ADS


Breaking News

เฮเฟเล่ เปิดตัว “โกเรนเย่ บาย สตาร์ค” เครื่องครัวบิวท์อินนวัตกรรมออกแบบระดับไฮเอน

สะท้อนไลฟ์สไตล์อนาคต
ดึงฟิลลิป สตาร์ค นักออกแบบระดับโลกร่วมดีไซน์ ตั้งเป้าเบอร์หนึ่งแบรนด์คิทเช่นโซลูชั่นที่ลูกค้านึกถึง
      บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงข่าวเปิดตัวชุดเครื่องครัวบิวท์อินท์ “โกเรนเย่ บาย สตาร์ค” คอลเลคชั่นชุดครัวบิวท์อินท์สะท้อนไลฟ์สไตล์อนาคตออกแบบโดย “ฟิลลิป สตาร์ค”นักออกแบบชื่อดังระดับโลก ชูดีไซน์การออกแบบเรียบง่ายระดับไฮเอน ตั้งเป้าเป็นแบรนด์ผู้นำคิทเช่นโซลูชั่นอันดับหนึ่งในตลาดนวัตกรรม สินค้าเครื่องครัวที่ผู้บริโภคจะนึกถึงเป็นอันดับแรก โดยจัดขึ้นภายในงานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตกรรม ครั้งที่ 30 หรืองานสถาปนิก’59 อิมแพค เมืองทองธานี
     มร.โฟลเคอร์ เฮลสเติร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เฮเฟเล่เป็นแบรนด์ผู้นำในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ในบ้านและชุดเครื่องครัวมาตรฐานเยอรมนีมากว่า 90 ปี และดำเนินการในประเทศไทยก้าวเข้าสู่ปีที่ 22 แล้ว ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเฮเฟเล่ได้มีการพัฒนาและนำเสนอความสามารถของผลิตภัณฑ์ในเชิงนวัตกรรมสู่ตลาด อย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “Thinking Ahead : การคิดไปข้างหน้า” โดยในปีนี้เฮเฟเล่ต้องการวางตำแหน่ง แบรนด์ให้เป็น คอมพรีต บิวดิ้ง โซลูชั่น (Complete Building Solutions) ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการ ใช้งานอุปกรณ์ต่างๆในที่อยู่อาศัยได้ในทุกๆพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว (Kitchen Solutions) ห้องน้ำ (Bathroom Solutions) ห้องนอน (Bedroom Solutions) ห้องทำงาน (Office Solution) หรือพื้นที่เอนกประสงค์อื่นๆ ในบ้าน ด้วยการคิดวิเคราะห์สิ่งที่จำเป็นต่อความต้องการของลูกค้าในอนาคต เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าที่นำสมัย เหนือระดับกว่าใคร โดยภายในงานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม ครั้งที่ 30 นี้ เฮเฟเล่ได้มีการเปิดตัว ชุดเครื่องครัวบิวท์อินคอลเลคชั่นใหม่ “โกเรนเย่ บาย สตาร์ค” ที่มีความพิเศษตั้งแต่การออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ ชื่อก้องโลกอย่าง “ฟิลลิป สตาร์ค” ที่ได้มาร่วมงานกับแบรนด์ โกเรนเย่ บาย เฮเฟเล่ เป็นครั้งแรก ซึ่งคอลเลคชั่นนี้เป็นการผสานการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในครัวเข้าในชุดบิวท์อิน ชุดเดียวแบบเบ็ดเสร็จ ได้แก่ เตาอบ, เตาปรุงอาหาร, เครื่องดูดควัน, ตู้เย็นและฟังก์ชั่นพิเศษต่างๆ ที่ไม่เคยมี มาก่อนในชุดครัวบิวท์อิน อาทิ ลิ้นชักรักษาอุณหภูมิอาหารก่อนนำเสิร์ฟ, ฟังก์ชั่นอุ่นภาชนะ และเมนูทำโฮมเมด โยเกิร์ต เป็นต้น ซึ่งทั้งหมด ที่รวมอยู่ในคอลเลคชั่นนี้ สตาร์คต้องการสื่อถึงความสง่างามที่มีอยู่ “ด้วยจิตวิญญานระดับสูงและความบริสุทธิ์ ภายใน” ด้วยสไตล์การออกแบบที่เรียบง่ายระดับ Hi-end เน้นการใช้สีเทาและนวัตกรรมของกระจกสะท้อนแสง ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับสแตนเลส ซึ่งความเงางามของกระจกเหล่านี้ จะกลายเป็นภาพสะท้อนถึงวิถีชีวิต และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนในบ้านที่มาร่วมใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ในรูปแบบต่างๆร่วมกันได้ เป็นรูปลักษณ์ที่หรูหรา สะท้อนเทรนด์ดีไซน์แห่งอนาคตได้อย่างเหนือชั้น