ADS


“นิปปอนแพ็ค” ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ A&W Restaurants แบบเอ็กซ์คลูซีฟในประเทศไทย จาก “A&W Restaurant Inc. USA”

นิปปอนแพ็ค คว้าสิทธิ์แฟรนไชส์ A&W ทุ่มแผนรุกแบรนด์ท้าชนเจ้าตลาด
ผุด 100 สาขา ชิงแชร์ธุรกิจ QSR เม็ดเงิน 6 หมื่นล้าน
ซีอีโอ A&W เผยแผนรุกไทยบุกอาเซียน ตั้งเป้าโตพรวด 2 เท่า
สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิปปอนแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภครายใหญ่ของประเทศ จัดตั้งบริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อดูแลแบรนด์ A&W Restaurants ซึ่งได้รับสิทธิ์บริหารแฟรนไชส์แบบเอ็กซ์คลูซีฟในประเทศไทยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ครองใจผู้บริโภคชาวไทย
โดยมี ดร.วิชัย เจริญธรรมานนท์ (ขวาสุด) รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมมี มร. เควิน บาซเนอร์ (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร A&W Restaurants, Inc. และ มร. มาร์ติน ลิม (ซ้ายสุด) ผู้จัดการทั่วไป A Great American Brand International Pte Ltd. ร่วมแสดงความยินดี ณ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ เมื่อวันก่อน

นิปปอนแพ็ค จับมือบริษัทแม่ A&W สหรัฐอเมริกา พร้อมคว้าสิทธิ์แฟรนไชส์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ แตกไลน์ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ทุ่มแผนชูแบรนด์ดังให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ท้าชนเจ้าตลาด ลุยชิงส่วนแบ่ง QSR เม็ดเงิน 6 หมื่นล้าน ตั้งเป้า 5 ปี ผุด 100 สาขา ยึดทุกทำเลหลัก ห้างสรรพสินค้า ชุมชน เขตธุรกิจ ปั๊มน้ำมัน ชูไม้เด็ดเมนูไก่ทอดหนังกรอบ ”Golden Aroma” รูทเบียร์โฟลท ซีอีโอ A&W เผยหวนรุกตลาดไทยบุกอาเซียน ปูพรมสาขาใหม่พุ่งพรวด 2 เท่าใน 5 ปี  ดันยอดขายเซาธ์อีสต์โตดับเบิ้ล
สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิปปอนแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภครายใหญ่ เปิดเผยว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับประเทศไทยและนิปปอนแพ็ค ในการประกาศความร่วมมือกับ A&W Restaurant Inc. USA โดยนิปปอนแพ็คได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ A&W แบบเอ็กซ์คลูซีฟในประเทศไทย
เป้าหมายสูงสุด คือ การนำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและอาหารที่มีรสชาติดีมาให้คนไทยสัมผัสผ่านการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจากบริษัทแม่สหรัฐอเมริกา ที่สำคัญจะนำแบรนด์ A&W ที่อยู่ในใจคนไทยกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ บริษัทได้จัดตั้ง บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อบริหารธุรกิจอาหาร ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ในเครือนิปปอนแพ็ค และมี A&W เป็นแบรนด์แรก ภายใต้ทีมผู้บริหารมืออาชีพที่อยู่ในวงการธุรกิจอาหารบริการด่วน หรือ QSR (Quick Service Restaurant) อย่างยาวนาน เคยบริหารและสร้าง
