เกรซ หวน (Grace Huang) นักแสดงสาวชาวไต้หวัน จากภาพยนตร์เรื่อง Independence Day , ดัสติน เหงียน (Dustin Nguyen) นักแสดงมากฝีมือชาวเวียดนาม , โรเอล เรเน่ (Roel Reine) ผู้กำกับดังจากภาพยนตร์ The Man with The Iron Fist 2 พร้อมด้วยดาราไทย อาทิ อั้ม อธิชาติ ,ป๋อ ณัฐวุฒิ, ปู วิทยา (นักแสดงชาวไทยผู้ที่ได้ไปเดินพรมแดงในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์) , บี้ KPN, ออม สุชาร์, เจี๊ยบ ลลนา, พิ้งกี้ สาวิกา, เมย์ พิชญ์นาฏ, ขุน ชานนท์ และสาวๆ The Face 1-2 ซาบีน่า, ติช่า, เจสซี่, จุ๊กกู๊ ตบเท้าเข้าร่วมงานมากมาย
Callan McAuliffe นักแสดงจากเรื่อง Hacker
Grace Huang ดาราสาวจากเรื่อง Independence
Dustin Nguyen & Bebe Pham
Frederic Lepage ผผ. จากเรื่อง Sunny etL’Elephant และ Stefano Calvagna ผกก. เรื่อง Un NuovoGiorno
รธีรา สุวรรณศร ผู้อำนวยการกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ และ วรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว
นางสาววรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า “การจัดเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 4 Thailand International Film Destination Festival 2016 : TIFDF2016 ในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยและทีมงานชาวไทยในการรองรับกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ ซึ่งตลอดเทศกาลที่จัดขึ้นในครั้งนี้ประกอบด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจและช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ความพร้อมของประเทศไทยไปสู่กลุ่มเป้าหมายสำคัญนั่นคือ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการภาพยนตร์ทั่วโลก ทั้งผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และนักแสดง ซึ่งเปิดฉากเทศกาลด้วยการจัดการแข่งขันภาพยนตร์สั้นโดยเหล่านักศึกษาด้านภาพยนตร์จากทั่วโลก ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีมีผู้สมัครร่วมการแข่งขันกว่า 200 ทีม และ ได้มีการคัดเลือกจนเหลือ 32 ทีม พร้อมด้วยทีมประสานงานที่เป็นนักศึกษาชาวไทย ได้ลงพื้นที่ใน 8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยวตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์สั้น เพื่อถ่ายทอดมุมมองผู้สร้างภาพยนตร์ที่ดีที่สุด ผ่านจุดหมายปลายทางและสถานที่ถ่ายทำที่ดีที่สุด ด้วยการผสานความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ “ความเป็นไทย Thainess” มาถ่ายทอดผ่านสื่อภาพยนตร์ โดยนำเสนอในรูปแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ ซึ่งจะสะท้อนวิถีชีวิตของคนไทย ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ความรัก ความสามัคคี และความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิตรไมตรีของคนไทย ให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทีมงานไทยและสถานที่ที่จะเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำที่โดดเด่นไม่เหมือนชาติใด โดยภาพยนตร์สั้นที่ถือเป็นผลผลิตที่มีคุณค่าจากการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งรางวัลเป็นแค่องค์ประกอบเท่านั้น สิ่งสำคัญ คือ ประสบการณ์และมิตรภาพของผู้สร้างภาพยนตร์รุ่นใหม่ โดยสิ่งเหล่านี้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการสื่อสารความงดงามและคุณค่าของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกต่อไป”
ประธานในพิธี
พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี มอบรางวัล แก่ผู้ชนะ Grand Prize
ผู้ชนะรางวัล Grand Prize จากประเทศสเปน
นอกจากนี้ อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญภายใต้ เทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในครั้งนี้ คือ การจัดฉายภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในประเทศไทย โดยการนำภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกที่เลือกใช้ประเทศไทยเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำมาจัดฉายให้ประชาชนชาวไทยได้รับชม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย โดยในปีนี้มีภาพยนตร์เรื่องดังมาฉายรวม 10 เรื่อง โดยในวันนี้นอกจากจะมีพิธีมอบรางวัลให้กับผู้ชนะจากการประกวดภาพยนตร์สั้นแล้ว ยังได้รับเกียรติจากนักแสดงชื่อดังและผู้กำกับชื่อดังระดับโลกจากภาพยนตร์ที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยเข้าร่วมงานมากมาย