แต่ฟังก์ชันการทำอาหารก็ยังคงแฝงมนต์เสน่ห์ของความดั้งเดิม ในวิถีการปรุงด้วยการออกแบบเตาอบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเตาอบถ่านไม้ดั้งเดิมที่ให้รสชาติอาหารหอมกรอบ และชุ่มฉ่ำภายในได้อย่างพิถีพิถัน นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมพิเศษที่ซ่อนอยู่ในดีไซน์ทุกมิติ เช่น โปรแกรม การทำความสะอาดแบบ Pyrolytic เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงสุดในการขจัดคราบน้ำมัน ทำให้เตาอบสะอาด อย่างสมบูรณ์แบบ ควบคุมการทำงานอย่างง่ายดายด้วยระบบสัมผัสทั้งหมด ระบบเปิดปิดตู้แบบนุ่มนวล Gentle Close ไร้เสียงดัง ในหนึ่งชุดจะประกอบด้วยเตาอบเอนกประสงค์, เตาปรุงอาหารทั้งแบบไฟฟ้าและแก๊ส, เครื่องดูดควัน, ตู้เย็นระบบอัจฉริยะที่รักษาอุณหภูมิความสดสะอาดของอาหาร พร้อมจดจำพฤติกรรมการใช้งาน ในช่วงเวลาต่างๆเพื่อปรับสภาพอาหารให้พร้อมสำหรับการปรุงหรือรับประทาน, ชั้นวางของและลิ้นชักอุ่นอาหารและภาชนะที่มีฟังก์ชันพิเศษในการทำโยเกิร์ตโฮมเมดด้วยตัวเอง เหล่านี้ล้วนเป็นการคิดค้นและสร้างสรรค์ที่ ฟิลลิป สตาร์ค ผสานแนวคิดของเฮเฟเล่ “การคิดไปข้างหน้า” มาประกอบกับการวิเคราะห์เทรนด์ในอนาคต ที่ตอบไลฟ์สไตล์ของครอบครัวให้ได้มากที่สุด และถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวใน แบบสตาร์คที่ทุกคนชื่นชอบ ซึ่งการันตีทั้งคุณภาพระดับไฮเอนที่คุ้มค่าต่อราคาในแบบฉบับเฮเฟเล่ ที่ต้องการ เพิ่มความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับให้ผู้ใช้แบบจบครบที่แบรนด์เดียว เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำคิทเช่น โซลูชั่นในใจผู้บริโภคให้นึกถึงเฮเฟเล่เมื่อต้องการชุดเครื่องครัวทันสมัยระดับไฮเอน โดยเน้นเจาะตลาดลูกค้าบ้าน ที่เป็น End Userระดับกลางไปจนถึง Luxury Home”

     สำหรับแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ชุดใหม่นี้ เฮเฟเล่เน้นการใช้สื่อออนไลน์ที่เข้าถึง ผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางทั้ง facebook, instagram และสื่อโฆษณาออนไลน์ต่างๆ ที่เน้นการสร้างเอ็นเกจเมนท์ (Engagement) กลับมายังเว็บไซต์ของเฮเฟเล่เพื่อจะได้พบรายละเอียดสินค้าและชมสินค้าออนไลน์แบบ 360° พร้อมทั้งให้ลูกค้าเกิดประสบการณ์การร่วมกับสินค้าโดยตรง (Product Experienced) ด้วยการจัดกิจกรรม Cooking Class เชิญลูกค้ามาร่วมเรียนทำอาหารโดยใช้เครื่องครัวชุดใหม่เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ และเกิด ความประทับใจในสินค้าด้วยตัวเอง ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์ชุดเครื่องครัวนี้แล้ว ในปีนี้เฮเฟเล่ยังเตรียมนวัตกรรม สินค้ามาจำหน่ายอีกหลากหลายรายการ ซึ่งเน้นผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรมเพื่อไลฟ์สไตล์อนาคต โดยการสังเกต แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และความต้องการทางสังคมที่เป็นเมกะเทรนด์ เพื่อนำมา ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายพร้อมคุณสมบัติการทำงานที่มากขึ้น และคุ้มค่าต่อราคา มากขึ้น มานำเสนอสู่ตลาด กรรมการผู้จัดการบริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริม
     นายรัตนะ พูนสง่า ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ภายในงานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม ครั้งนี้ที่ 30 หรืองานสถาปนิก’59 นี้ ผู้เข้าชมงานจะได้พบนวัตกรรม การออกแบบอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ภายใต้แนวคิด “More Life Per M2(Square Meter)” ที่เป็นแนวโน้มทางสังคม ของคนเมืองทั่วโลกที่เริ่มมีการผสมผสานพื้นที่การทำงานกับที่อยู่อาศัยเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบกับสภาพสังคม ที่พื้นที่อยู่อาศัยมีขนาดเล็กลงจึงจำเป็นต้องหาโซลูชั่นในการใช้พื้นที่จำกัดให้คุ้มค่าและมีดีไซน์ที่โดดเด่น โดย ภายในบูธเฮเฟเล่จะถูกปรับให้เป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจที่ผู้เข้าชมงานจะได้มาพบนวัตกรรมใหม่ๆ ในการ สร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยเพิ่มฟังก์ชั่นให้ห้องและบ้านมีมิติมากขึ้นแม้จะมีพื้นที่จำกัด เช่น พื้นที่ห้องทำงาน ที่เปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ ห้องทำอาหารที่เชื่อมต่อการติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลา ระบบบานเลื่อนและผนัง (Moveable Wall) ที่ช่วยปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องให้เหมาะกับการใช้งานและช่วยเพิ่มพื้นที่เปิดโล่งให้ห้องมีขนาด กว้างขึ้นได้ ตลอดจนการสอดแทรกอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์เข้าไปในฮาร์ดแวร์ที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้น รวมไปถึง การสอดแทรกความบันเทิงและสีสันเข้าไปในตัวเฟอร์นิเจอร์ด้วยนวัตกรรมเอ็นเทอร์เมนต์ฟอร์รูมแอนด์เฟอร์นิเจอร์ (Entertainment for room and furniture) โดยมีการติดตั้ง Sound Systemรุ่นต่างๆที่ใช้เอ็กซ์ไซเตอร์ ในการเปลี่ยนแผ่นไม้ แผ่นกระจก และเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นให้เป็นลำโพงดีๆหนึ่งตัว ผ่านการควบคุมเพลง ที่ต้องการฟังโดยใช้บลูทูธในการเชื่อมต่อสัญญาณกับสมาร์ทโฟน รวมถึงระบบแสงสว่าง Loox ที่เข้ามาช่วย อำนวยความสะดวกในการใช้งานเฟอร์นิเจอร์และมีเพิ่มเสน่ห์ให้ห้องได้อย่างลงตัว ภายใต้แนวคิดในการพัฒนา สินค้าแบบ “Complete Building Solutions” เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์มีครบทั้ง 5มิติ ได้แก่ ดีไซน์ทันสมัย, การใช้งาน ง่ายสะดวกสบาย, สัมผัสนุ่มนวล, ความบันเทิง และแสงสว่าง โดยภายในบูธจะแบ่งสัดส่วนพื้นที่การจัดแสดง สินค้าให้ครบทุกกลุ่มสินค้าที่บ้านต้องมี อาทิ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์, เฟอร์นิเจอร์ฟิตติ้ง, ครัว, สุขภัณฑ์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ระบบควบคุมการเข้าถึงและผลิตภัณฑ์อิเล็คทรอนิกส์ เป็นต้น โดยกลุ่มเป้าหมายที่เราคาดการณ์ ว่าจะเข้ามาชมบูธ ได้แก่ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, นักลงทุน, นักออกแบบ (สถาปนิก, มัณฑนากร), วิศวกร, ผู้รับเหมา ก่อสร้าง, ผู้ค้าวัสดุ-อุปกรณ์ก่อสร้าง, ผู้บริหาร-ผู้จัดการอาคาร, เจ้าของกิจการ โรงแรมหรือรีสอร์ท, นิสิตนักศึกษา และลูกค้า End User ที่จะได้พบนวัตกรรมสินค้าที่เติมเต็มทุกมิติของที่อยู่อาศัยได้อย่างครบครัน จัดแสดงในรูปแบบที่ช่วยสร้างจินตนาการและแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการตกแต่งที่อยู่อาศัยที่การันตีคุณภาพ และมิติที่โดดเด่นระดับไฮเอนในทุกๆ ฟังก์ชั่นของบ้านอย่างแน่นอน”
