สภาพแวดล้อมการทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ได้อย่างเต็มที่ สามารถเพิ่มความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร และเสริมประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด
จากผลสำรวจองค์กรทั่วโลกได้แสดงให้ CIO เห็นว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์, สร้างความพึงพอใจในการทำงาน และความรัก องค์กรโดยการใช้กลยุทธ์ทางด้านโมไบล์ในองค์กรได้อย่างไร
Justin Chiah (จัสติน ชัวส์) ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน บริษัท อรูบ้า (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในบริษัทของ Hewlett Packard Enterprise และ ศักดิ์ชาย ปัญญจเร ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน บริษัท อรูบ้า (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในบริษัทของ Hewlett Packard Enterprise
ประเทศไทย 14 กรกฎาคม 2559 จากผลการศึกษาองค์กรทั่วโลกล่าสุดภายใต้หัวข้อ “Mobility, Performance and Engagement” โดย The Economist Intelligence Unit (EIU) ได้กำหนดตัวชี้วัด เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง สภาพแวดล้อมที่สามารถทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ได้มากขึ้น มีผลต่อการความสัมพันธ์ ของพนักงานและองค์กร ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าเหล่า CIO นั้นสามารถผลักดันให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้จริงจากการใช้กลยุทธ์ด้านโมไบล์ เพื่อเปิดให้พนักงานสามารถทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ได้ โดยการวางแผนและบังคับใช้งานอย่างถูกต้อง
การศึกษาครั้งนี้ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย Aruba หนึ่งในบริษัทของ Hewlett Packard Enterprise (NYSE:HPE) นั้น ได้แสดงให้เห็นว่าองค์กรที่เหล่าพนักงาน “รุ่นใหม่” ให้การสนับสนุนการใช้งานเทคโนโลยีโมไบล์ในการทำงานเพิ่มขึ้น โดยพนักงานขององค์กรที่สามารถทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ได้จะมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น (16%), มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น (18%), มีความพึงพอใจในการทำงานสูงขึ้น (23%) และมีความรักองค์กรที่สูงขึ้น (21%)
Justin Chiah (จัสติน ชัวส์) ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน บริษัท อรูบ้า (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในบริษัทของ Hewlett Packard Enterprise
“ในปัจจุบัน องค์กรและพนักงานส่วนใหญ่ต่าง เห็นด้วยกับการอนุญาตให้ทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ (Mobile-First) สามารถส่งผลดีต่อธุรกิจได้ แต่ถ้าหากคุณสามารถบอกกับ CEO ของบริษัทในกลุ่ม Fortune 500 ว่าองค์กรของพวกเขาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้ถึง 16% หรือบอกหัวหน้าแผนกบุคคลว่าพวกเขาสามารถเพิ่มความรักที่มีต่อองค์กรได้มากกว่า 1 ใน 5 เราเชื่อว่าพวกเขาจะให้ ความสำคัญใน การลงทุนทางด้าน Mobility มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน” Chris Kozup รองประธานฝ่ายการตลาดแห่ง Aruba หนึ่งในบริษัทของ Hewlett Packard Enterprise กล่าว
“ในขณะที่ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ได้ชี้ถึงความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรเพิ่มขึ้นจากการที่องค์กรเปิดให้ใช้อุปกรณ์โมไบล์ในการทำงานได้ แต่รายงานนั้นก็ไม่ได้กล่าวว่าการเปิดให้ทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์ได้จะมีต่อผลการดำเนินธุรกิจอย่างไร และรายงานฉบับนี้ก็ได้ชึ้ถึงตัวเลขในประเด็นนี้แล้ว” เขากล่าวเสริม