แบรนด์ร้านอาหารกลุ่ม QSR ประสบความสำเร็จมาแล้ว
การแตกไลน์ธุรกิจครั้งนี้เป็นความตั้งใจที่อยากได้แบรนด์ดีๆ เข้ามาในประเทศไทยและธุรกิจอาหาร QSR แบรนด์หลักในตลาดมีจุดแข็งของตัวเอง บางแบรนด์แข็งแรงเรื่องเบอร์เกอร์ บางแบรนด์แข็งแรงเรื่องไก่ทอด แต่เรามั่นใจทุกเมนูของ A&W และตลาดยังมีโอกาสให้แบรนด์ใหม่ เพราะขณะที่ภาวะเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี ขนาดของตลาดธุรกิจอาหารไม่เคยตก พฤติกรรมการบริโภคอาจเปลี่ยน แต่ความถี่ไม่เปลี่ยน และราคาอาหาร QSR ใกล้เคียงกับอาหารทั่วไปแต่มีมาตรฐานสูง กลุ่มเป้าหมายขยายวงกว้าง การแข่งขันจึงไม่ใช่เรื่องยากแต่เป็นเรื่องท้าทายมาก สุรพงษ์ กล่าว

ดร.วิชัย เจริญธรรมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยว่า แบรนด์ A&W เปิดตลาดในประเทศไทยมาแล้ว 31 ปี โดยเปิดสาขาแรกในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ซึ่งการทำวิจัยตลาดล่าสุดพบว่า ผู้บริโภคที่มีอายุเกิน 35 ปี ต่างรู้จักแบรนด์ A&W อย่างดี ส่วนใหญ่รู้จักจาก A&W สาขาสยามสแควร์และรู้จักเมนูรูทเบียร์ ซึ่งส่วนนี้เป็นทั้งการบ้านข้อสำคัญและทำให้รู้ว่า รูทเบียร์ A&W อยู่ในใจคนไทยมากมาย ถือเป็นจุดแข็งที่สามารถเจาะลูกค้ากลุ่มอื่นได้
กลุ่มลูกค้าหลักที่วางไว้ ได้แก่ กลุ่มลูกค้าที่รู้จักและชื่นชอบรสชาติอาหารของ A&W อยู่แล้ว กับกลุ่มลูกค้าใหม่ หรือกลุ่มอายุ 35 ปีลงมา ได้แก่ กลุ่ม Young Adult ชาย-หญิง อายุ 25-35 ปี, กลุ่ม First Jobber ที่เริ่มต้นทำงานและกลุ่มครอบครัว โดยจะนำเสนอสินค้าหลักที่ถือเป็นอาวุธเด็ดของเรา คือ เมนูไก่ทอดหอมกรอบทานคู่กับรูทเบียร์ ซึ่ง A&W ถือเป็นผู้ทำตลาดไก่ทอดกรอบ หรือ Crispy Fried Chicken เจ้าแรก ต่างจากคู่แข่งที่เป็น Soft Fried Chicken และ A&W ได้ปรับสูตรไก่ทอด เป็น Golden Aroma หนังกรอบ สีทองและหอมเครื่องเทศ ให้เข้ากับคนไทยด้วย
นอกจากนี้ เมนูของ A&W มีครบถ้วนตั้งแต่อาหารจานหลักจนถึงของหวาน โดยเมนูหลัก (Core Menu) ได้แก่ ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ เมนูของหวาน ได้แก่ วาฟเฟิล รูทเบียร์ ซึ่งแต่ละเมนูจะเพิ่มความหลากหลายด้วยนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ ทั้งแฮมเบอร์เกอร์ วาฟเฟิลตามฤดูกาล วาฟเฟิลที่เป็น Originalเฉพาะร้าน A&W ไม่มีคู่แข่งรายใดทำ และรูทเบียร์โฟลท เพิ่มความเข้มข้นด้วยไอศกรีมพรีเมี่ยม
สำหรับแผนขยายสาขาสาขาใหม่ บริษัทตั้งเป้าเปิด 100 สาขา ภายใน 5 ปี แบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ สาขา Full Shop ขนาด 200 ตารางเมตร เน้นทำเลในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า สาขามาตรฐาน (Standard) หรือสแตนด์อะโลน (Stand Alone) ขนาด 80-120 ตร.ม. เน้นทำเลชุมชน เขตธุรกิจ และคีออสก์ (Kiosk) ขนาด 20-40 ตร.ม. เน้นพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน ส่วนร้านสาขาเดิม ได้ต่อสัญญาแฟรนไชส์กับบริษัทแม่แล้ว จำนวน 21 สาขา