      โดยในปีนี้เฮเฟเล่วางแผนสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ในเชิงของการทำเทคโนโลยีที่ซับซ้อนมากขึ้นในโลก ปัจจุบันให้เป็นเรื่องง่าย และใช้งานง่าย ที่สุดสำหรับคนทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มช่างผู้ติดตั้งสินค้า หรือกลุ่ม End User ที่สามารถจับต้องสินค้างานช่าง และใช้งานได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดายมากขึ้น ตลอดจนได้มองเห็นโอกาส ทางการค้าระหว่างประเทศในกลุ่ม ประเทศ CLMV ที่เดิมประเทศไทยเป็นฐานกระจายสินค้าไปยังกลุ่มประเทศ เหล่านี้อยู่แล้ว และจะขยายไปสู่กลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้นด้วยการลงทุนด้านมาตรฐานการจัดการโลจิสติกส์ และการบริการ การเตรียมพร้อม ในเรื่องศูนย์กระจายสินค้าที่ครอบคลุมทุกภาคส่วนของประเทศ ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี, ขอนแก่น, หาดใหญ่, เชียงใหม่, อุบลราชธานี และบางนา กม.22 พร้อมกับ การพัฒนาระบบไอทีเพื่อให้การควบคุม การทำงานและการเชื่อมโยงการสื่อสารมีประสิทธิภาพสูงสุด
      สำหรับการขยายฐานตลาดภายในประเทศเฮเฟเล่ยังคงตั้งเป้าเพิ่มยอดขายทั้งกลุ่มลูกค้าโครงการ และ ลูกค้า End user ไปพร้อมๆกัน ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่มสินค้าโครงการ และอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ ขนาดเล็กที่ลูกค้าทั่วไปสามารถติดตั้งเองได้เพิ่มมากขึ้น โดยใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านโชว์รูม เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ ที่มีทั้งหมด 8 สาขา กระจายตัวอยู่ทั้งใน กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ สุขุมวิท 64, เมกาบางนา, คริสตัลดีไซน์สแควร์ เอสบี ราชพฤกษ์, บางโพธิ์, พัทยา, หัวหิน, ภูเก็ต และสาขาล่าสุด ที่กำลังจะเปิดตัวในปี2559 นี้ คือ สาขาจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งหัวเมืองเศรษฐกิจสำคัญในภาคเหนือ เพื่อให้ครอบคลุมการเข้าถึงสินค้าเฮเฟเล่ได้ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเน้นการขายกลุ่มลูกค้าโครงการผ่าน พนักงานขายที่จะเข้าไปนำเสนอสินค้ากับลูกค้าโดยตรง พร้อมระบบบริการหลังการขายและ Call Centre ที่ได้รับการอบรมเรื่อง Service Mind เพื่อคอยดูแลให้คำปรึกษาลูกค้าได้ตลอดเวลา นายรัตนะกล่าวเสริม
     นอกจากนี้บูธเฮเฟเล่ภายในงานสถาปนิก’ 59 จะได้พบกับกิจกรรมพิเศษต่างๆ มากมาย อาทิ กิจกรรม สาธิตการใช้อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ฟิตติ้งติดตั้งในเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เพื่อสร้างมิติใหม่ให้เฟอร์นิเจอร์มีฟังก์ชั่นและ การใช้งานที่ตอบความต้องการได้มากขึ้น กิจกรรม Cooking Class ฟรีตลอด 6 วัน ของการจัดแสดงงานโดย เชฟฟาง ณัฐพงศ์ หน่อชูเวศ และเชฟลูกเกด จากเลอกอร์ดองเบลอ เจ้าของแบรนด์ Kzybakery (เคซี่เบอร์เกอร์รี่) ล่าสุดชนะรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งจากงาน Wedding Cake Showpiece and Petit Fours / Praline Presentation, Trafs 2015 และมุมนิทรรศการผลงานการออกแบบ “โกเรนเย่ บาย สตาร์ค” ของฟิลลิป สตาร์ค พร้อมของรางวัลพิเศษสำหรับผู้เข้าชมบูธเฮเฟเล่ที่ลงทะเบียน 20ท่านแรก รับฟรีแก้วกาแฟเฮเฟเล่ 1 ใบ หรือร่วมสนุกถ่ายภาพผลิตภัณฑ์ภายในบูธลงใน instagram หรือ facebook แล้ว #hafele พร้อมกดไลค์facebook hafelethailand รับฟรีสายรัด USB ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมและ เยี่ยมชมบูธเฮเฟเล่ได้ที่บูธเฮเฟเล่ เลขที่ S205 ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 26 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคมนี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-741-7171 หรือ www.hafele.co.th,www.facebook.com/hafelethailand