แสนสิริปิดการขาย เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา มูลค่า 2,900 ลบ. ในวันพรีเซลล์

ทุบสถิติปิดขายโครงการ ภายใต้ความร่วมมือกับ บีทีเอส

เป็นโครงการที่ 4 ติดต่อกัน

ชูความสำเร็จจากการรุกทำเลอโศก – รัชดาเป็นโครงการแรก

ขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น-ราคาเฉลี่ยต่อตรม.พุ่งจากมูลค่าของโครงการ

แสนสิริปิดการขาย เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ ไลน์ โครงการแรกของปี จำนวนทั้งสิ้น 473 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท ซึ่งสามารถปิดการขายได้ทันทีในวันพรีเซลล์  ทุบสถิติปิดการขายโครงการภายใต้ความร่วมมือกับ บีทีเอส เป็นโครงการที่ 4 ติดต่อกันจากปีที่ผ่านมา ชูความสำเร็จจากการรุกทำเลอโศก – รัชดาเป็นครั้งแรก ขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น จากทำเลที่ตั้งโครงการใกล้ MRT พระราม 9 เพียง 300 เมตรและตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) เผยลูกค้าให้ความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริและมูลค่าของตัวโครงการจนสามารถปิดการขายโครงการได้อย่างรวดเร็ว นับว่าเป็นโครงการที่มีราคาขายเฉลี่ยต่อตร.ม.สูงที่สุดในย่านนี้ จากความโดดเด่นและแตกต่างและมูลค่าของตัวโครงการที่ทำให้ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นและปิดการขายโครงการอย่างรวดเร็วในที่สุด เตรียมเดินหน้าเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ เดอะ ไลน์ ตามแผนในปีนี้ต่อเนื่อง

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทสามารถปิดการขายโครงการ เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา (THE LINE Asoke-Ratchada) จำนวนทั้งสิ้น 473 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท อีกหนึ่งคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้ทันทีในช่วงพรีเซลล์ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 25 – 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา นับเป็นการสานต่อความสำเร็จจากการปิดการขายคอนโดมิเนียม แบรนด์ เดอะ ไลน์ไปแล้วถึง 3 โครงการทันทีที่เปิดพรีเซลล์ในปีที่ผ่านมา

สำหรับโครงการ เดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา นับเป็นโครงการแรกที่แสนสิริรุกเปิดตัวโครงการ ในทำเลย่านอโศก – รัชดาและประสบความสำเร็จทันทีที่เปิดตัวโครงการ ลูกค้าให้การตอบรับที่ดีและสามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้าได้เพิ่มขึ้น จากความเชื่อมั่นที่มีต่อแบรนด์คุณภาพในฐานะที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมายาวนานกว่า 31 ปี นอกจากนี้โครงการยังประสบความสำเร็จจากทำเลที่ตั้งของโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้รถไฟใต้ดิน MRT สถานีพระราม 9 เพียง 300 เมตร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Balance is Everything, Location is Everything” ตอบสนองการใช้ชีวิตที่สมดุลย์ให้กับคนเมือง รวมถึงศักยภาพโดยรวมของทำเล ในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมืองต่อจาก Central Business District ที่รวมการคมนาคมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ สามารถเชื่อมต่อโดยรอบจากการรายล้อมด้วยโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ นอกจากนี้ทำเล อโศก-รัชดาภิเษก ยังนับว่าเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะจากแยกเพชรบุรีมาจนถึงแยกศูนย์วัฒนธรรม เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโตมาก เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจและยังใกล้ทางด่วน ซึ่งหากพิจารณาในแง่ของการลงทุน ทั้งจากการปล่อยเช่าและการถือครองระยะยาว ทำเลนี้ถือว่ามีศักยภาพในแง่การลงทุนสูง จากความต้องการใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ย้ายมาอยู่อาศัยตามแหล่งงาน โดยเฉพาะชาวจีนและชาวญี่ปุ่นที่เริ่มเห็นเพิ่มขึ้นในทำเลนี้

นอกจากนี้ลูกค้ายังชื่นชอบในการใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบฟังก์ชั่นที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์การอาศัยอยู่จริง ที่นำ Home Automation ระบบสั่งการอัจฉริยะในบ้านมาใช้ ซึ่งเป็นระบบที่ควบคุมการเปิด-ปิดไฟ แอร์ และกลอนประตูดิจิตอล(Digital door lock) เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต และอยู่ใกล้กับสวนมักกะสัน ซึ่งถือว่าเป็นปอดใจกลางกรุง ความโดดเด่นนี้ทำให้โครงการดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากการไปโรดโชว์กลุ่มลูกค้าต่างชาติ ที่ประเทศ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวันและจีน ซึ่งโกยยอดขายได้กว่า 1,200 ล้านบาท นับว่าเป็นมูลค่าสูงที่สุดที่แสนสิริเคยทำได้จากการสร้างยอดขายตลาดต่างชาติในขณะนี้ และเกินจากเป้าขายตลาดต่างชาติที่วางไว้ โดยหลังจากนี้บริษัทจะเดินหน้าเปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ ไลน์ ตามแผนต่อเนื่อง

“ทุกโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริ บริษัทพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้งซึ่งถือว่าเป็นที่สุดสำหรับการอยู่อาศัย การออกแบบดีไซน์โครงการในมุมมองที่แตกต่าง การบรรจงเลือกสรรวัสดุ รวมถึงการร่วมกับพันธมิตรธุรกิจในการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ ซึ่งผลจากความมุ่งมั่นพัฒนาโครงการส่งผลให้โครงการเดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา ปิดการขายทันทีในวันพรีเซลล์ นับว่าเป็นโครงการที่มีราคาขายต่อตารางเมตรที่สูงที่สุดในย่านนี้จากความโดดเด่นและแตกต่างและมูลค่าของตัวโครงการที่ทำให้ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นและปิดการขายโครงการอย่างรวดเร็วในที่สุด” นายอุทัย กล่าว