ในตลาด QSR ปัจจุบันฟูลช็อปมีเยอะมาก แต่รูปแบบร้านกึ่งเคาน์เตอร์ หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส มีคอร์เมนูและของหวานครบยังไม่มีในตลาด A&W จะนำเสนอในเมืองไทยเป็นเจ้าแรก และในตลาดธุรกิจอาหาร มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท แบ่งเป็น Restaurant Chain 60,000 ล้านบาทและQSR อีก 60,000 ล้าน มั่นใจว่า A&W จะเข้าไปแทรกและชิงส่วนแบ่งได้
ในอนาคต บริษัทมีแผนนำเสนอร้านรูปแบบใหม่ ซึ่ง A&W สหรัฐอเมริกากำลังทดลองร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ กึ่งๆ ย้อนยุคที่เรียกว่า Hip Nostalgic นำเสนอเรื่องราว เพื่อสร้างความพิเศษให้การรับประทานเมนูต่างๆ ในร้าน A&W เช่น การตกแต่งร้านย้อนสู่ยุคต่างๆ ของธุรกิจอาหาร QSR ตู้เพลงเก่าสมัยเด็กๆ บรรยากาศสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่รูทเบียร์เป็นเครื่องดื่มตื่นตาตื่นใจมาก เป็นธีมที่อเมริกาเพิ่งเปิดตัวในสาขาหลักๆ ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นกระแสที่มาแรงและได้รับการตอบรับจากแฟนของ A&W เป็นอย่างดีดร.วิชัย กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน มร. เควิน บาซเนอร์ (Mr. Kevin Bazner) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร A&W Restaurant Inc. เผยว่า การตัดสินใจให้สิทธิ์แฟรนไชส์กับนิปปอนแพ็ค เนื่องจากมั่นใจในทีมผู้บริหารที่มีความชำนาญ รวมถึงความรักและความชอบส่วนตัวของคุณสุรพงษ์ผู้บริหารชาวไทยที่มีต่อแบรนด์ A&W ซึ่งบริษัทแม่จะเน้นการให้ความช่วยเหลือทุกด้าน เพื่อให้แฟรนไชส์ในไทยเติบโตให้ได้มากที่สุด เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญที่ A&W ต้องกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากไม่ได้รุกตลาดมานานเพราะอยู่ในกระบวนการหาพันธมิตรที่มีทีมงานมืออาชีพ จนกระทั่งได้พันธมิตรที่สร้างความมั่นใจได้ อย่าง เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น ในครั้งนี้
มร. เควินกล่าวอีกว่า หลังจากจับมือกับพันธมิตรซื้อกิจการ A&W จากยัมแบรนด์ อิงค์ (Yum! Brand Inc.) เมื่อ 4 ปีที่แล้ว บริษัทมองเห็นโอกาสและตั้งเป้าการเติบโตแบบดับเบิ้ลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจาก A&W มีธุรกิจอยู่ในภูมิภาคนี้ตั้งแต่ปี 1963 จำนวนสาขามากกว่า 300 แห่ง หลังจากนี้จะเร่งรุกตลาดในประเทศที่มีสาขา A&W  อยู่แล้ว เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงกำลังเจรจาเปิดตลาดในฟิลิปปินส์และกลุ่ม CLMV (Cambodia-Laos-Myanmar-Vietnamกลุ่มประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม เพื่อขยายสาขาในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าภายใน 5-7 ปีข้างหน้า
เตรียมพบกับโฉมใหม่ของ A&W Restaurants ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เร็วๆ นี้ ที่ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และสถานีบริการน้ำมันใกล้บ้านคุณ