ADS


Breaking News

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ปลื้มโต 130% ประกาศอาวุธหลัก กลยุทธ์ บลูโอเชียน โลเกชั่น

นำพาธุรกิจเติบโตแบบสวนกระแสตลอด 6 ปี ตั้งเป้าปี 59 เปิดตัวโครงการใหม่ 8 - 10 โครงการ  มูลค่า หมื่นล้าน
     ณ  My Bar  โรงแรมดุสิตธานี,  15  มกราคม  2559  :  บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด  (มหาชน)  หรือ ORI  นำโดย  นายพีระพงศ์  จรูญเอก  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร   ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  ประเภทคอนโดมิเนียมไฮไรซ์ และ โลว์ไรซ์ เกาะแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ศรีราชา ได้จัดงาน Thanks Press ORI Love Party  ขึ้น เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณต่อสื่อมวลชนที่ได้ให้ความสนับสนุนมาโดยตลอด ซึ่งเป็นอีกส่วนสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จของออริจิ้น พร้อมประกาศแผนการดำเนินธุรกิจ  และ ทิศทางของออริจิ้น ในปี 2559  นี้  
     นายพีระพงศ์  จรูญเอก  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า  “หลังจากที่นำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์  เป็นบริษัทมหาชน อย่างสมภาคภูมิ  และเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการ ไปเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 58 ได้รับกระแสตอบรับอย่างสูง และประสบความสำเร็จตลอดระยะเวลา  6 ปี ของการดำเนินธุรกิจมาจากความสามารถในการจับช่องว่างทางการตลาดและการพัฒนาโครงการให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า  ด้วยกลยุทธ์ บลูโอเชี่ยน  (Blue Ocean Strategy) เจาะศักยภาพทำเลที่คู่แข่งมองข้าม  อาทิ  ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า  และ  พื้นที่ทำเลแหล่งอุตสาหกรรม ต่าง ๆ   ที่มีความต้องการที่แท้จริงและมีกำลังซื้อ  (Real Demand)   ด้วยวิสัยทัศน์ที่ยึดมั่น ใน  5  แนวทางคือ   
  1. เป็นผู้นำในการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ (Uniqueness  Project  Design)                                                                              
  2. แนวคิดการออกแบบฟังก์ชั่นใช้งานห้องชุดที่คุ้มค่า   (Best Function of Unit Plan Design)  รวมถึงแนวคิดการออกแบบภาพรวมโครงการ ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่สีเขียวที่มากกว่า พื้นที่ห้องชุดที่ออกแบบให้ประโยชน์ใช้สอยจากพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า  
  3. กลยุทธ์ด้านราคา ที่สร้างความได้เปรียบให้กับสินค้าของ ออริจิ้น  โครงการคุณภาพในระดับที่ผู้บริโภคเอื้อมถึง  ที่มาควบคู่กับการพัฒนาโครงการคุณภาพสูง ที่สามารถตอบรับความต้องการของผู้บริโภคตามยุคสมัยได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด       
  4. การรวมนวัตกรรม Living Innovation Strategy ที่นำมาไว้ในโครงการ สร้างสรรค์สิ่งดีที่สุดให้กับลูกค้า   
  5. เป็นเลิศในด้านการบริการหลังการขาย   (After Sale Service Excellent)

     โดยได้ประกาศเป้าหมายและทิศทางของแผนระยะสั้น และ แผนระยะยาว  คือ    แผนระยะสั้น  5 ปี ระหว่าง 2558-2562   เป็น 1 ใน 3 ผู้นำบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียม และ แผนระยะยาว  10 ปี   ตั้งแต่ พ.ศ. 2558-2567   เป็น 1 ใน 5 ผู้นำบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่อยู่อาศัย  