รายงานฉบับนี้ซึ่งได้ทำการสำรวจจากพนักงานจำนวน 1,865 คนจากองค์กรทั่วโลก ได้แสดงให้เห็นว่าพนักงานจำนวนมากเห็นประโยชน์ของการสนับสนุนให้ใช้อุปกรณ์โมไบล์ในการทำงานได้ โดย 6 ใน 10 (60%) ของพนักงานกล่าวว่าเทคโนโลยีทางด้านโมไบล์ทำให้พวกเขาทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่มากกว่า 4 ใน 10 (45%) เชื่อว่าเทคโนโลยีทางด้านโมไบล์ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาเพิ่มขึ้นในการทำงาน
การวิเคราะห์ของ EIU นี้ได้พยายามอธิบายว่าการนำเทคโนโลยีทางด้านโมไบล์ไปใช้นี้ ส่งผลอย่างไรต่อผลลัพธ์เชิงธุรกิจบ้างด้วยการนิยามหัวข้อต่างๆ อ้างอิงจากประสบการณ์ของพนักงานในกลุ่มองค์กรที่ใช้โมไบล์ในการทำงานเป็นหลัก แล้วจึงค่อยแสดงให้เห็นว่าแต่ละหัวข้อนั้นส่งผลกระทบอย่างไรต่อประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจอย่างไรบ้าง โดยมีแนวโน้มหลักๆ ที่น่าสนใจดังนี้:
การทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลา
- ความสามารถในการทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลานั้นดูเหมือนจะเป็นผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดอย่างชัดเจนต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน โดย 49% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่ามันมีผลกระทบในระดับสูงที่สุดต่อประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขา
- นอกจากนี้ 38% ของผู้ตอบแบบสอบถามก็ได้ระบุว่าประเด็นนี้ก็ยังส่งผลมากที่สุดต่อความพึงพอใจที่พวกเขามีต่อองค์กรอีกด้วย
“ลองคิดถึงเวลาที่เคยเสียไปเปล่าๆ ในสนามบินหรือบนรถไฟดู – ตอนนี้เราไม่ต้องเสียเวลาไปเปล่าๆ แบบนั้นอีกแล้ว” Kevin Melton ประธานฝ่ายขายและการตลาดแห่ง AXA PPP International ธุรกิจประกันสุขภาพกล่าว “คุณสามารถเชื่อมต่อ iPad เข้ากับ Wi-Fi ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย”
ความสามารถในการติดต่อสื่อสาร
- ผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกชี้ให้เห็นว่าความสามารถในการติดต่อสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นถูกจัดให้เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่มีต่อความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน (38%) และอีก 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามก็กล่าวว่าปัจจัยนี้มีผลกระทบสูงสุดต่อความภักดีที่มีต่อองค์กรของพวกเขา
- เพื่อช่วยให้การติดต่อสื่อสารภายในองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น 42% ขององค์กรที่ถูกสำรวจนั้นมีการใช้เครื่องมือติดต่อสื่อสารในรูปแบบดิจิทัลบนอุปกรณ์โมไบล์อยู่แล้ว โดยองค์กรในประเทศอังกฤษก็มีการใช้งานระบบเหล่านี้สูงถึง 56% และแอพพลิเคชั่นสำหรับแชทบนอุปกรณ์โมไบล์อย่างเช่น Whatsapp นั้นก็ถูกใช้ในการทำงานในระดับองค์กรมากถึง 31% โดยองค์กรในประเทศสิงคโปร์มีอัตราการใช้งาน Whatsapp สูงสุดอยู่ที่ 66% เลยทีเดียว
“โอกาสและความท้าทายในประเด็นนี้ คือการผสานความต้องการในการทำงานนอกสถานที่ของพนักงาน เข้ากับความสามารถในการติดต่อสื่อสารกันเป็นทีมให้ได้” Kozup กล่าว “การมาของระบบติดต่อสื่อสารบนอุปกรณ์โมไบล์ได้สร้างหนทางใหม่ๆ ให้กับธุรกิจที่ทำให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้อยู่ด้วยกันในสถานที่จริงใดๆ ก็ตาม ซึ่งก็เป็นที่ชัดเจนว่าบริษัทที่สามารถทำสิ่งนี้ได้จะสามารถดึงดูดและซื้อใจพนักงานที่เก่งที่สุดเอาไว้ได้ดีกว่า”
การเข้าถึงข้อมูลในการทำงานได้ผ่านอุปกรณ์โมไบล์
- 42% ของพนักงานกล่าวว่าความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายนั้น ส่งผลให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้นมากที่สุด
- ปัจจุบันนี้ 54% ขององค์กรมีการเปิดให้ทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์โมไบล์ใดๆ ที่ใช้ในการทำงานเข้ากับระบบเครือข่ายขององค์กรได้ เพื่อให้สามารถทำงานได้จากทุกสถานที่ ทั้งภายในและภายนอกออฟฟิศ
อิสระในการเลือกสถานที่ในการทำงาน