อั้ม อธิชาติ ชุมมานนท์
ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ
บี้ ธรรศภาคย์ ชี กับการแสดงบนเวที
ออม สุชาร์ มานะยิ่ง
เจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์
พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช
เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร
ขุน ชานนท์ อักขระชาตะ
ติช่า กันติชา และ ซาบีน่า อจิรภา The Face Thailand
จุ๊กกู้ สลิตา และ เจสซี่ กิระนา The Face Thailand
พิม บิวแบร์
ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์
“การจัดเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ถือเป็นเวทีสำคัญในการต่อยอดความสำเร็จของประเทศไทย สู่การเป็นศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในภูมิภาคเอเซีย ซึ่งกรมการท่องเที่ยว ถือเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงได้เล็งเห็นความสำคัญและศักยภาพของอุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ที่มีความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นการนำเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศ แต่ยังเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่ภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในทุกปี เพื่อประชาสัมพันธ์ศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทย ทีมงานชาวไทย สู่กลุ่มเป้าหมาย และขยายเครือข่ายให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อดึงดูดทีมสร้างภาพยนตร์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าในปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2558) มีกองถ่ายต่างชาติเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยทั้งหมด 724 เรื่อง สร้างรายได้เข้าประเทศ 3,164.30 ล้านบาท และในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบภารกิจนี้โดยตรง จากวันนี้จะเดินหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งในการสร้างสรรค์กิจกรรมที่จะส่งเสริมการเข้ามาของกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยต่อไปในอนาคต” นางสาววรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวปิดท้าย
ผลการตัดสินการแข่งขันภาพยนตร์สั้นประจำเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ประจำปี 2559
- รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Grand Prize) 1 รางวัล ประกอบด้วย เงินรางวัล จำนวน 300,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัล ได้แก่ ทีมจากประเทศสเปน จากภาพยนตร์เรื่อง NOW I know
- รางวัลผู้ชนะเลิศจาก 8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยว จำนวน 8 รางวัล ประกอบด้วย เงินรางวัล จำนวน 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัล
- รางวัลชนะเลิศจากเขตอารยธรรมล้านนา ได้แก่ ทีมจากประเทศฟิลิปปินส์ จากภาพยนตร์เรื่อง Lake Guard
- รางวัลชนะเลิศเขตอารยธรรมอีสานใต้ ได้แก่ ทีมจากประเทศคาซัคสถาน จากภาพยนตร์เรื่อง Letter
- รางวัลชนะเลิศเขตฝั่งทะเลตะวันออก ได้แก่ ทีมจากประเทศแอฟริกาใต้ จากภาพยนตร์เรื่อง Goodbye in Thai
- รางวัลชนะเลิศเขตฝั่งทะเลตะวันตก ได้แก่ ทีมจากประเทศอเมริกา จากภาพยนตร์เรื่อง Sweet Success
- รางวัลชนะเลิศเขตอันดามัน ได้แก่ ทีมจากออสเตรเลีย จากภาพยนตร์เรื่อง Muay Thai-The Spirit of Ram Muay. รางวัลชนะเลิศเขตมรดกด้านวัฒนธรรม ได้แก่ ทีมจากประเทศฟิลิปปินส์ จากภาพยนตร์เรื่อง Friend
- รางวัลชนะเลิศเขตวิถีชีวิตลุ่มน้ำโขง ได้แก่ ทีมจากประเทศสเปน จากภาพยนตร์เรื่อง NOW I know
- รางวัลชนะเลิศเขตลุ่มเจ้าพระยาตอนกลาง ได้แก่
ทีมจากประเทศฟิลิปปินส์ จากภาพยนตร์เรื่อง My Redemption
- รางวัลพิเศษ 1 รางวัลสำหรับผลงานที่สร้างกระแสตอบรับได้อย่างดีทาง Social Media ประกอบด้วย เงินรางวัล จำนวน 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัล ได้แก่ทีมจากประเทศฟิลิปปินส์ จากภาพยนตร์เรื่อง Grandfather
###
ติดตามความเคลื่อนไหวการจัดงาน ได้ที่ www.thailandfilmdestination.com