     นายพีระพงศ์   ได้เปิดเผยถึงผลประกอบการตลอดมาที่โดดเด่น  พร้อมทั้ง เป้าหมายและทิศทางการดำเนินธุรกิจสำหรับปี  2559   สำหรับการตั้งเป้ารายได้ปี  2559  เติบโต  100%  นับเป็นมูลค่า  4,000  ล้านบาท  เมื่อเปรียบเทียบกับปี  2558  สามารถสร้างสถิติการขายบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้  2,000  ล้านบาท    และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ในปี  2559 นี้  บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่นับเป็นมูลค่ารวมกว่า  10,000  ล้านบาท บาท โดยรายได้ในปี 2559  นี้   จะมาจากการทยอยรับรู้รายได้จากยอดขายที่รอโอน  (Backlog) ที่มีในมือประมาณ 7,000 ล้านบาท    ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้ได้ถึงปี 2560   

     สำหรับรายละเอียดโครงการในปี 2559 นั้น   นายพีระพงศ์เปิดเผยเพิ่มเติมว่า   “ตลอดระยะเวลา   6  ปีที่ผ่านมา      ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้   ได้เปิดตัวโครงการแล้วทั้งสิ้น  25  โครงการ   เป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ  13  โครงการ    โครงการรอโอนและส่งมอบ 12 โครงการ    โดยในปี 2558   ที่ผ่านมา บริษัทมีการเปิดโครงการใหม่ จำนวน 10 โครงการ มูลคาเพิ่ม 7,345 ล้านบาท    สำหรับปี 2559   บริษัทมีแผนการเปิดโครงการใหม่ จำนวน  8 - 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000  ล้านบาท  เป็นโครงการที่อยู่อาศัยในแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แนวนิคม - อุตสาหกรรม และในแนวกลุ่มตลาดเปิดใหม่ ซึ่งในโซนดังกล่าวยังมีความต้องการอย่างต่อเนือง และยังมีกำลังซื้อที่ดี    พร้อมทั้ง  มีกำหนดส่งมอบโครงการคุณภาพ ที่จะแล้วเสร็จในปีนี้ จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท    นอกจากนี้  บริษัทยังได้ตั้งเป้าหมายยอดขาย (Presale) ในปี 2559 ไว้ที่  7,500 ล้านบาท   เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่สามารถบรรลุเป้าหมายเป็นจำนวน   5,300 ล้านบาท   ซึ่งสูงขึ้นจากเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิม คือ  5,000 ล้านบาท    โดยมีการเติบโตขึ้นจากปี 2557  ทีมียอดขายประมาณ  2,300 ล้านบาท  เติบโต 130%
สำหรับ Highlight ในไตรมาส 1 นี้ บริษัทฯเตรียมออกตัวแรง เปิดพรีเซล 3 โครงการใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ NottingHill ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากมาโดยตลอด บน 3 ทำเลทองได้แก่ NottingHill สุขุมวิท-แพรกษา คอนโดสูง 35 ชั้น ใกล้ BTS แพรกษา และโรบินสัน สมุทรปราการ วิวทะเล เห็นแม่น้ำ มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท เริ่มต้นที่ 1.09 ล้านบาท , NottingHill แหลมฉบัง-ศรีราชา คอนโดสูง 36 ชั้น คอนโดแห่งใหม่ส่วนกลางลอยฟ้า ตรงข้าม ม.เกษตร ศรีราชา มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท เริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท และ NottingHill สะพานใหม่สูง 14 ชั้น ใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วน ชีวิตติดธรรมชาติ ใกล้ BTS สายหยุด มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท เริ่มต้นเพียง 1.6 ล้านบาท

     ในส่วนของกิจกรรมการตลาด ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  วางแผนจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง  เริ่มจากเดือนกุมภาพันธ์ ก็จะเป็นงานใหญ่ที่สุดแห่งปีของออริจิ้นตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา ซึ่งจัดสถานที่  ณ  สยามพารากอน  แฟชั่น ฮอลล์  บนพื้นที่กว่า 450 ตรม.  ในวันที่ 5 – 8 ก.พ.59 นี้  พบกับคอนโด Ready To Move In   ทำเลดี  ที่จะทำให้การใช้ชีวิตของคุณ เพียบพร้อมทุกความสะดวกสบาย ตอบรับรูปแบบการใช้ชีวิต   โดยนำคอนโดพร้อมอยู่กว่า 10 โครงการคุณภาพ ในราคาสุดคุ้ม  พร้อมข้อเสนอพิเศษ...ให้ลูกค้าอีกด้วย
     สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 นายพีระพงศ์   ได้ให้ความเห็นว่า  ตลาดอสังหาฯ มีแนวโน้มว่าน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น ตามกำลังซื้อที่คาดว่าจะเพิ่ม โดยมีอัตราส่วนเติบโตประมาณ 10 – 15% เนื่องจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา  เช่น  นโยบายการลงทุน ในโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น รวมทั้งสถานการณ์การเมืองที่มีความชัดเจนมากขึ้น เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้ประชากรภายในประเทศมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นตัว คาดว่าเศรษฐกิจจะมีการขยายตัวตาม    นายพีระพงศ์ กล่าวปิดท้าย