- 32% ของพนักงานชี้ว่าการที่ตนเองสามารถเลือกที่จะทำงานจากพื้นที่ใดภายในออฟฟิศก็ได้นั้น เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้พวกเขามีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานสูงขึ้น ซึ่งหมายความว่าองค์กรใดๆ ก็ตาม สามารถสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ได้มากขึ้นด้วยการเปิดให้พนักงานในองค์กรเลือกที่นั่งทำงานได้อย่างอิสระ ในขณะที่อีก 29% ของพนักงานได้ระบุว่าอิสระในการเลือกที่นั่งทำงานได้นั้นช่วยเพิ่มความภักดีที่มีต่อองค์กรของพวกเขามากที่สุด
- เพื่อช่วยเพิ่มอิสระในการเลือกที่นั่งทำงาน ในรายงานนี้ได้ค้นพบว่า 46% ขององค์กรได้มีการใช้นโยบายแบบโต๊ะอิสระ (Hot Desk) ที่รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์โมไบล์ได้อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ภายในออฟฟิศ ซึ่งประเด็นนี้ได้ชี้ให้เห็นว่าการปรับปรุงรูปแบบในการทำงานให้พนักงานสามารถสื่อสารกันได้มากขึ้นนั้นกำลังเป็นที่นิยม โดยองค์กรต่างๆ ในประเทศอังกฤษนั้นมีการใช้นโยบายโต๊ะอิสระสูงที่สุดในโลก (54%) ตามมาด้วยออสเตรเลียและเยอรมนี (53% เท่ากัน)
“แต่ละคนนั้นจะต้องสามารถทำงานได้ตามแนวทางที่ตัวเองถนัด” Holger Reisinger รองประธานอาวุโสและหัวหน้าของ New Ways of Working Initiative แห่ง Jabra บริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีทางด้านระบบเสียงกล่าว “เราต้องสร้างอิสระในการเลือกแนวทางการทำงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แก่พนักงาน คุณจะต้องทำให้มันเหมาะสมกับพนักงานแต่ละคนมากขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานแบบมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เพราะยิ่งคุณพยายามที่จะควบคุมวิธีการทำงานของพนักงานแต่ละคนมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งพบกับความเสี่ยงที่พนักงานเหล่านั้นจะยิ่งทำงานน้อยลงเท่านั้น”
โมไบล์ไม่ใช่เรื่องของคนยุคมิลเลนเนียลเท่านั้นอีกต่อไป
จากผลการศึกษาของ EIU นี้ได้ค้นพบว่าอายุของเหล่าผู้ตอบแบบสอบถามไม่ได้เป็นปัจจัยในการที่พนักงานในองค์กรจะมีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้นหรือมีความผูกพันต่อองค์กรมากขึ้นจากการเปิดให้ใช้อุปกรณ์โมไบล์ในการทำงาน ในความเป็นจริงแล้ว การศึกษาชิ้นนี้ได้ลบล้างคำกล่าวอ้างที่เป็นที่นิยมว่า การทำงานผ่านอุปกรณ์โมไบล์เป็นโลกของคนรุ่นใหม่ ซึ่งการค้นพบนี้จะยิ่งทำให้แต่ละองค์กรต้องจัดให้การนำเทคโนโลยีทางด้านโมไบล์มาใช้ในองค์กรมากขึ้นเป็นความสำคัญระดับสูงสุดของการวางนโยบายภายในองค์กร
นอกจากนี้ ถ้าหากแบ่งผู้ตอบแบบสอบถามออกเป็นสองกลุ่มตามการเปิดรับต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยกลุ่มแรกคือกลุ่มที่พิจารณาว่าตนเองเปิดรับเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว (Early Adopter) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ Aruba ให้คำนิยามเอาไว้ว่าเป็น #GenMobile และอีกกลุ่มที่พิจารณาว่าตนเองนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ช้ากว่าคนอื่น (Laggard) จะพบว่ากลุ่มที่เป็น Early Adopter นั้นมีแนวโน้มที่จะเลือกตอบแบบสอบถามว่าเทคโนโลยีทางด้านโมไบล์ส่งผลดีต่อการทำงานมากกว่า โดยทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น (72% ของกลุ่ม Early Adopter นี้เห็นด้วยกับข้อความนี้ ในขณะที่กลุ่ม Laggard นั้นเห็นด้วยเพียง 50%), มีความพึงพอใจในการทำงานมากขึ้น (59% และ 48% ตามลำดับ), มีความคิดสร้างสรรค์สูงขึ้น (52% และ 40% ตามลำดับ) และมีความภักดีต่อองค์กรสูงขึ้น (44% และ 31% ตามลำดับ)
ศักดิ์ชาย ปัญญจเร ผู้จัดการทั่ วไปประจำประเทศไทยและภูมิภาคอิ นโดจีน บริษัท อรูบ้า (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในบริษัทของ Hewlett Packard Enterprise
