ชี่กงกำลังภายใน สุขอย่างสมดุล
ชี่กง ศาสตร์ความรู้ที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี แพทย์แผนจีนในสมัยโบราณได้พัฒนาและคิดค้นรูปแบบการฝึกชี่กงเพื่อให้คนไข้ได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ตำราทางแพทย์จีนส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย สมุนไพร // การฝังเข็ม และการฝึกชี่กง โดยปัจจุบันมีชี่กงให้ฝึกฝนมากกว่า 3,000 แบบ ซึ่งในแต่ละท่าจะมีความยากง่ายและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไป ....
ชี่กง คือ ทักษะการฝึกกายและใจเพื่อบำรุงรักษาสุขภาพไว้ให้สมดุล โดยคำว่า ชี่ จะมีความหมายคือ พลังชีวิต ส่วนใหญ่จะพบในรูปแบบของประจุไฟฟ้าและคลื่นความร้อน พลังชี่จะมาจากการรับประทานอาหาร การหายใจ การรับแสงแดด และการเดินบนพื้นดิน ในส่วนของคำว่า กง จะหมายถึง การกระทำหรือการทำงานเพื่อให้ได้พลังชีวิตนั่นเอง
อาจารย์หยาง เผยเซิน กล่าวว่า มนุษย์ทุกคนย่อมมีพลังชีวิตอยู่ในตัวเราเองทั้งนั้น แต่จะมีปริมาณมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่ตามสภาพของร่างกายและจิตใจ ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยจะมีพลังชีวิตที่น้อยกว่าผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง โดยปัจจัยสำคัญในการฝึกชี่กง คือ ต้องการให้ผู้ฝึกมีความรู้ความเข้าใจ ซึ่งในขณะฝึกจะต้องเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมคือเป็นช่วงที่จิตใจมีความสบายสงบพอสมควร ไม่อยู่ในอารมณ์ที่เครียด อารมณ์โกรธ และร่างกายแข็งแรงไม่มีอาการอ่อนเพลีย หรือมีไข้สูง ซึ่งสถานที่ในการฝึกชี่กงจะต้องเป็นสถานที่ที่มีความเหมาะสม บรรยากาศปลอดโปร่ง มีแสงแดดส่องถึง โดยช่วงเวลาที่เหมาะแก่การฝึกคือช่วงเวลาเช้าและเย็น
ซึ่งประโยชน์ของการฝึกชี่กงนั้นในเรื่องของการนั่งสมาธิจะช่วยให้ร่างกายสงบมากขึ้น ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดการทำงานของหัวใจ สร้างสมดุลของระบบประสาทอัตโนมัติ ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น มีความสมดุลมากขึ้นอีกทั้งยังจะช่วยส่งเสริมในด้านสุขภาพ การบำบัดโรคหลายชนิด และสร้างความสมดุลของร่างกายและจิตใจ โดยการฝึกชี่กงที่เป็นการบริหารร่างกายจะช่วยทำให้ร่างกายเกิดความยืดหยุ่นของข้อต่อ เส้นเอ็น อีกทั้งกระดูกและกล้ามเนื้อยังแข็งแรงขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งระหว่างการฝึกควรจะฝึกการหายใจเข้าท้องพองหายใจออกออกท้องยุบเพื่อจะช่วยให้หายใจได้ลึกๆ ปอดได้รับออกซิเจนและขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การฝึกชี่กงจะส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายสมดุลเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติทำงานอย่างสมดุลมากขึ้นมีประโยชน์มากในผู้ที่มีความเครียดสูงอีกด้วย
อาจารย์หยาง เผยเซิน ยังกล่าวต่ออีกว่า การฝึกชี่กงสามารถช่วยส่งเสริมการบำบัดสำหรับผู้ที่เป็นโรคและความผิดปกติ อาทิ โรคเครียด อาการหายใจไม่โล่ง ใจสั่น กระวนกระวายใจ นอนไม่หลับ อาการตกใจง่าย อาการเหล่านี้ควรฝึกวันละ 15-30 นาที, โรคภูมิแพ้ อาการน้ำมูกไหลตอนเช้าๆ อาการไอ จาม คัดจมูก อาการเหล่านี้ควรฝึกวันละ 15-30 นาที, โรคความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่มีความดันโลหิตมากกว่า 160/90 มิลลิเมตรปรอท ควรใช้เวลาฝึกประมาณวันละ 30-45 นาที, โรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งบางชนิด ได้แก่ มะเร็งเม็ดเลือด มะเร็งเต้านม ควรใช้เวลาในการฝึกวันละ 2 ชั่วโมง ซึ่งการฝึกชี่กงเพื่อช่วยบำบัดโรค ควรมีความเข้าใจก่อนว่าต้องใช้ฝึกควบคู่ไปกับการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบัน โดยผู้ป่วยที่ได้รับยารักษาอย่างต่อเนื่อง ก็ควรฝึกชี่กงเพื่อเสริมการบำบัดรักษาให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นนั่นเอง
