ADS


Breaking News

อินทัช แต่งตั้งนายฟิลิป เชียง ชอง แทน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอินทัช

บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ประกาศแต่งตั้งนายฟิลิป เชียง ชอง แทน (Mr. Phillip Chen Chong Tan) รักษาการในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอินทัช (Acting Group Chief Executive Officer) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 โดยดำรงตำแหน่งแทนนายสมประสงค์ บุญยะชัย ที่เกษียณอายุเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2558
ก่อนหน้านี้นายฟิลิป ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการ (President) บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา  มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทางด้านการเงิน เคยทำงานกับบริษัทข้ามชาติในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามากกว่า 27 ปี  เช่น บริษัท เอทีแอนด์ที (ประเทศไทย), เบลล์แล็ปส์ และเข้าสู่ธุรกิจบริการด้านการเงินโดยทำงานกับบริษัท จีอี แคปปิตอล จำกัด โดยเป็นทีมร่วมก่อตั้งบริษัท จีอี แคปปิตอล ในประเทศไทย ดำรงตำแหน่ง Chief Information Officer บริษัท จีอี แคปปิตอล คอมเมอร์เชียล เซอร์วิส และ Senior Vice President – Business Intelligence บริษัท จีอี คอร์ปอเรท ไฟแนนเชียล เซอร์วิส มลรัฐคอนเนคติกัต ประเทศสหรัฐอเมริกาตามลำดับ และในปี 2550 กลับมารับตำแหน่ง Chief Marketing Officer บริษัท จีอี มันนี่ (ประเทศไทย) จำกัด และได้รับแต่งตั้งเป็น Chief Executive Officer ในปี 2552 ด้วย นอกจากนี้ นายฟิลิปยังมีบทบาทสำคัญในการควบรวมและขยายธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคลรายย่อย และธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ หลังจากที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้เข้าซื้อกิจการจากจีอี เอไอจี และเอชเอสบีซี 
นายฟิลิป กล่าวว่า "การเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและมีความท้าทายเป็นอย่างมาก                เป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับผมในการเป็นผู้นำองค์กรขนาดใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือพัฒนาสังคมและประเทศมาโดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สำหรับผมถือเป็นบทบาทที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่ามาก คุณสมประสงค์ได้วางรากฐาน วางกลยุทธ์การดำเนินงานที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน และดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น นักลงทุน คู่ค้า เจ้าหนี้ ลูกค้า พนักงาน และสังคม ผมมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะสานต่อนโยบายหลักดังกล่าว ภายใต้คำแนะนำของคณะกรรมการบริษัทและคุณสมประสงค์ รวมถึงจะได้นำความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของผมในด้านเทคโนโลยี ธุรกิจค้าปลีก และการจัดการลูกค้ามาปรับใช้ ขณะเดียวกันผมจะดำเนินงานตามหลักการของการกำกับดูแลกิจการที่ดีเพื่อสร้างการเติบโต และความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงให้กับบริษัทและกลุ่มอินทัชในอนาคต"
ในโอกาสนี้ บริษัทฯ ขอแสดงความขอบคุณต่อนายสมประสงค์ ที่ได้ทุ่มเททำงานด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจให้กับกลุ่มอินทัช ตลอดระยะเวลา 24 ปีที่ผ่านมา จนสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ อันเนื่องมาจากความท้าทายและแรงกดดันที่เกิดจากสภาวะแวดล้อมภายนอกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็วทั้งในทางการเมือง  เศรษฐกิจ และสังคม ด้วยความรู้ ความสามารถ ความมีวิริยะ อุตสาหะ และมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของนายสมประสงค์ ที่ได้วางรากฐานของความสำเร็จและการเติบโตที่มั่นคง และยั่งยืนให้กับกลุ่มอินทัช จนเป็นที่ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับแก่สาธารณชนทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ จนได้รับการยกย่องให้รับรางวัลผู้บริหารสูงสุดยอดเยี่ยม Best CEO Awards จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มอบให้แก่ผู้บริหารสูงสุดที่มีความเป็นผู้นำ มีวิสัยทัศน์ ความรู้ ความสามารถในการนำองค์กรสู่ความสำเร็จ รวมถึงเป็นผู้ยึดถือหลักคุณธรรมในการบริหารองค์กรถึงสองครั้ง ครั้งแรกในปี 2555 และครั้งล่าสุดในปี 2558 ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังได้รับรางวัลแห่งความสำเร็จต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ รางวัล คณะกรรมการแห่งปีดีเด่น  จากสถาบันกรรมการบริษัทไทย  รางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกในปี 2556 รางวัลสุดยอดหุ้นขวัญใจมหาชน และรางวัลหุ้นขวัญใจมหาชนกลุ่มเทคโนโลยีในปี 2555 และ 2557 เป็นต้น
นายสมประสงค์ กล่าวว่า “ผมมีความเชื่อมั่นในตัวคุณฟิลิป เพราะเท่าที่ผมได้รู้จัก ผมเห็นว่าคุณฟิลิปเป็นคนที่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น (open mind) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของผู้นำ มีความเฉลียวฉลาด และมีวิสัยทัศน์กว้างไกลในอันที่จะสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร (intelligent and long term thinking) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมยินดีมาก คุณฟิลิปมีแนวคิดที่ตรงกับผมในการที่จะสร้างประโยชน์ในระยะยาวให้กับบริษัทและกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย นอกจากนี้ คุณฟิลิปยังเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ (competency) สั่งสมประสบการณ์ด้านการเงิน การธนาคาร และด้านอื่นๆ มากมาย ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับการบริหารงานของอินทัชที่เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ (Holding Company) ให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง     และยั่งยืนต่อไป”
“สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณบริษัท ผู้ถือหุ้นหลัก นักลงทุน คู่ค้า เจ้าหนี้ ลูกค้า พนักงาน ที่ได้ให้โอกาสผมในการทำงาน ช่วยสนับสนุน และร่วมฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอินทัช ขอให้ทุกท่านที่เคยสนับสนุนผมและบริษัท ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของคุณฟิลิปด้วย”
     ทั้งนี้ นายสมประสงค์  จะยังคงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึง 31 ธันวาคม 2559 และดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหารของบริษัท รวมทั้งดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด

ประวัตินายฟิลิป เชียง ชอง แทน (Mr. Phillip Chen Chong Tan)
นายฟิลิป เชียง ชอง แทน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิศวกรรรมศาสตร์ สาขาอิเล็คทรอนิกส์ จากมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นายฟิลิป เป็นผู้บริหารที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์การทำงานกับบริษัทข้ามชาติในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามากกว่า 27 ปี  เช่น บริษัท เอทีแอนด์ที (ประเทศไทย), เบลล์แล็ปส์ และเข้าสู่ธุรกิจบริการด้านการเงินโดยทำงานกับบริษัท จีอี แคปปิตอล จำกัด โดยเป็นทีมร่วมก่อตั้งบริษัท จีอี แคปปิตอล ในประเทศไทย รับผิดชอบงานพัฒนาธุรกิจ งานตรวจสอบและรับรองคุณภาพ งานการพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังได้ดำรงตำแหน่ง Chief Information Officer ของบริษัท จีอี แคปปิตอล คอมเมอร์เชียล เซอร์วิส และ Senior Vice President – Business Intelligence บริษัท จีอี คอร์ปอเรท ไฟแนนเชียล เซอร์วิส มลรัฐคอนเนคติกัต ประเทศสหรัฐอเมริกาตามลำดับ และกลับมารับตำแหน่ง Chief Executive Officer บริษัท จีอี มันนี่ (ประเทศไทย) จำกัด ในปี 2552
     ก่อนที่จะมาร่วมงานกับอินทัช คุณฟิลิป มีบทบาทสำคัญในการควบรวมและขยายธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคลรายย่อย และธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ หลังจากที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้เข้าซื้อกิจการจากจีอี เอไอจี และเอชเอสบีซี โดยดำรงตำแหน่ง Head of Retail and Consumer Banking ดูแลรับผิดชอบธุรกิจธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยและคอนซูเมอร์ นอกจากนี้ ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารในคณะกรรมการธนาคาร และเป็นประธานคณะกรรมการบริษัทย่อยในกลุ่มธุรกิจของธนาคารกรุงศรีอยุธยา อีกรวม 6 แห่ง