ORIGIN  PORTFOLIO

บริษัท  ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  จำกัด (มหาชน) พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมคุณภาพรวมทั้งสิ้น 25 โครงการ  มูลค่ารวมกว่า  15,000 ล้านบาท  ประกอบด้วย

โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ  13  โครงการ
  1. Sense of London        สุขุมวิท  109    8 ชั้น  162   ยูนิต  199 ล้านบาท
  2. Kensington            สุขุมวิท  107    8  ชั้น  167  ยูนิต    300  ล้านบาท
  3. Notting Hill            สุขุมวิท  107    8  ชั้น  157  ยูนิต    340  ล้านบาท
  4. KnightsBridge        สุขุมวิท  107    25 ชั้น  276  ยูนิต    810 ล้านบาท
  5. The Knight I        สุขุมวิท  107    8 ชั้น      70  ยูนิต    140 ล้านบาท
  6. The Knight II        สุขุมวิท  107    8 ชั้น      55  ยูนิต    114 ล้านบาท
  7. B-Loft 109            สุขุมวิท  109    8 ชั้น    171  ยูนิต    240 ล้านบาท
  8. B-Loft 115            สุขุมวิท  115    8 ชั้น    203  ยูนิต    295 ล้านบาท
  9. B Republic         สุขุมวิท  101/1    8 ชั้น    318  ยูนิต    680 ล้านบาท
  10. Villa Lassalle        สุขุมวิท  105    8 ชั้น     353  ยูนิต    720 ล้านบาท
  11. Pause A            สุขุมวิท  107    8 ชั้น      78  ยูนิต    195 ล้านบาท
  12. Pause B            สุขุมวิท  107    8 ชั้น      78  ยูนิต    195 ล้านบาท
  13. Tropicana            BTS เอราวัณ    8  ชั้น    363  ยูนิต    680 ล้านบาท
       รวม           4,908 ล้านบาท
โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา  12  โครงการ  
  1. KnightsBridge Sky River     สมุทรปราการ 32  ชั้น     460  ยูนิต        1,430 ล้านบาท
  2. Notting Hill Tiwanon    ติวานนท์    8  ชั้น    180  ยูนิต    390 ล้านบาท
  3. Pause 103            สุขุมวิท 103    8  ชั้น    269  ยูนิต    560 ล้านบาท
  4. Pause 115            สุขุมวิท 115    8  ชั้น    310  ยูนิต    540 ล้านบาท
  5. Pause ID            แบริ่ง 16    8  ชั้น    201  ยูนิต    345 ล้านบาท
  6. The Cabana         สำโรง         8  ชั้น    719  ยูนิต       1,100 ล้านบาท
  7. Notting Hill Kaset        พหลฯ-เกษตร    8 ชั้น    194  ยูนิต           570 ล้านบาท
  8. KnightsBridge Sky City     สะพานใหม่      15 ชั้น     490  ยูนิต         1,340 ล้านบาท
  9. KnightsBridge The Ocean    ศรีราชา            36 ชั้น    722  ยูนิต         2,500 ล้านบาท
  10. Kensington         พหลฯ-เกษตร    8 ชั้น     229 ยูนิต      540  ล้านบาท
  11. Kensington    (Phase1)    แหลมฉบัง-ศรีราชา 8 ชั้น  399 ยูนิต      530 ล้านบาท
  12. Kensington    (Phase2)    แหลมฉบัง-ศรีราชา 8 ชั้น  398 ยูนิต      600 ล้านบาท
         รวม          10,445 ล้านบาท