อย่างไรก็ดี เหล่าผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็น #GenMobile นี้ก็มีความต้องการในประเด็นต่างๆ ที่มากกว่ากลุ่มอื่นๆ โดย 40% กล่าวว่าพวกเขาจะไม่มีวันทำงานในบริษัทที่ไม่อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์โมไบล์ของพวกเขาเองในการทำงาน ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของการตอบแบบสอบถามข้อนี้ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดอยู่ที่เพียง 22% เท่านั้น
Kozup กล่าวว่า “นี่เป็นการยืนยันอีกครั้งว่าเหล่าพนักงานกลุ่ม #GenMobile เป็นกลุ่มที่ไม่สามารถถูกจำแนกได้จากอายุหรือปีที่เกิด แต่สามารถจำแนกได้ตามความเชื่อมั่นและความยึดติดกับการใช้อุปกรณ์โมไบล์ในการทำงานเสียมากกว่า และไม่เพียงแต่กลุ่ม Early Adopter นี้จะเป็นกลุ่มพนักงานที่มีคุณค่ามากกว่าพนักงานกลุ่มอื่นๆ เท่านั้น แต่มุมมองที่พวกเขามีในทุกๆ วันนี้จะกลายเป็นมุมมองของกลุ่มคนส่วนใหญ่ในอนาคตที่เทคโนโลยีทางด้านโมไบล์จะแพร่หลายยิ่งกว่านี้ ดังนั้นเหล่า CIO ควรจะได้รับคำแนะนำในการรับฟังความคิดเห็นของพนักงานกลุ่มนี้ รวมถึงแก้ไขข้อกังวลใจต่างๆ ของพนักงานกลุ่มนี้เป็นพิเศษด้วย”
Pete Swabey บรรณาธิการอาวุโสแห่ง The Economist Intelligence Unit ได้สรุปเอาไว้ว่า “รายงานฉบับนี้ได้พิสูจน์ว่าเหล่า CIO มีโอกาสที่จะใช้กลยุทธ์เทคโนโลยีทางด้านโมไบล์เพื่อสร้างประสบการณ์ในการทำงานที่ดีให้แก่เหล่าพนักงานได้จริง รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, ความคิดสร้างสรรค์, ความภักดี และความพึงพอใจในการทำงานของเหล่าพนักงานด้วย นี่คือจุดที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการลดค่าใช้จ่ายตามปกติที่องค์กรเคยทำ และทำให้ IT มีบทบาทในการสร้างสิ่งที่มีความหมายมากขึ้นในองค์กร ทั้งในแง่ของการตอบสนองต่อความทะเยอทะยานขององค์กรในการดำเนินกลยุทธ์ต่างๆ และการทำให้ชีวิตของเหล่าพนักงานดีขึ้นไปพร้อมๆ กัน”
เพื่อเป็นแนวทางให้แก่เหล่า CIO ว่าควรจะคิดปรับปรุงการนำโมไบล์มาใช้ในการทำงานอย่างไรให้เกิดผลดีกับรายรับขององค์กร ทาง Aruba จึงได้ทำการพัฒนาพิมพ์เขียวสำหรับ CIO เพื่อให้องค์กรนำไปใช้และสร้างผลกำไรในธุรกิจเพิ่มเติมได้เอาไว้ให้แล้ว
เอกสารเพิ่มเติม
- GenMobile Overview Landing Page: http://www.arubanetworks.com/GenMobile2016
- Download The Economist Intelligence Unit Report: http://www.arubanetworks.com/pdf-viewer/?q=/assets/EIUStudy.pdf
- Download the Blueprint - Getting Your IT Infrastructure Ready for the Digital Workplace: http://page.arubanetworks.com/GenMobile-Hub-Report-Aruba-Blueprint.html
- Blog – “Study: Mobility Leaders Benefit Significantly Over Laggards”: https://www.hpe.com/us/en/newsroom/news-archive/featured-article/2016/04/Study-Mobility-Leaders-Benefit-Significantly-Over-Laggards.html
- Infographic “#GenMobile Performance and Engagement”: www.arubanetworks.com/GenMobileInfographic
เกี่ยวกับอรูบ้าบริษัทหนึ่งในเครือฮิวเล็ตแพ็กการ์ด
อรูบ้าเป็นหนึ่งในเครือบริษัทฮิวเลตต์แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์และเป็นผู้นำในการจัดหาโซลูชั่นระบบเครือข่ายที่ล้ำสมัยสำหรับองค์กรทุกขนาดทั่วโลก บริษัทเป็นผู้ผลิตโซลูชั่นด้านไอทีที่ช่วยเพิ่มพลังให้องค์กรในการให้บริการแก่ผู้ใช้รุ่นใหม่ที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์พกพาผู้ซึ่งใช้ apps ต่าง ๆ ทางธุรกิจที่วางอยู่บนคลาวด์ในทุก ๆ ขั้นตอนของการดำเนินชีวิตทั้งในที่ทำงานและเรื่องส่วนตัว
เรียนรู้เพิ่มขึ้น เกี่ยวกับอรูบ้าได้ที่ http://www.arubanetworks.com ถ้าต้องการข้อมูลที่ล่าสุดตลอดเวลาสามารถติตามโดยการ follow on Twitter และสำหรับการพูดคุยทางเรื่องเทคโนโลยีล่าสุดเกี่ยวกับ mobility และผลิตภัณฑ์ของอรูบ้า เยี่ยมชม Airheads Social ที่ http://community.arubanetworks.com