ADS


Breaking News

“งานมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า - ไทยแลนด์ ยอร์ช โชว์ 2016” จังหวัดภูเก็ต 8–14 กุมภาพันธ์ 2559

     กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมเจ้าท่า และ คณะผู้จัดงานมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมเดินหน้าสนับสนุน “งานมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า -ไทยแลนด์ ยอร์ช โชว์ 2016” งานแสดงที่รวบรวมและคัดสรรสุดยอดความอลังการของเรือสำราญนวัตกรรมสุดล้ำ พร้อมโชว์ไลฟ์สไตล์แบบหรูหรา เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่จังหวัดภูเก็ต วัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นการตอบรับนโยบายรัฐบาล และเพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและเพิ่มพูนรายได้เข้าประเทศไทย โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 14 กุมภาพันธ์ 2559 ณ อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า จังหวัดภูเก็ต
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า  “เพื่อตอบรับนโยบายของรัฐบาล ในการเร่งดำเนินการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในด้านการท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติสนใจเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น  โดยการเพิ่มสิ่งจูงใจ และมอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกื้อหนุนต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว ดังนั้น จึงมั่นใจว่า การสนับสนุนงาน “มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า – Thailand Yacht Show 2016”  ในครั้งนี้ จะสามารถตอบโจทย์รัฐบาลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์  ด้วยการสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้จะเป็น Kick-off Event ของกลุ่มตลาดเรือสำราญสำหรับปี 2559 ให้กับภูเก็ต งานนี้จะช่วยเสริมแรงการจัด International Yacht Events อาทิ งาน “The 19th Bay Regatta” งาน “Cape Panwa Hotel Phuket Raceweek” ซึ่งเป็นงานเปิดของงาน “Asian Yachting Grand Prix” และงาน “Asia Super yacht Rendez vous” ที่สำคัญงาน “มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า – Thailand  Yacht Show 2016” นับเป็นการสร้างแพลทฟอร์มให้กับผู้ประกอบการของไทยได้เปิดตัวสินค้าและบริการที่รองรับลูกค้าระดับบนแบบครบวงจร  ไม่ว่าจะเป็นการบริการทางการเงินผ่านโปรแกรม ยอร์ช ไฟแนนซ์เชี่ยล เซอร์วิส บริการเช่าระยะยาว บริการประกันภัย บริการจัดเลี้ยงบนเรือ ตลอดจนผู้ช่วยอำนวยความสะดวกบนเรือ ไม่ว่าจะเป็นกัปตันหรือลูกเรือ รวมถึงบริการหลังการขาย รวมถึงบริการด้านเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมมาเรียบร้อยแล้ว กระแสข่าวสารทางบวกจากการจัดกิจกรรมและการนำเสนอสินค้าและบริการเกี่ยวกับยอร์ชจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยปรับภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของไทยให้ดีขึ้น  ยิ่งกว่านั้น ภาพลักษณ์ของภูเก็ตในฐานะ “มารีน่าของอาเซียน” จะถูกส่งออกไปผ่านสื่อระดับโลก  ทำให้เกิดการรับรู้และยกระดับภาพลักษณ์ทั้งของภูเก็ตเองและภาพลักษณ์ของประเทศไทยโดยรวม “แบรนด์ประเทศไทย” ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าและเป็น Quality Leisure Destination จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การตอบโจทย์ในมิติทางเศรษฐกิจและสังคมในลำดับต่อมา เพราะจะช่วยดึงดูดใจกลุ่มตลาดยอร์ช ซึ่งถือเป็นกลุ่มตลาดระดับบน ที่มีความสามารถใช้จ่ายได้สูง คาดว่ารายได้ที่เกิดจากการจัดกิจกรรมนี้ ทั้งในทางตรงและทางอ้อมคงมีไม่น้อยกว่า 200 - 400 ล้าน เหรียญสหรัฐ  กลุ่มตลาดเรือสำราญของจังหวัดภูเก็ตซึ่งมีการเติบโตเฉลี่ยในช่วงปี 2549 - 2557 เพียงร้อยละ 3 น่าจะมีการขยับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2559 เป็น 3 - 5% เป็นอย่างน้อย นอกจากนี้การขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมตลาดยอร์ชยังจะก่อให้เกิดการสร้างงานและการกระจายรายได้สู่คนในพื้นที่ ผู้ประกอบการและแรงงานเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีโอกาสเพิ่มทักษะในเรื่องเฉพาะด้าน ฉะนั้น อาจกล่าวได้ว่า การสนับสนุน “งานมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า-ไทยแลนด์ ยอร์ช โชว์ 2016” เป็นการตอบโจทย์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคมอย่างแน่นอนค่ะ”
นายอาคม เติมพิทยาไพสิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า “การท่องเที่ยวทางทะเลในประเทศไทย ถือเป็นสถานที่อันดับต้นๆ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ  ซึ่งการให้การสนับสนุนจากกระทรวงฯ ครั้งนี้  ถือเป็นการช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน (Thailand Marina Hub of ASEAN) รวมทั้งกระตุ้นให้นักลงทุนได้ตระหนักถึงศักยภาพของธุรกิจเรือสำราญและมารีน่าที่สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น  ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ทาง ครม. ได้มีมติโอนภารกิจและงบประมาณการจัดงานในวงเงิน 15 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด เพื่อให้การจัดมหกรรมเรือสำราญและมารีน่าประสบความสำเร็จเหมาะสมกับเกียรติภูมิและภาพลักษณ์ของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล และสร้างแรงจูงใจให้เรือสำราญขนาดใหญ่ (Super Yacht) เข้ามาท่องเที่ยวทางทะเล ประกอบการค้าในน่านน้ำไทย พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยให้นานขึ้น เพื่อเหนี่ยวนำธุรกิจต่อเนื่อง ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบต่างๆ ที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการเข้ามาประกอบการค้าในน่านน้ำไทยของเรือสำราญขนาดใหญ่ (Super Yacht) ทั้งตัวเรือและคนประจำเรือ จึงได้ประสานงานเพื่อพิจารณากับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กรมศุลกากร กรมสรรพากร และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อหาแนวทางปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบต่างๆ ที่ยังเป็นอุปสรรคอยู่ โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้มีการออกประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องการกำหนดเงื่อนไขการอนุญาตให้เรือสำราญขนาดใหญ่ (Super Yacht) ของบุคคลผู้ไม่ต้องด้วยลักษณะที่จะถือกรรมสิทธิ์เรือไทยทำการค้าในน่านน้ำไทยตามมาตรา 47 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติเรือไทย พุทธศักราช 2481 และปัจจุบันกรมเจ้าท่าได้ออกใบอนุญาตให้เรือสำราญขนาดใหญ่สามารถประกอบการค้าในน่านน้ำไทยได้เป็นเวลา 1 ปี จำนวน 3 ลำ และยังอยู่ระหว่างประสานงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตคนประจำเรือของเรือสำราญขนาดใหญ่สามารถขออยู่ในราชอาณาจักรตลอดจนการขอขยายระยะเวลาอยู่ต่อเป็นเวลา 1 ปี ได้โดยตรงที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ สำหรับภาษีตัวเรือสำราญขนาดใหญ่ในการนำเข้ามาประกอบการค้าในน่านน้ำไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบต่างๆ ทั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจและมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะแสดงให้นานาประเทศเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน (Thailand : Marina Hub of ASEAN) และเป็นจุดเริ่มต้นที่จะพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นฐานในการเดินเรือสำราญ เพื่อการท่องเที่ยวทางทะเลของเรือสำราญขนาดใหญ่ (Super Yacht) ตามนโยบายของรัฐบาลสืบไป ผมมั่นใจว่างานนี้ จะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะช่วยเพิ่มพูนมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนให้กับประเทศอย่างครบวงจร ทั้งในมิติด้านการท่องเที่ยว ด้านแรงจูงใจ และสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวทางทะเล และอุตสาหกรรม และงานด้านบริการอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง”

นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “จังหวัดภูเก็ต มีชื่อเสียงทางด้านสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีนักธุรกิจสนใจมาลงทุนธุรกิจต่างๆ มากมาย  ผมเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพในด้านสถานที่จัดงานและความพร้อมด้านการอำนวยความสะดวกตลอดงาน จะได้รับเชื่อมั่นและความสนใจจากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจเป็นจำนวนมาก ซึ่งนับเป็นการสร้างการท่องเที่ยวในแบบประสบการณ์ใหม่ และจะสามารถตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของงานนี้ได้อย่างตรงเป้าหมายสูงสุด”    
มร. แอนดี้ เทรดเวล์ล กรรมการผู้จัดการ  บริษัท 3L Events (Thailand) Co., Ltd. คณะผู้จัดงานมหกรรมเรือสำราญและ    มารีน่า เปิดเผยว่า “ในงาน “มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า – Thailand  Yacht Show 2016” ครั้งนี้ จะเป็นการโชว์เรือสำราญทั้งหมดกว่า 50 ลำ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 2,000 คน  ประกอบด้วยผู้ประกอบการ เจ้าของเรือ อู่ต่อเรือและซ่อมเรือ นักลงทุน รวมทั้งผู้เข้าชมงานทั่วไป  ซึ่งก่อนหน้าวันพิธีเปิดงาน ระหว่างวันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ คณะผู้จัดงานจะมีการจัดกิจกรรมกีฬาทางน้ำ อาทิ บอร์ดยืนพาย เรือใบ คายัค และปาร์ตี้ชายหาด ตามสถานที่ต่างๆ ภายในเกาะภูเก็ต  เพื่อสร้างการรับรู้และช่วยกระตุ้นความสนใจให้มีการเข้าชมงานนี้ให้มากยิ่งขึ้น ส่วนพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 - 14 กุมภาพันธ์  ศกนี้ ณ บริเวณ อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวด้านเรือสำราญ และมีความสวยงามไม่แพ้อ่าวอื่นในจังหวัดภูเก็ต 
ภายในงานผู้เข้าชมจะตื่นตาตื่นใจกับนวัตกรรมสุดล้ำจากผู้เชี่ยวชาญด้านเรือสำราญ พร้อมชมความงามของเรือสำราญแบรนด์ดังระดับโลก อาทิ Azimut จากอิตาลี และอีกหนึ่งไฮไลท์คือการแสดงจากเรือซุปเปอร์ยอร์ช  “Dunia Baru เป็นเรือสำราญขนาด 51 เมตร ดีไซน์ในแบบอินโดนีเซียโบราณเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความเรียบหรู ความล้ำสมัย และความสง่างาม  สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandyachtshow.com หรือหากต้องการชมเรือซุปเปอร์ยอร์ช ดูเนีย บารู ภายในงาน “มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า – Thailand  Yacht Show 2016”  สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่เว็บไซต์
www.thailandyachtshow.com/visitor-registration หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ Fleur Tomlinson เพื่อเข้าชมเรือสำราญ ที่อีเมล์ fleur@37southyachts.com